ตอบแบบคนรู้บ้างไม่รู้บ้างงูๆปลาๆ หรือรู้ไม่จริงแต่ลักจำมานะครับ

1. เพราะสมัยนี้เขาใช้จรวดนำวิถีโจมตีเรือเป้นอาวุธหลักที่มีความแม่นยำและรุนแรง ทำให้ปืนเรือกลายเป็นอาวุธรองเพื่อใช้โจมตีเรือฝ่ายตรงข้ามที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก จึงไม่จำเป้นต้องใช้ปืนเรือใหญ่ๆและเยอะๆ ต่างจากสมัยสงครามโลกที่ไม่มีจรวดนำวิถีโจมตีเรือเหมือนสมัยนี้แถมเรือมีขนาดใหญ่โต ต้องซัลโวกันด้วยปืนเรือ

2.ปืนขนาด 76 มม. คงจะมีอัตราการยิงได้เร็วกว่าปืนขนาด 100 มม.มั้งครับ (แต่ 100 มม. นี่รู้สึกจะมีเป็นของจีนในเรือชุด ร.ล.เจ้าพระยามั้งครับ)

3.ไม่เข้าใจคำถาม เขาก็เรียก จรวดโทมาฮอว์ค นี่(AGM/BGM-109) เป็นอาวุธนำวิถีโจมตีระยะกลางถึงไกลความเร็วต่ำกว่าเสียง มีในโครงการของ DTI หรือไม่จำไม่ได้ครับ

1.เพราะปัจจุบันมีอาวุธนำวิถี พื้น สู่ พื้น ที่มีอนุภาพการทำลายมากกว่า ยิงไกลกว่าและแม่นยำกว่า ปืนเรือจึงถูกลดทอนภารกิจ ใช้เพื่อยิงเป้าหมายที่มีคุณค่าต่ำ หรือใช้ยิงระดมฝั่ง

2.ส่วนใหญ่ ปืนเรือ จะมีขนาดใหญ่ตามขนาดระวางขับน้ำเรือ  สำหรับทร.ไทย ปืนเรือ 76/62 จะมีใช้ในเรือเร็วโจมตี และ เรือตรวจการณ์  ส่วนเรือที่มีขนาดใหญ่เช่นเรือฟรีเกต หรือเรือพิฆาต จะติดตั้งปืนคาลิเบอร์ใหญ่ เช่น เรือหลวง มกุฎราชกุมาร เรือชุดเจ้าพระยา เรือพิฆาตชั้น Knox เรือหลวง นเรศวร เหล่านี้ ใช้ปืนขนาด 4.5, 4 และ 5 นิ้ว โดยจัดว่ามีขนาดกว้างปากลำกล้องมาก  ในขณะที่เรือบางชุด ซึ่งมีภารกิจรบทางน้ำเป็นหลัก แต่ไม่ได้รับติดตั้ง อาวุธนำวิถี ก็จะได้รับการติดตั้งปืนเรือคู่ เช๋น รล.มกุฎราชกุมาร รจป.ชุดชลบุรี  เช่นนี้ จะมีอำนาจการยิงสูงขึ้นมาก

3.เป็นจรวดร่อน  เช่นนี้เป็นอาวุธที่ใช้เทคโนโลยี่สูงมาก  สามารถร่อนเข้าเป้าหมายได้ตามความสูงต่ำของภูมิประทศ  หลายประเทศที่พัฒนาจรวดพิสัยยิงไกล ยังเป็นเทคโนโลยี่แบบดั้งเดิม  สำหรับขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป ก็ยังไม่ใช้จรวดร่อน

พี่ๆเค้าตอบไปเคลียร์แล้วครับ ส่วนเรื่องจรวดร่อนแบบโทมาฮอร์ค ในแผนพัฒนาของ DTI มีครับผม

ประมาณนี้ครับ

เรือปืนประจัญบานที่ติดปืน14นิ้ว+++เขาจะโละทิ้งกันหมดละครับ แทบไม่มีการสร้างเรือประเภทนี้ขึ้นมาใหม่

เพราะเรือประจัญบานหรือเรือลาดตระเวนหนักมันมีความยืดหยุ่นในภาระกิจน้อยกว่าพวกเรือฟรีเกตหรือเรือพิฆาต

ตอนนี้ไม่ต้องการเรือปืนใหญ่ๆแล้วครับ ต้องการแค่เครื่อง F-18 ซักลำกับมิสไซล์ต่อต้านเรือรบ แค่นี้ก็พอแล้วครับ

ต้อนนี้ USA เองก็กลับมาให้ความสำคันกับปืนใหญ่ที่ใช้โจมตีชายฝั่งครับ เพราะว่าการนำเอา จรวดโทมาฮอว์ค มาใช้ในการโจมตีต่อเป้าหมายชายฝั่งนั้นไม่อ่อนตัวและ

หลากหลายเท่าที่คร ปืน 76 mm ก็เล็กและใกล้ไป จึงนำเอา 155 mm รุ่นใหม่มาใช้ในเรือครับ

DDG 1000 Zumwalt Class Destroyer

ที่มา

http://www.youtube.com/watch?v=-f7IN9D5scM&feature=related

ตามความเห็นส่วนตัวของผม ปืนใหญ่ประจำเรือยังมีความสำคัญอยู่ไม่ว่ายุคไหนก็แล้วแต่ เพราะการที่ต้องติดพวก อวป.ให้กับเรือมันมีระบบขั้นตอนที่ซับซ้อนทั้งระบบควบคุมการยิงระบบตรวจจับเซ็นเซอร์ต่างอีกมากมาย พวก อวป.มันก็จำเป็นแต่มันเป็นการยิงระยะพ้นขอบฟ้า หรืออาจจะบอกว่าทุกวันนี้เขาก็รบแบบพ้นขอบฟ้าอยู่แล้วมันก็จริง ในบางสถานการณ์มันก็ไม่มีความคล่องตัว เช่นการระดมยิงชายฝั่งหรือหากเกิดเหตุการที่ต้องเจอกับพวกเรือเร็วทั้งหลายที่ซ่อนพลางตัวเองแล้วลอบโจมตีครั้นเราจะเอา อวป.ไปยิงมันก็ช้าไปเสียแล้ว ปืนใหญ่จะมีความคล่องตัวกว่า อาจจะมีบางท่านบอกว่ามันหมดยุคของปืนใหญ่ประจำเรือแล้ว ผมว่าปืนใหญ่ยังสำคัญเสมอเพียงแต่เราจะกำหนดขนาดมาตราฐานลำกล้องที่เท่าไหร่ ระยะยิงเท่าไหร่ ชนิดของกระสุน ระบบควบคุมการยิง เพราะเทคโนโลยีมันก้าวไปมากมีทั้งกระสุนนำวิถี กระสุนต่อระยะ ยิ่งขนาดกระสุนใหญ่เท่าไหร่ยิงเพิ่มอัตราการทำลาย แต่คงไม่เกิน 155 มม.เพราะมันจะมีผลต่อน้ำหนัก และอีกเหตุผลหนึ่ที่ปืนใหญ่ยังมีความสำคัญคือ ค่าปฏิบัติการมันต่ำกว่าพวก อวป. แท่นยิงก็มีอายุการยิง ลูกอาวุธก็มีอายุการใช้งาน ราคาก็แพงต่อ 1 ลูก ส่วนปืนใหญ่ลำกล้อง1 ลำกล้องก็มีอายุการใช้งานแต่ยิงกระสุนได้มากกว่า และลูกกระสุนตรวจจับได้ยากนอกจากตรวจตำแหน่งการยิงเท่านั้น