ผมว่า F-35 นะ ดีที่สุดแล้ว แต่ถ้าไม่มีงบเพราะ F-35 ดูท่าทางจะแพงขึ้นทุกวัน F/A-18C/D ก็น่าสนนะครับ เคยสั่งซื้อมา ขายต่อให้เมกา 555 เสียดายจริงๆได้ F 18 มาบินแล้ว เง้อ F18 ก็ดีนะ ไม่ก็ su-30MKK ก็น่าสนนะครับ ราคาก็ 1,590 ล้านบาทต่อลำ หรือ su-30mk2 ลำละ 1,300ล้านบาท 2 อย่างถือว่าไม่แพง แต่ su ค่าอย่างอื่นภายหลังค่อนค่างแพงและต้องเปลียนอะไหลถี่กว่าเครื่องฝั่งเมกา หรือจะกลับมาดู gripen ลำละ 1,600 ล้านบาท แพงกว่า 2 ตัวแรกอีก ทุกคนเข้าใจว่า su แพงกว่า จริงๆไม่เลย แต่gripen ค่าใช้จ่ายหลังใช้น้อยกว่ามาก ส่วน F-18C ลำละ 1,600 ล้านบาท เท่า gripen เลยน่าสนนะ ส่วนพระเอกของเราที่ทุกคนอยากได้ F 35 ราคาลำละ 5,520 ล้านบาท แพงกว่าอย่างอื่นลิบๆเลยอะ อยากได้อย่างไหน ก็ไปดาวซะนะครับ ทอ. อิอิ แต่ผมว่า gripen C/D ของเราไม่น่าจะ up เป็น NG ได้เพราะดครงสร้างไม่เหมือนกัน แต่ถ้าอัพระบบเหมือน F 16mlu ก็น่าจะได้นะ

ปล.ราคา เป็นเครื่องเปล่าๆตามรุ่นนั้นๆไม่แถมอะไรมาเครื่องเปล่าตามรุ่นที่ระบุเลย

อยากเห็นทบ.ประกาศจุดยืน การจัดหาเครื่องบินยุคที่5เพื่อทดเเทนf16

เฮอๆ ท่าน  ทบ. เขาจะจัดหาเครื่องบินยุคต์ที่ 5 แทน  F-16 ทำไมครับ 

ทบ...? ทบ เค้าเอาoplot ไปแล้วนะครับ *--*

จุดยืนใดๆ ก็คงอยู่บนพื้นฐานของงบประมาณและความคุ้มค่ามากที่สุด

ทบ.=กองทัพบก

ทอ.=กองทัพอากาศ

ตกลงเจ้าของกระทู้หมายถึง ทบ.หรือทอ.ครับ

ทอ.ครับ ขออภัยด้วยครับ สับสนนิดๆ

ทบ.= ทหารบก

ทอ.=ทหารอากาศ

ไม่ใช่หรือครับ หรือผมเข้าใจผิดหว่า

เอายุคนี้ให้รอดก่อนดีไหม แค่ gripen ยังไม่ครบฝูงเลย

ส่วนตัวคิดว่า ถ้าเงินน้อย ทอ.คงมองไปที่ gripen ng หรือ F-16 block60 มากกว่า

แต่ถ้าเงินมากก็มองไปที่ F-15E หรือ su30 เพราะจริงๆแล้ว ทอ.มีบ.ขับไล่ประสิทธิภาพสูงคือ gripen อยู่แล้ว ขาดแต่เครื่องบินขับไล่/โจมตีเชิงลึกที่ประเทศเพื่อนบ้านเขามีกันหมดแล้ว

โหเว็ปเป็นอะไรครับเนี่ย ล๊อคอินโคตรยากเลยเหอะๆๆ

F/A18 C/D คงไม่น่าสนใจแล้วแหละครับ ถ้าจะเอามาทดแทน F16 ควรจะเป็นเครื่องบินยุคทึ่5จริงๆครับ F/A 18 C/D มันเป็นเครื่องบินยุค 4.5 ซึ่งอย่าต่ำก็ต้องเป็นเครื่องบินยุค 4.5++ อย่าง GRIPEN C/D หรือ N/G หรือ SU30 MK RAFLE EUROFIGHTER F15 รุ่นใหม่ๆ หรือไม่ก็ F/A 18 E/F ครับแต่ต้องอัฟเกรดเรด้าร์ให้เป็นแบบ AESA ถึงจะพอรับมือกับเครื่องบินขับไล่ยุคที่ 5 ได้ครับ อีกหน่อยถ้าเรามีเครื่องยุคที่ 5 อย่าง F35 จริงๆก็คงไม่น่ากลัวอะไร เพราะตอนนี้ทางรัสเซีย กับ จีน ก็ได้พัฒนาเครื่องบินยุคที่ 5คือ PAK-FA T-50 และ J20 ของจีน ซึ่งเพื่อนบ้านเราก็มีสิทธิ์จะจัดซื้อมาประจำการในอนาคตเช่นเดียวกัน หรือไม่เครื่องบินยุคที่ 4.5 ++ อย่าง Su35 ก็มีเรด้าร์แบบ SUK AE ซึ่งเป็นเรด้าร์แบบ STEAL KILLER คือสามารถจับเครื่องบินหรือวัตคุที่มีหน้าตัดสะท้อนเรด้าร์ขนาดเล็กมากๆ เท่านกได้ตั้งแต่ระยะไกลครับ ดังนั้นถ้าเราไม่สามารถจัดหา F35 ได้จริงๆ เราก็ยังมีตัวเลือกอีกหลายแบบครับบางทีภูมิภาคบ้านเราอาจจะไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องบินขับไล่ยุคที่ 5 ก็ได้ครับมันนขึ้นอยุ่กับภัยคุกคามครับ สมมุติว่าเราไม่สามารถจัดหา F35 ได้เพราะราคามหาโหด แต่ในอนาคตก็ไม่แน่นะๆครับ เพราะมีออเดอร์สั่งซื้อเยอะ ถ้าผลิตเยอะๆราคาอาจจะลดลงได้ครับกว่าเราจะมีสิทธิ์จัดซื้อมาใช้งานจริงๆ ถ้าเราไม่สามารถจัดหา F35 ได้ เราก็ยังมี SAAB 2020 จากบ้านเกิดเดียวกับน้อยแจ๊ส ของเรามาประจำการก็ได้ครับถึงตอนนี้จะยังเป็นโครงการแต่กว่าเราจะรอF35 โครงการนี้ก็คงเสร้จก่อนแหละครับ ผมว่ามีโอกาสกว่า F35 ด้วย ซึ่งF35 เองก็ยังหวั่นๆเลยว่าจะโดน DOWN GRADE ลดขีดความสามารถหรือเปล่า ถ้าเป็นแบบลดขีดความสามารถ เราสู้ซื้อ SAAB 2020 หรือ GRIPEN NG ไม่ดีกว่าหรือครับ ส่วนเรื่องโครงสร้างระหว่าง C/D อัฟเป็น NG นั้นได้ครับ ไม่เกินความสามารถของสวีเด็นหรอกครับ ขนาดรุ่น A/B เค้ายังอัฟเป็น C/D ได้เลย

ส่วนเรื่องเครื่องบินโจมตีทางลึก มันมีก็ดีครับแต่ประเทศเราเน้นนโยบายไม่รุกรานใคร เครื่องบิน หรืออาวุธยุทโธปกรณืในกองทัพเราเน้นจัดหาระบบแบบตั้งรับมากกว่า + กับเครื่องบินขนาดใหญ่ให้เงินซ่อมบำรุงรักษาเยอะ เกินความต้องการ และ สิ้นเปลืองสูง ดังนั้นคงได้เกิดใน ท.อ. เรายากครับ อีกอย่างประเทศไทยไชโย ของเราก็มีสนามบินมากมายครับดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องบินครองอากาศขนาดใหญ่ครับ เพราะสนามบินบ้านเรามีเยอะมากครับทั้งขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก หรือแม้แต่ ถนน Gripen ก็ลงจอดได้ครับ ใช้เวลาต่ำสุด 5 นาทีก็บินขึ้นทำภารกิจต่อได้แล้ว ส่วนในการโจมตีทางลึก Gripen ก็ทำได้ครับ แค่วางกำลังไว้ไกล้ชายแดน หรือไม่ก็ติดถังเชื้อเพลิงสำรองก็เพียงพอแล้วครับต่อการเข้าไปโจ่มตีในดินแดนข้าศึก ผมไม่ห่วงครับ บางทีอาจจะไม่ต้องบินไปถึงดินแดนข้าศึกมากนักก็ได้ครับ ระบบอาวุธโจมตีระยะไกล Gripen ก็สามารถใช้ได้หลายแบบ อย่าง KEPD 350 ระยะร่อนตั้ง 300 กม+ ก็เพียงพอแล้วครับ  

ปล ภาพที่1 เป็น SAAB 2020 ครับ ส่วน 2-5เป็นระยะทำการของ Gripen ครับ เครดิต เสียโย SKYMAN และเว็ป TAF ครับ

ขออนุญาติเสียโย SKYMAN ก๊อบคอมเม้นของเสี่ยมาเลยนะครับขี้เกรียจพิมพ์555555+ ไม่ว่ากันนะครับ

ภาพที่2

ภาพนี้เป็นภารกิจขับไล่สกัดกั้นโดยไม่ใช่ถังน้ำมันสำรอง Gripen ติดอาวุธปล่อยอากาศสู่อากาศพิสัยใกล้ (เช่น AIM-9M) จำนวน 4 นัด และอาวุธปล่อยอากาศสู่อากาศพิสัยปานกลาง (เช่น AIM-120) จำนวน 2 นัด มีพิสัยทำการรบ (คือบินไปแล้วบินกลับฐาน - Combat Range) ไกล 800 กม. เมื่อขึ้นบินจากกองบิน 7 จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ภาพที่3.ภาพนี้เป็นภารกิจขับไล่สกัดกั้นโดยติดตั้งถังน้ำมันสำรองครับ (3 ถัง) ติด AIM-9M จำนวน 2 นัด และ AIM-120 จำนวน 2 นัด มีรัศมีทำการไกล 1,550 กม. 8)

ภาพที่4.ภาพนี้เป็นภารกิจขับไล่สกัดกั้นโดยไม่ใช่ถังน้ำมันสำรองครับ ติดตั้งอาวุธเช่นเดียวกับภาพแรก แต่อยู่ในเงื่อนไขที่แตกต่างจากภาพแรกคือ Gripen บินขึ้นจากกองบิน 7 และกลับมาลงที่กองบินอื่น ๆ ของกองทัพอากาศ ดังนั้นผลพลอยได้ก็คือพิสัยการปฏิบัติการนั้นไกลขึ้นเป็น 1,600 กม.ครับ เพราะไม่ต้องห่วงว่าจะต้องบินกลับมาสุราษฎร์ เช่นถ้าบินจากสุราษฎร์ขึ้นไปทางเหนือก็สามารถมาลงที่กองบิน 41 เชียงใหม่ได้ เป็นต้นครับ วิธีนี้ก็ทำให้ไม่ต้องเสียน้ำมันบินกลับทางเดิม และสามารถไปเติมน้ำมันที่กองบินอื่นได้ ซึ่งก็เป็นการแสดงความสามารถในการย้ายฐานปฏิบัติการในประเทศไทยของ Gripen หลังปฏิบัติการกิจเสร็จสิ้นครับ (จากกองบิน 7 ไปกองบินอื่น ๆ)

ภาพที่ 5

ภาพนี้คือพิสัยบินไกลสุดหรือ Ferry Range ของ Gripen เมื่อติดถังน้ำมันสำรองจำนวน 3 ถังครับ หมายความว่าขึ้นบินจากสุราษฎร์ไปให้ไกลที่สุดจนกว่าน้ำมันจะหมดไม่ต้องกลับมา ถ้าบินไปทางตะวันตกก็ไปแตะชายแดนอินเดีย-ปากีสถาน ส่วนถ้าไปทางตะวันออกก็ไปได้ถึงไต้หวันและฟิลิปปินส์ครับ ถ้าบินขึ้นเหนือก็ไปได้ถึงจีนตอนกลาง บินลงใต้ก็ไปได้ถึงนอกชายฝั่งออสเตรเลียครับ มีพิสัยทำการบิน 3,200 กม. ภาพนี้ทำให้เห็นความสามารถในการบินเวลาไปฝึกต่างประเทศหรือวางกำลังต่างประเทศครับ

ขออนุญาติก๊อปอีกครั้งนะครับเสี่ย อิอิอิอิ

ล็อคอิน 3 ครั้งครับถึงเข้า ==

มิน่าล่ะท่าน แชมป์ไทยอาร์มี่ ข้อความมันคุ้นๆเหมือนเคยอ่าน 5555

แหะๆๆ ตัวขึ้เกรียจกำเริบครับ ขี้เกรียจพิมพ์สาธยายครับว่ามันเป็นภาพอะไรบ้าง แหะๆๆๆ

แล้วภารกิจที่ว่านี้บินไปอย่างเดียวหรือกลับด้วย  ไม่ได้กวนน่ะแต่สงสัยครับ

น่าจะไปอย่างเดียวนะครับ ต้องรอพี่สกายแมนมาตอบอีกทีแล้วกันครับ แต่เท่าที่อ่านๆน่าจะไปอย่างเดียวนะ ระยะไกลสุด ไปไกลได้แค่ไหน อะไรทำนองนี้แหละครับ

Ferry Range คือพิสัยบินไกลสุดในหนึ่งเที่ยวครับ โดยไม่ต้องเติม ถ้าจะกลับก็้ต้องเติมน้ำมครับ ยกเว้นพิสัยบินจะเพิ่มได้อีก เมื่อเติมน้ำมันกลางอากาศ

ซึ่ง Gripen มีท่อเติมอยู่แล้ว ที่เปิดปิดได้

ส่วนการประกาศจุดยืนคงยังหรอกครับสำหรับ ทอ เฟสสอง ยังไม่ได้รับเลย MLU F-16 อีก ส่วนตัวมองว่า F-35 ในระยะ 10 ปี อาจจะไม่ได้ด้วย

ต้องอีก 15 ปี แน่ๆ ครับ เพราะราคาเครื่องโหดมากๆ และราคาไม่นิ่ง แถมต้องผลิตให้ประเทศอื่นๆ อีกเพียบ อีกสิบปี คงจะ upgrade Gripen มากกว่า

และคงหาเครื่องบินใหม่ อาจจะเป็นพวกยุค 4.75 หรือ Semi Stealth ราคาอาจจะคบมากขึ้นในเวลานั้น แต่ถ้าบ้านเราเศรษฐกิจดีคงว่ากันอีกที แต่ความเป็น

ไปได้น้อยมากสำหรับ F-35 

ผมว่าถ้าอีก 15 ปี คงไม่ไกลเลยครับ เพราะ 15 ปีอย่าลืม ตอนนี้ไทยเป็นประเทศกำลังพัฒนา 15 ปี ก็ไปไกลกว่าปัจจุบันนี้เยอะแล้ว รายได้รัฐมากขึ้น รัฐรวยขึ้นด้วยนะ ไม่แน่อาจได้ F 35 มานะ

ส่วนตัวแล้วผมชอบนะF15se แต่กับ้านเรา GRIPEN  NG น่าจะเหมาะสมกว่าที่จะมาแทนF16

F-35 ราคาแพง ชอบเบี้ยวไปเบี้ยวมาไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะเข้าสายผลิตได้   มีหลายต่อหลายประเทศต่อคิว ยาว ไม่รู้จะกี่ปี ถึงจะเสร็จหมด ป่าน >>>>>นั้นๆโครงการFS2020 ของSAAB  อาจจะเข้าสายผลิตกันพอดี ตอนนี้มันก็ออกมาเป็นเครื่อง บินบังคับไปก่อน

gripen NG มันเปลี่ยนเครื่องให้ใหญ่ขึ้น จากRM 12 (โมมาจาก F404 อีกที) เป็นF414G และย้ายฐานล้อให้กว้างขึ้น ส่วนกริพเพน A/B, C/D มันเครื่องเดิม ง่ายๆเลยNGลำใหญ่ขึ้น ก็เหมือนกับ F 18 A/B, C/D กับ E/F มันคนละขนาด แทนกันไม่ได้

หรือถ้าคิดจะอัพเกรดแบบรื้อโครงสร้าง ผมว่าซื้อใหม่ดีกว่า เพราะการอัพฯ มันไม่ใช่ถูกๆ  F-16 ของเราแผนอัพ18ลำ ราคาค่างวดประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ($700 million) นี่ขนาดยังอัพไม่เต็มยศ ราคานี่ก็เท่ากับที่เราใช้ซื้อ gripen 6ลำ+ Erieeye 1  ลำแล้ว 

สวัสดีครับ ผมสมาชิกใหม่ครับ พึ่งเริ่มแสดงความคิดเห็น ถูกผิดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ คือ ผมเห็นหลาย ๆ ท่านแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ F-35 คือจากที่ผมเคยอ่านกระทู้หรือข้อมูลในเน็ตมา F-35 เขาขายให้เฉพาะประเทศที่เข้าร่วมการพัฒนาเครื่อง F-35 ไม่ใช่หรอครับ และเหมือนว่าออสเตรียจะชวนเราเข้าร่วมโครงการ แต่เราไม่มีงบ ก็เลยไม่ได้เข้าร่วมโครงการ แล้วถ้าเรามีเงินซื้อจริง ๆ เขาจะขายให้เราไหมครับ

ประเทศที่เข้าร่วมพัฒนาด้วยนั้นจะเป็นประเทศแรกๆ ที่ได้รับเครื่องบินมาประจำการก่อนประเทศที่สั่งซื้อแต่ไม่เข้าร่วมโครงการพัฒนา ถ้าไทยสั่งซื้อจะเป็นคิวหลังต่อจากประเทศที่เข้าร่วมพัฒนาครับ

กรณีF35นี่พอถึงเวลาน่าจะมีการทบทวนกันเยอะเหมือนกันนะครับเห็นข่าวหลายประเทศที่เคยให้ความสนใจเริ่มจะเปลื่ยนไปมองหาตัวอื่นบ้างแล้วเพราะปัญหาเยอะเหลือเกินไม่รู้ทำมัยเหมือนกัน

เพราะความล่าช้าและติดขัดปัญหาหลายด้าน แต่สิ่งที่จะเป็นปัญหาต่อมาสำหรับประเทศจะมีประจำการคือค่าบำรุงรักษาเรื่องนี้ท่านใดพอมีข้อมูลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายต่อชั่วโมงบินของ F-35 บ้างครับ เอามาให้อ่านด้วยนะครับ  ขอบคุณครับ