คือผมสงสัยในตัวเครื่องบินรบทั้งสองแบบนะครับ
1. ไทยเราจัดหาเครื่องบินรบGripen มาแล้ว ไม่ทราบว่าตัวเรดาห์ นั้นไกลกว่า F16 Block50/52 เปล่าครับ และเรดาห์ของGripen เป็นเรดาห์แบบเดียวกับ F22 เปล่าครับ แต่ถ้าเรดาห์ของGripen ไม่ได้ไกลกว่า F16 Block50/52 ก็น่าผิดหวังเพราะทางใต้มี Su30 มาเลย์ ที่เรดาห์ไกลมากๆๆๆๆๆๆๆ
2. Gripen มีระบบแยกแยะฝ่ายเปล่าครับ
3. ความเร็วมากกว่าF16 หรือไม่
4. Gripen มีระบบแจ้งเตือนการโจมตี Missile Sam แบบพื้นสู่อากาศเปล่าครับ เมื่อโดนMissile Sam แบบพื้นสู่อากาศล๊อกเป้า
5. Gripen มีmissile ที่ได้ระยะไกลๆ แบบF16 เปล่าครับ
6. Gripen กับ F16 ตัวใหนตรวจจับได้ยากกว่าครับ
7. Gripen เพดานบินสูงกว่า F16 หรือไม่ครับ
ลองไปดูที่ลิ้งค์นี้ดูนะครับเขาเอาข้อมูลย้อนหลังนิดหน่อยลองอ่านดูครับhttp://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2010/10/X9767420/X9767420.html
ส่วนอ้นนี้ระยะของเรดาห์ของทั้ง 2 รุ่นครับ
JAS-39 C/D ระยะตวรจจับ 120 KM แต่ระยะค้นหาไม่เปิดเผย หรือไม่ทราบครับ
F-16 C/D 50/52 ระยะค้นหา 300 KM ระยะ ตรวจจับ ANPG 68 V 9 เท่ากับ 105 KM ที่ RSC 5 m
ส่วนหน้าตัดเรดาห์ทั้ง 2 รุ่น (หน้าตัดเรดาห์จะเป็นตัวบอกว่าใครจะเห็นใครก่อน ในระยะเท่ากัน)
JAS-39 C/D เท่ากับ 0.5 m
F-16 C/D 50/52 เท่ากับ 1.2 m
อ่านดีๆนะครับ ระยะค้นหา กับระยะตรวจจับคนละความหมายนะครับ
ส่วนหมัดของทั้ง 2 พอกันแต่ถ้า JAs ติด เมธิออร์ หมัดจะยาวกว่า ระยะบินสูงก้พอๆกัน
ที่เหลือรอท่านอื่นมาเพิ่มเติมครับ
Gripen เหนือกว่า F-16 C/D ในหลายๆด้านครับ คู่ต่อสู้ของ Gripen คือ F-16 E/F โน่นครับ และจากการฝึกซ้อม Gripen สามารถเอาชนะ F-16 E/F ได้ครับ เจ้า Gripen ติดตั้งอาวุธนำวิถีพิสัยปานกลางอย่าง เมเทเออร์ ระยะยิง 180 KM ไกลกว่า AIM-120 ของ เมกา อีกครับ และด้วยระบบ เดต้าลิงค์ สมมุติว่าGripenบินมา 6 ลำ เปิดเรดาห์เพียงลำเดียวสามารถลิงค์ไปให้อีก 5 เครื่อง ที่บินอยู่ใกล้ๆกันได้ เครื่องบินอีกฝ่าย จะตรวจจับ กริฟเพน ได้เพียงลำเดียวครับ สรุป กริฟเพน ดูดีกว่า
พอผมอ่าน บทความของท่าน art ผมละงงเลยว่าF-16มันมีรุ่นE/Fด้วยเหรอ และพอผมไปสืบค้นใน ดันไปรู้ว่ามันคือรุ่นBlock 60 แต่ที่สงสัยก็คือทำไม รูปร่างของรุ่นC/DกับE/Fมันคล้ายกันมาก และบางทีรุ่นC/Dก็เหมือนกับA/B หรือว่าF-16 มันออกมาหลายรุ่นเขาเลย บอกเป็นชื่อ Blockแทนอ่ะครับ
หลายๆครังเวลาเปรียบเทียบเจ้าหยาดกับเครื่องบินรุ่นอื่นๆ น่าจะวัดกันแบบ1-1 ไปเรย ดาต้าลิ้งค์ มันต้องไปเป็นฝูง ไปๆมาๆจะชนะได้ต้องหมาหมู่ถึงจะเอาชนะได้ ไม่รู้ว่าพอน้องซู มา1ลำจะต้องขนน้องหยาดไปเป็นฝูงกางดาต้าลิ้งค์+อีรีอายอิกไปสอย ถ้าซูมาเป็นฝูงน้องหยาดคงเหงื่อตกเหมือนกัน ข้อดีของน้องหยาดที่มีชนะเครื่องบินอื่นๆขาดคือ มันประหยัดน้ำมันกว่าเพื่อน อันนี้คือที่เห็นชัดที่สุด น้องหยาดไม่ไช่เครื่องบินที่ดีที่สุดครับ แต่ว่ามันเหมาะกับประเทศที่ยากจนอย่างเราเป็นที่สุด
เครื่องปีก 3 เหลี่ยมมีอัตตราการไต่ระดับได้เร็วกว่าครับแต่จะคล่องตัวน้อยกว่า
คือถ้าประมาณด๊อกไฟท์ วิ่งไล่หลังกันแบบในหนัง กรปเป้นเราจะเสียเปรียบ
แต่ถ้ารบแบบสงครามสมัยใหม่ ใครล๊อกก่อนก็ยิงได้ก่อน
เพียงแต่กริปเป่นไทยไช้เรดาบนเรือจักกรี หรือตามสถานีเรดาต่างๆในพื้นที่ได้เลย โดยไม่ต้องเปิดเรดาตัวเอง
ทำไห้โอกาศถูกตรวจจับของเราน้อย ถ้าเทียบกับเครื่องที่มีเรด้าแรงๆ แสดงตำแหน่งตัวเองตลอดเวลา
คุณ YUKIKAZE บอกว่าเหมาะสัมหรับประเทศยากจนอย่างเราเป็นที่สุด ขอแก้ต่างหน่อยล่ะกันครับ
นี้คือรายชื่อประเทศที่ประจำการด้วย JAS-39
ครบเรียบร้อยแล้ว จำนวน 6 ลำ
คงจะผิดถ้าหากจะกล่าวว่าอังกฤษเป็รประเืทศที่ยากจน ส่วนประเทศเหลือ ๆ ที่ประจำการด้วยกริพเพนอย่างเช็คหรือแอฟริกาใต้ ประเทศเหล่านี้ก็ไม่ใช่ประเทศจน ๆ เลย
แต่ที่เราซื้อกริพเพน คงเป็นเพราะเรามองในราะยะยาว เพราะดูจากเครื่องที่ร่วมเข้าแข่งขันในโครงการ บ.ข.19 ก็มี SU-30 หรือ F-16 เข้าร่วมได้
แต่ดูจากแพ็คเกจที่ทางบริษัทเครื่องบินจากประเทศต่าง ๆ เสนอมา ดู ๆ แล้ว saab ดูดีที่สุดครับ เราคงไม่ได้คิดถึงซื้อเครื่องบินรบมา แล้วก็ใช้ ๆ ไป
แต่ผมคิดว่า ทอ. คงมองกาลไกล โดยเฉพาะท่าน ผบ.ทอ.คนปัจจุบัน ซึ่งทันเป็นผู้ดูแลโครงการตั้งแต่เริ่มเป็น เสธ. จนเป็น ผบ.ทอ.
จากข้อเสนอที่ saab เสนอให้ ทั้งทุนให้ นนอ.ไทย ไปเรียนโทต่อที่สวีเดน ทั้ง RBS-15 ทำให้เรามีเครื่องบินขับไล่ที่ติดขีปนาวุธโจมตีเรือได้เป็นครั้งแรก
รวมทั้ง ซอร์ท โค้ท ทำให้เราสามารถปรับปรุงหรือติดตั้งอะไรให้กับกริพเพนโดยไม่ต้องขออนุญาติ saab ผมว่ามันต่างจากข้อเสนอขอสหรัฐอเมริกาอย่างสิ้นเชิง
แล้วยังตามมาอีกหลาย ๆ อย่าง โดยรวม ผมก็ยังมองว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้มอีก
ดังนั้นผมคิดว่ากริพเพนจึงเป็นเครื่องบินที่เหมาะกับเราทั้งในปัจจุบันและในอนาคตที่สุดครับ ^^ ขอบคุณครับ
เรื่องนี้จะถกกันเท่าไหร่ก็ไม่มีวันยุติหรอกครับ เพราะถึงเราจะถกกันอย่างไร ทอ.เราก็มีประจำการแล้ว ส่วนที่จะบอกว่าจะ 1-1 หรือแท็คทีมอะไรนั้นมันก้เป็นยุทธวิธีในการรบของแต่ละกองทัพเขาใช้กัน ถ้าจะวัดกันแบบหนังคาวบอยมันก็ต้องใช้การฝึกร่วมเป็นตัวทดสอบ อย่างที่เปิดเผยที่มีการซ้อมร่วมของยุโรปที่สวีเดนเอากริฟเพ่นไปร่วมซ้อมผลเป็นอย่างไรลองสืบค้นดูครับ อย่างที่เพื่อนสมาชิกหลายท่านบอกละครับสิ่งที่ทำให้เรามองเห็นและตัดสินใจเลือกก็คือ ความคุ้มค่าและค่าบำรุงรักษาที่ต่ำกว่าคู่แข่งถ้าสมมุติเราเลือก F-16 ถามว่าเราจะได้แบบนี้ไหมแน่นอนคงจะยาก ขนาดเราจะปรับปรุง F-16 ที่เรามีอยู่ยังต้องขออนุมัติเลย มองไปข้างหน้าครับบางครั้งเราต้องยอมที่เปลี่ยนบางอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่เราต้องการและมันคุ้มค่า เราก็รู้ๆกันว่าพี่กันแกหวงของมาก( ขนาดเอ็ม 60 ยังไม่ยอมให้เราติดตั้งเกราะเลย) เอาเป็นว่าเราได้ของที่มันคุ้มค่ากับเราในสถานการณ์แบบนี้และเงินที่เราจ่ายไป ส่วนเรื่องการรบปล่อยให้เป็นหน้าที่ของนักบินและ ทอ.ซึ่งผมมั่นใจว่า ทอ.ของเรามีความสารถไม่ด้อนกว่ากองทัพในภูมิภาคนี้แน่นอนโดนเฉพาะนักบินของเรา
ทิ้งท้าย F-16 E/F ก็คือ F-16 บล็อค 60 ครับ เพราะF-16 C/D บางรุ่นก็ติดตั้งถังน้ำมันแบบแนบลำตัวก็มีครับ(ไม่แน่ใจ F-16 C/D ของ ทอ. ชิลี หรือเปล่า) ^_^
ตอบข้อ
2. Gripen มี IFF ครับ
3. ถ้าไม่เปิด สันดาบท้าย Gripen เร็วกว่า
4. มี
5. มี
6. Gripen
ความคิดเห็นของคุณ viggen มีข้อมูลมายืนยันเปล่าครับ ถ้ามีขอข้อมูลหน่อยนะครับ ขอบคุณครับ
ที่ JAS-39C/D ดีกว่า F-16C/D คือ ใหม่กว่า ระบบดาต้าลิงค์ดีกว่า ประหยัดกว่า
ส่วนบ้านเรานั้น F-16A/B เหนือกว่า JAS-39C/D เพราะ F-16A/B อยู่ตาคลี กับ โคราช ตอนกลางของประเทศ ส่วน JAS-39C/D อยู่สุราษฎรณ์ธานีตอนใต้ของประเทศ F-16A/B เลยเหนือกว่า( มุกควายเปล่าฟะะเนี่ยตู)
แหม มุขพี่ เด็กทะเล นี่น่าออกทะเลจริงๆ 555+ ผมไม่เถียงเลย เพราะเหนือกว่าจริงๆ อิอิอิอิ
ขอตอบแบบพอรู้นะครับ ส่วนใหญ่พี่ๆข้างบนเค้าตอบมาเรียบร้อยแล้วครับ
ข้อที่1 ไทยเราจัดหาเครื่องบินรบGripen มาแล้ว ไม่ทราบว่าตัวเรดาห์ นั้นไกลกว่า F16 Block50/52 เปล่าครับ และเรดาห์ของGripen เป็นเรดาห์แบบเดียวกับ F22 เปล่าครับ แต่ถ้าเรดาห์ของGripen ไม่ได้ไกลกว่า F16 Block50/52 ก็น่าผิดหวังเพราะทางใต้มี Su30 มาเลย์ ที่เรดาห์ไกลมากๆๆๆๆๆๆๆ >>>
ตอบนะครับ เรด้าของกรีเป้น มีระยะตรวจจับที่ 120 ก.ม.ครับ ซึ่งระยะตรวจจับมากกว่าระยะล๊อคเป้าของจรวดนำวิถีระยะปานกลางอย่าง AIM120 C5 ที่เรามีใช้อยู่ครับ คือ AIM120 C5 รุ่นที่ไทยใช้อยู่นั้น เป็นรุ่นที่เป็นมาตรฐานที่กองทัพอากาศทั่วโลกเค้าใช้กันอยู่ครับรวมถึงสหรัฐเองก็ใช้ มีระยะตรวจล๊อคเป้าหมายอยู่ที่ 80 ก.ม. + ครับ ซึ่งเรด้าร์ของกรีเป้น สามารถตรวจพบเป้าและล๊อคยิงเป้าหมายได้ในระยะ 120 กม ซึ่งเหลือแหล่ครับ เพราะยังไงก็ต้องรอให้เข้าระยะยิงของ AIM120 อยู่ดีที่ 80 กม ถึงจะทำการยิงจรวดนำวิถีเข้าสู่เป้าหมายได้ครับ ซึ่งตรงนี้เป็นปัญหาที่เยอรมันเจอและเป็นปฐมบทของเข้า เมธีเออร์ ครับ เค้าสร้าง เมธีเออร์มาเพื่อแก้ปัญหาระยะยิงที่เหลือตรงนี้ครับ เจ้าเมธีเออร์นี้มีระยะยิงที่ประมาณ120 ก.ม.+ ครับซึ่งอยู่ในระยะตรวจพบเป้าหมายและล๊อคเป้าหมายของเรด้าของน้องแจ๊ส พอดีครับ ทำให้พอตรวจพบปุ๊บ ก็ยิงได้ปั๊บเลยครับ เรด้าร์ของกรีเป้น ผมไม่ชัวส์นะครับ แต่คงไม่ใช่เรด้าร์แบบเดียวกับ F22 หรอกครับ แต่มีอย่างหนึ่งที่ Gripen มีเหมือน F2 คือ ระบบ Link 16 หรือระบบด้าต้าลิงค์นั่แหละครับที่มีเฉพาะใน Gripen กับ F22 เท่านั้นเครื่องบินรุ่นอื่นไม่มีครับ ส่วนเรด้าร์ของ Su30 นั้นในบอร์ดนี่คุยกันบ่อยมากๆครับ เอาเป็นว่าถึงแม้เค้าจะเห็นเราก่อนตั้งแต่ 300 ก.ม.แต่เค้าก็ยิงเราไม่ได้อยู่ดีครับ เพราะว่าถึงแม้จะจับเครื่องบินเราได้แต่เครื่องเราเล็กมากครับ ทำให้สัญญานอ่อนไม่สามารถล๊อคเป้ายิงได้ครับ จะต้องรอจนถึงระยะ 120 กม ถึงจะยิงเครื่องบินเราได้ครับ ซึ่ง 120 ก.ม.นี้ก็อยู่ในระยะตรวจจับและล๊อคเป้าของเครื่อง Gripen เราเหมือนกันครับ ดังนั้นขึ้นอยู่กับว่า ใครจะเหนียวกว่ากัน ทั้งประสบการณ์ ระบบอาวุธ เพราะแลกหมัดกันครับ ถ้าเราไม่จัดหาเมธีเออร์มาประจำการ เราจะเสียเปรียบSu 30 ครับเรื่องหมัดยาวกว่าครับ
Gripen มีระบบแยกแยะฝ่ายเปล่าครับ >>> มีครับ ระบบ IFF แม้แต่ F16 ADF ที่เก่ากว่ายังมีเลยครับแล้วน้อง JAS จะไม่มีได้ไง
ความเร็วมากกว่าF16 หรือไม่ >>> ไม่แน่ใจครับ รอพี่ๆเค้ามาตอบแล้วกันครับ F16 กับ Gripen ใช้เครื่องยนต์คนละแบบกันครับ Gripen ใช้เครื่องยนต์แบบเดียวกับ F/A 18 ครับ
Gripen มีระบบแจ้งเตือนการโจมตี Missile Sam แบบพื้นสู่อากาศเปล่าครับ เมื่อโดนMissile Sam แบบพื้นสู่อากาศล๊อกเป้า >>>>> มีครับ Gripen มีระบบแจ้งเตือนการเข้ามาของจรวดนำวิถี หรือทิศทางเข้ามาของข้าศึกรอบตัวครับ ทั้งด้านหน้า ด้านข้าง และด้านท้ายครับ ด้านหน้าก็คงจะเป็นระบบแจ้งเตือนจากเรด้าร์ ด้านข้าง มีระบบแจ้งเตือนที่อยู่ช่วงปลายปีก ส่วนด้านท้าย อยู่ตรงโคนๆเกือบปลายแพนห่างดิ่งที่เราเป็นเป็นสันยื่นๆมานั่นแหละครับ
Gripen มีmissile ที่ได้ระยะไกลๆ แบบF16 เปล่าครับ>>>>> ข้อแรกตอบไปบ้างแล้วนะครับ Gripen สามารถใช้อาวุธที่มีอยู่ใน F16 ที่เรามี หรือ F16 ทั่วโลกได้ทุกแบบครับ รวมถึงระบบอาวุธของ อิสราเอล และยุโรปด้วยครับ ส่วนในกองทัพอากาศบ้านเรา ตอนนี้เขี้ยวเล็บหลักของกรีเป้นจะเป้น AIM 9 และ AIM 120 แอมแรม ที่ใช้อยู่ใน F16 ทุกฝูงรวมทั้งระบบอาวุธของ F5 และระเบิดแบบต่างๆทีมีประจำการอยู่ใน ท.อ. ทุกแบบได้ครับ ส่วนในอนาคตอันไกล้ๆนี้ ผมคิดว่าน่าจะมาพร้อมฝูงที่สอง ที่แน่ๆแล้วคือ RBF 15 F จำนวน 12 นัดที่อยู่ในแพ็กเกตการจัดซื้อ เป็นอาวุธปล่อยนำวิถีโจมตีเรือ นำทางโคจรเข้าเป้าหมายแบบบินเรี่ยน้ำ แบบ Sea Skiming ความเร็วต่ำกว่าเสียงอยู่ที่ 0.8 มัค ครับ ส่วน IRIS-T คงต้องรอครับแต่น่าจะอยุ่ในระหว่างเจรจาจัดซื้อครับ
Gripen กับ F16 ตัวใหนตรวจจับได้ยากกว่าครับ >>> พี่ข้างบนตอบไปแล้วนะครับ หน้าตัดสะท้อนเรด้าร์ ของ Gripen แค่ 0.5 นะครับ ตัวก็เล็กกว่า F16 ดังนั้น Gripen ตรวจจับได้ยากกว่า F16 แน่นอนครับ
Gripen เพดานบินสูงกว่า F16 หรือไม่ครับ>> ผมไม่แน่ใจครับ แต่ที่แน่ๆ อัตราไต่ระดับ ความคล่องตัว Gripen น่าจะสูงกว่านะครับเพราะรูปทรงปีกสามเหลี่ยม และไม่มีแพนหางท้าย แต่เปลี่ยนเป็นปีก คานาส แทนทำให้อัตราไต่ ความคล่องตัวในการด็อกไฟต์ หรือการรบในระยะประชิดแบบเอาปืนกลไล่ยิงกัน หรือกวดกัน Gripen มีความสามารถสูงกว่าครับ แต่ถ้าเราเอาไปเปรียบเทียบกับ Su30 หรือ Mig29 เรื่องแรงขับความเร็วเราเสียเปรียบครับเพราะว่าเครื่องสองเครื่องยนต์ มันก็ต้องมีแรงขับความเร็วมากกว่า เครืองบิน 1 เครื่องยตน์อยู่แล้วใช่มั๊ยครับ ดังนั้นอย่าซีเรียสครับ
คราวนี้ตอบจริงๆบ้างนะครับ
1. เรดาร์ของ JAS-39C/D เป็นแบบ PS-05A Mk.4 ของอิริกสัน ส่วน F-22 เป็นแบบ AN/APG-77 AESA คนละตัวกันครับ ของ F-22 มีประสิทธิภาพสูงกว่าและทันสมัยกว่า
2. ระบบพิสูจน์ฝ่าย(IFF)นั้นเครื่องบินยุคใหม่ที่ติดอาวุธระยะไกลนอกสายตาต้องมี JAS-39C/D เป็นแบบ TSC-2000 ของ Thales
3. ความเร็วของ JAS-39C/D อยู่ที่ 2 มัค พอๆกับ F-16
4. ระบบแจ้งเตือนนั้นมีแน่นอนครับ JAS-39C/D เป็นแบบ BOW-21 ของ SAAB
5. อาวุธที่ F-16 มีใช้ JAS-39C/D ใช้ได้ ส่วน JAS-39C/D มีขีดความสามารถในการใช้อาวุธนำวิถีโจมตีเรือแบบ RBS-15F
6. JAS-39C/D มีหน้าตัดเรดาร์ต่ำกว่า F-16 ดังนั้น JAS-39C/D ตรวจจับได้ยากกว่า
7. เพดานบินของ JAS-39C/D อยู่ที่ 50,000 ฟุต ส่วน F-16 อยู่ที่ 60,000 ฟุต ดังนั้น JAS-39C/D มีเพดานบินต่ำกว่า
ขอแตกประเด็นนิดหน่อยครับ ตอนนี้เราคงไม่ต้องกังวลเรื่องกำลังทางอากาศของเพื่อนบ้านมากไปครับ แต่อีกสัก 5-10 ปี ถ้าเกิดมีใครสักคนในแถบนี้เกิดเอา SU-35BM มาประจำการแล้วเกิดโชคดีพี่หมีแกใจปั้มขายเจ้า R-37 ให้ด้วยละ แล้วแผนที่ ทอ.เราเตรียมการไว้จะมีการเปลี่ยนแปลงไปทางได อันนี้เรามาวิเคราะห์กันแบบพอหอมปากหอมคอนะ ไม่ มาม่า
เราไม่ได้ประจำการ กริฟเปน เพราะว่ามันราคาถูก นะครับ อย่าเข้าใจผิด
กริฟเปน เป็นส่วนหนึ่งของระบบป้องกันภัยทางอากาศ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของ ทอ. มากที่สุดต่างหาก
เราได้มาทั้งระบบนะครับ ไม่ใช่ได้มาแค่ บ.รบ
นโยบาย ทอ.คือ DIGITAL AIRFORCE
และถ้ารบกันจริง เค้าไม่รบกันตัวต่อตัวหรอก รุมได้เป็นรุม
ต้องเอาเปรียบทุกอย่าง แพ้สงครามไม่ได้นะครับ สิ้นชาติทันที ไม่ใช่เรื่องต้องมาวัดดวง
ต่อให้เป็น F22 ก็เหอะ ยังมี AWACS เป็นพี่เลี้ยงตลอดเวลาเลย
โห เหมาะสำหรับประเทศยากจน ฟังแล้วขึ้นเลยอะ
คุณเคยภูมิใจในชาติคุณบ้างไหมครับ ผมจะบอกให้ไทยเจริญกว่า ลาว พม่า เขมร เวียทนาม เยอะครับ เราจะซื้ออะไรมาเราดูความคุ้มค่า งบตอนซื้อ gripen เราซื้อ su30 ได้ก็หลายลำ แต่เราเอาที่มันคุ่มที่สุด เวียทมันมีเครื่องบินรบหลังแค่ su30 อย่างเดียว มีน้อยกว่า f16 เราตั้งเยอะ เวียทไม่ใช่ประเทศรวยเลย เปล่า จนกว่าไทยเยอะ เวลารบจริงๆ ไม่รู้เครื่องบินเขาพร้อมบินกี่ลำ เวลาฝึก ค่าน้ำมันละ หลายอย่าง นักบินเวียท ไม่ใช่จะนำเครื่องบินมาฝึกบินง่ายๆเหมือนไทยนะ ชม บินเขาไม่มากเหมือนเรา ถึงจะมี su30 แต่นักบินไม่เก่ง ก็ทำอะไรไม่ได้ เหมือน มาเลย์อะ f16 su30 มากมาย ตอนนี้เข้ายังกลัวไทย ที่มี f16a/b เลยครับ
เงินตอนเราซื้อ gripen ครั้งนี้มา มันแพงนะ แต่มันได้มาหลายอย่าง มันคุมค่า เราได้ gripen 6 ลำกับอะไรอีกหลายอย่าง และในเงินจำนวนนี้ เราก็ซื้อ f18c/d ได้ 6 ลำ ตัวเปล่าๆเลย ไม่มีระบบอะไรแถมมา คุณจะเอาอะไรละครับ
แก้คุณ champ thai army หน่อยนะครับ link 16 มีใช้บานตะไทครับ ไม่ใช่แค่ f 22 คือประมาณว่าอเมริกาลิ้งค์กี่ประเภทก็ link 16 ครับ
เครื่องบิน:
F/A-18 Hornet
F-15 Eagle
F-16 Fighting Falcon
Eurofighter Typhoon
Dassault Rafale
Dassault Mirage 2000D
Dassault Mirage 2000-5F
Saab Gripen
Panavia Tornado
E-2C Hawkeye
E-3 Sentry
MH-60S/R NavalHawk family helicopters
E-8 Joint STARS
EA-6B Prowler
EA-18G Growler
P-3C Orion
EP-3C Aries
Boeing RC-135 Rivet Joint
Greek Embraer R-99A Airborne Early Warning & Control aircraft
เรือรบ:
U.S. carrier battle groups
French aircraft carrier Charles de Gaulle (R91)
French, Spanish, Norwegian, Netherlands and German frigates
ระบบมิสไซล์ :
Arrow
Patriot ICC and Battery Command Post (BCP)
THAAD
SHORAD
JTAGS
Joint Land Attack/Cruise Missile Defense Elevated Netted Sensors (JLENS)
ระบบบัญชาการรบ:
Joint Data Network
ครับ แล้วก็อย่างที่คุณ SARAJEVO บอกครับ เราไม่ได้ซิ้อกริพเพนเพราะถูก ตอนนั้นยังด่าๆ กันเลยว่าแพง (ก็แพงจริงครับ แต่มันเป็นแพ็คเก็จ มีหลายรายการ)
ทั้ง F-16 เเละ Jas-39 มีดีทั้ง 2 เเบบหล่ะครับ ผมมั่นใจที่กองทัพเลือก ทั้ง 2 เเบบเข้าประจำการ เเม้เหตุผลการในซื้อจะเเตกต่างกัน เเต่มันก็มาจากภาษีของเราๆท่านๆหล่ะครับ แห่ม....เป็นเจ้าของโดยไม่รู้ตัว..5555 ของใคร ใครก็รัก
Tactical Data Link Systems
ประเทศที่ค้าขายระบบอาวุธสงคราม ไฮเทคโนโลยี เค้ามีกันใช้นานแล้วทั้งนั้นแหละครับ
แต่เค้าไม่ได้มาเสนอขายให้เรา เหมือนสวีเดน
เพราะตอนนั้น ชื่อโครงการ คือ การจัดหาบ.ขับไล่ เลยต้องยื่นเสนอว่า ระบบData Link & AWACS เป็นของแถม
จริงๆแล้ว มันรวมอยู่ในราคา กริพเปน นั้นแหละ ต้องเลี่ยงบาลีเดี๋ยวผิดระเบียบ
ถือเป็นก้าวกระโดดที่สำคัญและคุ้มค่ามากๆของทอ.เลยนะครับ
แถมยังได้การลงทุนตอบแทนทางเศรษกิจ จากสวีเดนอีกด้วย
ซื้ออาวุธจากยูเครน เราได้ผลตอบแทนทางการค้าอะไรจากเค้าคืนมาบ้าง อยากรู้เหมือนกันครับ
ถ้าได้แต่อาวุธอย่างเดียว นี่ถือว่าเป็นดีลที่ใช้เงินไม่เป็นจริงๆ เอางบไปทำอย่างอื่นดีกว่า