ถ้าให้เลือก 2 ตัวนี้ อันใหนเหมาะสมกับกองทัพไทยมากที่สุดครับ เอาแบบชัดๆ นะครับว่าเหมาะสมอย่างไร
AH-64
KA-50
สองตัวนี้ ผมว่าสามารถนำมาคุ้มครองพระในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตอนออกบินฑบาตร ได้อย่างดีเยี่ยมเลยนะครับ
ไม่มีความจำเป็นครับ ที่ต้องเอา ฮ.โจมตี มาคุ้มครองพระ ผมว่ามันไม่ตรงกับภารกิจ
ถึงจะเอามาได้ แต่ถามว่า ต้องใช้ ฮ. ซะเท่าไร เพราะว่าวัดไม่ได้มีแค่วัดเดียว คิดว่าแค่ทหารกับรถฮัมวี่ก็น่าจะเพียงกอแล้วครับ
ส่วนถ้าจะใช้ ฮ. จริง ๆ ผมว่า ฮ.ขนาดเล็กอย่าง jetranger หรือ As550 ดีกว่า เอาทหารนั่งติดประตูเครื่องไป แค่นี้โจรใต้ก็น่าจะหลอนแล้วครับ ^^
สำหรับผม ฮจ. หรือฮ.ชนิดไหนก็หยุดยั้ง การยิงพระและชุดคุ้มครองครูไม่ได้หรอกครับ อย่างมากก็ได้แต่ให้เกิดเรื่องก่อนค่อย โจมตีได้ สำหรับผม อยากได้เป็น UAV ที่ไทยทำเองสักฝูงนึง หรือ มากกว่า และการประสานงานรับแจ้งเหตุที่รวดเร็ว เวลาได้รับแจ้งก็ให้ UAV ที่บินตรวจอยู่ไปที่เกิดเหตุ และบินหารถตามที่ได้รับแจ้งมา ถามีการวางตะปูเรือใบ ก็ให้ UAV ติดตามไปก่อน ส่วนภาคพื้นก็ทำการเคลียเส้นทางแล้วติดตามต่อครับ แต่ถ้าเป็นบอลลูนที่กองทัพจะเอามาใช้ในกรณีเดียวกันนั้นผมว่ามันบินช้าและใหญ่เกินไป ถึงจะอยู่สูงจนยิงไม่ถึงก็ตาม เท่านี้นี้ผมว่าก็ทำให้โจรใต้แหยงได้ในระดับหนึ่งครับ
ผมว่าแค่AH-1Z ก็เป็นพอแล้วแหละครับ
ah1-z +1 อย่าเลยka50กับอาเปาเช่ จะโหดขนาดไหน ก็โดนสอยได้เหมือนกัน เอาah1-zดีกว่าพึ่งรูปร่างมันที่ดูเพรียวบาง กระทัดรัด เล็กเเต่พริกขี้หนู ใหญ่เทอะทะ เป้าก็ใหญ่ตามไปด้วย เล็กอ่ะดี ใช้ได้หล่ายพื้นที่ ลดอัตราการโดนหัวปลีสอย เสียวหัวปลี เขมร เผื่อมันโผล่ออกมาจากป่าล่ะตายห่าหมด ประเทศไทยยิ่งป่าเยอะอยู่รอบบ้านยิ่งไม่ต้องพูดถึง ไม่ใช่ป่าเยอะเเต่ทืบจนมองไม่เห็น ไม่ใช่ทะเลทรายเเเบบ อัพกัน เเบบอิรัก โล่งโจ่ง ขนาดโล่งโจ่งยังตกเอาตกเอา ดีไม่ติดดาวกับเครื่องยิงrpg ปานนี้คงเยอะลากเเถวได้เเล้ว สรุป เล็กๆหมาะสม เหมาะสุดต้อง เพรียวๆบางๆ เเบบ ah1-z
เหอๆท่านเอามาคุ้มครองพระ แล้วพระท่านบิณฑบาตรกี่สายล่ะมีกี่วัดล่ะมีพระกี่รูปล่ะ มันเหมือนขี่ช้างจับตั๊กแตนเลย สิ่งที่จำเป็นในตอนนี้คืออุปกรณ์ป้องกันชุดคุ้มครอง
และการสื่อสารที่รวดเร็วเพื่อเมื่อเกิดเหตุการแล้วสามารถส่งชุดกำลังเสริมเข้าได้รวดเร็ว แต่สิ่งที่ควรมีมากๆตอนนี้คือพวก UAV ครับไม่ต้องใหญ่ก็ได้ครับเป็นขนาดเล็ก
หรืขนาดกลาง บินได้สัก3-5 ชั่วโมง รัศมีทำการสัก20-30 กม. บนสูงสัก1000-2500 ฟุต แต่นี้ก็พอครับ ติดกล้องอินฟาเรดกับกล้องถ่ายภาพแบบเรียลไทม์
(อย่างที่ติดกับ AU-23) ส่วน ฮ. เอาแบบเอนกประสงค์น่าจะดีกว่าครับ บรรทุกชุดจู่โจมได้สักชุดติดอาวุธได้ตามภารกิจ ปราบปรามได้ แค่นี้ก็พอแล้วครับ
ah 1 เขาออกแบบให้บางๆ เมื่อมองจากด้านหน้าเพื่อลดขนาดหน้าตัด หรือล่อเป้าจากด้านหน้า ถ้าเป็นรุ่นล่าคือ ah1-z จะมีน้ำหนักมากกว่าอาปาเช่ นิดๆ ยาวกว่าหน่อยอีกต่างหาก แต่บินเร็วกว่าพอตัว ทั้งสองนี่อยู่ในคลาสเดียวกัน คือฮจ.เต็มตัว
ผมว่าถ้าจะเอาไว้ลาดตระเวณแบบประกบชุดเดินเท้าแล้วละก็ ขนาดประมาณ little bird หน้าจะเหมาะที่สุดแล้ว เพราะลำเล็ก จอดได้แทบทุกถนน ขนคนบาดเจ็บก็ได้ (เช่นเดียวกับที่เเบล็ควอเตอร์เคยใช้ส่งกลับผู้ได้รับบาดเจ็บในอิรัก) ติดปืนกลได้ทั้ง GAU 19 .50 caliber, M230 Chain Gun 30 mm. และ m134 minigun 7.62 ติดกล้องก็ได้อยู่แล้ว ข้อดีเหนือ uav คือลอยลำได้ ใช้กู้ภัยได้ หรือใช้ยิงสนุบสนุนก็ได้ ข้อเสียคือเสียงหนวกหูกว่า uav แล้วเปลืองน้ำมัน
ส่วนตัวผมมองว่า uav ลาดตระเวณ กับ ฮ.ขนาดเล็กมันคนละภารกิจนะ ดังนั้นจึงอยากให้มีทั้งสองเลย อิๆ สมมุติว่ามีฮ. ไม่ได้แปลว่าต้องมีจำนวนเท่ากับชุดลาดตระเวณหรือคุ้มครองภาคพื้นดิน แต่ฮ.สามารถบินจากภาคพื่นหนึ่งไปช่วยอีกชุดปฎิบัติการที่ถูกลอบโจมตีได้อย่างทันท่วงที ซึ่งน่าจะช่วยลดการสูญเสียจากสถานการณ์ประเภทวางระเบิดแล้วเข้ามายิงซ้ำเติม
ใจจริงถ้าได้ทั้งสองก็ดีครับ ประมาณ น้องเมียสวยเลยต้องควบเลยสอง 55555
มันก็จริงอย่างท่านว่าล่ะครับมันคนละภารกิจ แต่ถ้าจะเอาแบบจิตรวิทยาเข้าข่มแบบที่ 1 มันต้องหนักแน่นแบบ ฮ.ติด มินิกัน+จรวด 2.75นิ้ว สัก 2กระเปาะ ขนาบข้างด้วยชุดปฏิบัติการพิเศษ พอส่งชุดลงแล้วก็บินหาเป้าหมายด้วยกล้องอินฟาเรด(โว้ๆเหมือนในหนังเลยแหะฝันไปปล่าวนี่)
แต่เอาแบบเงียบๆไม่รู้มาทางไหนอยู่ๆโผล่มาแล้วถ่ายภาพส่งไปที่ศูนย์ควบคุม ไม่เกิน2-3 นาทีมีลูกปืนคอ 80 แหวกอากศมาลงกลางกลุ่มผู้ก่อการตูม!(เฮ้อ! หลับกลางวันอิกล่ะ) เงียบๆไม่รู้ทิศทางก็จะเป็นจิตรวิทยาแบบที่2
ทั้งหมดทั้งปวงก็ไม่อยากให้มีการใช้อาวุธเข้าประหัตประหารกันหรอกครับและก็ไม่อยากให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นด้วยซ้ำ มันไม่ได้ดีกับใครเลยมันควรจะมีแต่ความสงบสุข อยากให้มันจบลงเร็วจะได้ไม่มีใครต้องบาดเจ็บล้มตายเพราะความไม่เข้าใจและหวาดระแวงซึ่งกันละกัน ถ้าเป็นไปผมอยากจะขอวอนให้ทุกคนเห็นแก่ผู้คนส่วนใหญ่ที่ต้องมารับเคราะห์กรรม เด็กๆต้องเป็นกำพร้าอแม่อีกกี่คนถึงจะพอชาวบ้านหาเช้ากินค่ำ หรือตัวของคุณเองที่ต้องอยู่แบบหลบๆซ่อนๆ คุยกันด้วยเหตุผลและไว้วางใจกันน่าจะเป็นทางออกที่ดีครับคิเสียว่าสงสารลูกๆของท่านก็ได้ครับที่พวกเขาไม่รู้อะไรต้องมาตายทั้งที่ยังไม่รู้เลยว่าเขาเกิดมาเพื่ออะไรและจะทำอะไรให้กับสังคมนี้ สงครามไม่เคยทำให้ใครได้ดีนอกจากต้องสูญเสียทั้งสองฝ่าย เราคนไทยด้วยกันทั้งนั้นครับ