หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


เรื่องราวของทหารกล้า 6 ปีที่แล้ว

โดยคุณ : MALASMUTU เมื่อวันที่ : 19/10/2011 18:14:49

มันอาจจะยาวหน่อย แต่แนะนำให้อ่าน      อ้างอิงจาก http://sv4313.postjung.com/wb/573453.html

มันก้อเหมือนนิยายเรื่องนึงแหละครับ แต่เปนเรื่องราว ที่มาจากเรื่องจริง ลองอ่านดูครับ สนุก

เป็นเรื่องราวของพลซุ่มยิงสองนายที่มีฝีมือระดับแนวหน้าของประเทศไทย ที่ไปปฏิบัติหน้าที่ ที่3จ.ชายแดนภาคใต้ครับ ลองอ่านดูๆ

แล้วคุณจะรักทหารไทยมากขึ้น

เรื่องราวของ "พลซุ่มยิง" หรือที่หลายๆคนเรียกกันว่า "Sniper"

การทำงานแบบฉายเดี่ยว หรือไปเป็นคู่.....ต้องมีเพื่อนรัก เพื่อนตาย

เรื่องราวต่อไปนี้มาจากสมุดบันทึก เปื้อนๆเล่มนึง ที่บันทึกไว้

และเป็นความลับมาจนปัจจุบัน

มันบันทึกเรื่องราวของ พลซุ่มยิง คนนึง จาก งานแรกที่ทำ

ประสบการณ์ที่สั่งสม....วันที่สูญเสีย...... จนวันสุดท้ายของชีวิต


เช้าตรู่วันนึง ปลายปี 47  เสียงฮ. บินเรี่ยยอดไม้ลงมาจอดยังฐานเล็กๆ
อันเป็นที่ตั้งของ ฐานเฉพาะกิจ ที่ทำงานในพื้นที่เสี่ยงภัยใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
อันร้อนระอุ

ทศ  กับ ต้อม 2 นายทหารจากกองทัพไทย ผู้ซึ่งเพิ่งจบหลักสูตร พลซุ่มยิง จากโรงเรียนจู่โจม

ถูกส่งเข้ามาในพื้นที่ เพื่อทำงานแทน คนเก่าที่กลับบ้านไปพัก

" เฮ่ออ  มาถึงซะที ฮ. แม่มดังชิหายเลย  หูกุจะหนวกละ" ทศหันไปพูดกะคู่ซี้

" เอาน่า มาถึงแล้ว  เมิงไมได้นั่งอีกนานแหละ ฮ่า ฮ่า ไปรายงานตัว ก่อนเหอะ"

หลังจากรายงานตัว ทศ กับต้อม ก็แบกเป้เข้าเบิร์มของตัวเอง

"ไอ้ทศ....ผู้กองให้มาตามว่ะ"  เสียงต้อมเรียก

" เออๆ เดี๋ยวกุไป"  ทศวางเจ้า M-24 อาวุธคู่ใจไว้

"ทำไรวะ ช้าชิหาย"  ต้อมถาม

" นั่งปั่น หัม มั่ง....เออ รีบไปเหอะ"  ทศตอบกวนตีง เพื่อนไป


หลังทำความเคารพ  ผู้กองก็ชี้แจงเป้าหมายในการปฏิบัติการวันนี้
รวมถึงแผนการ และการปฏิบัติการร่วมกับ ชุดจู่โจม ของฐานอื่นๆ

" ชุดซุ่มยิง รายงานตัวเวลา 0 นาฬิกา เข้าฝังตัวในพื้นที่ก่อนการปฏิบัติการ 3 ชม. "
เสียงของผู้กอง ทำให้ทั้งทศและต้อม ตื่นเต้นไม่น้อย เพราะนี่คือ "งานแรก" ในพื้นที่จริง
ที่ต้องยิงคนจริงๆ...

วัน ว. เวลา น.  ทศกับต้อม ก็เข้าถึงที่หมาย พร้อมกับเริ่มงานของเขา


"เห็นไรเป่าวะ" ทศถามต้อง ซึ่งทำหน้าที่ นาวิเกเตอร์
" ยัง ว่ะ....ต้นไม้.....ต้นไม้...... ต้นไม้.....ก้อนหิน....."

" ไม่มีสิ่งผิดปกติ"  เสียงต้อมบอกเพื่อน  ตื่นเต้นเล็กน้อย 
เขาทั้งสองเพิ่งรู้ว่าความกดดันที่มโถมเข้ามา เวลาทำงานจริง กับเรียนในโรงเรียน
ต่างกันลิบลับ

ในโรงเรียน มีเสียงครูด่า ตะคอก "เมิงทำอะไรโง่ๆยังงี้ แด่กหญ้าหรือเปล่า"

ที่นี่มีแต่ความเงียบ เสียงใดๆที่ผิดปกติ อาจจะหมายถึงชีวิตของพวกเขาทันที.....

"ห่านป่า  จาก มดแดง  เข้าถึงพื้นที่ตามนัดหมาย"  ต้อมกรอกเสียงลงในวิทยุ

" ห่านป่า  รับทราบ เข้าถึงที่หมาย วัน ว. เวลา น." เสียงตอบมา


เวลาผ่านไปจนถึงเวลานัดหมาย......ทุกอย่างอยู่ในความเงียบ....


" ทศ... มีความเคลื่อนไหว ทางซ้าย กลุ่มคนประมาณ 20 ทาง 370"   *แก้ไข 1*

ทศ หันกล้องส่องกลางคืนไปยังทิศทางที่เพื่อนรักบอก...
สิ่งที่เค้าเห็นคือ คนถือปืนยาว นำหน้า และขบวนลูกหาบ....

ตามแผนคือ ห่านป่า จะไม่ทำการโจมตี จนกว่า มดแดงจะลั่นกระสุนนัดแรก
ไม่มีการติดต่อทางวิทยุ  กระสุนนัดแรกคือสัญญาณจู่โจม....

"เป้าหมาย หัวขบวน ระยะ 80 "  เสียงต้อมบอกเพื่อน

" จับเป้าได้แล้ว"... ทศตอบ

"ยิงเมื่อพร้อม" เสียงต้อมบอกเพื่อน

"ปัง!!" เสียงปืนทำลายความเงียบขึ้น  หัวขบวนที่ตกเป็นเป้าหงายทั้งยืน ร่วงไปในกอหญ้า
ทศขึ้นกระสุนนัดต่อไปอย่างรวดเร็ว

ขบวนลูกหาบดังกล่าว เมื่อรู้ตัวว่าถูกซุ่มยิง ก็กระจายเข้าด้านข้าง เพื่อเตรียมตอบโต้ทันที

" เป้าหมาย...ท้ายขบวน ... ยิงเมื่อพร้อม"  เสียงต้อมบอกมาอีก

"ปัง!!"  แม่นเหมือนจับวาง เจ้าคนท้ายขบวนที่ฉากออกด้านข้าง ถูกกระสุน 7.62
ร้อยเข้าขมับอย่างแม่นยำ


"ปังงงง  ปังงงง  ปังงง"  ประกายไปและเสียงปืน ระเบิดขึ้นจากแนวป่าด้านข้างทั้ง 2

ห่านป่าที่ฝังตัวตามเวลานัดนั่นเอง


เสียงการปะทะยิงสวนกันสนั่นป่า แต่ครั้งนี้ เป็นการได้เปรียบมากของนักรบไทย
เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ที่ดีกว่า   ห่านป่า อยู่ที่เนินดินทั้ง 2 ข้าง ยิงกดลงด้านล่าง

ส่วนมดแดงที่เป็นชุดซุ่มยิง ก็ปิดกั้นทางด้านหน้า

ทันใดนั้น เสียงที่แปลกกว่าปืนทั่วไปก็ดังขึ้น

" วี้ดดดดดดดด!!!!!      บรึ้มมมมมม!!!"   จรวดหัวปลี พุ่งเข้าใส่เนินดินที่ห่านป่าฝังตัวอยู่

"ทศ แนวควัน อาวุธหนัก  ยิงเมื่อพร้อม"  เสียงต้อมชี้เป้าทันที

" ปัง!!"  M-24 ส่งลูกตะกั่วร้อนๆ เข้าที่อกเจ้าของ RPG ทันที

การปะทะเงียบเสียงลง หลังจกการต่อสู้ประมาณ 5 นาที

แต่เวลาของทศ ผ่านไปเหมือนนานนับวัน

วินาทีที่เหนี่ยวกระสุนเข้าสู่ร่างของผู้ที่เรียกว่า ข้าศึก....
ไม่เคยรู้จัก  ไม่เคยแค้นเคือง ... ไม่เคยเห็นหน้า....  มันเหมือนนานชั่วกัป ชั่วกัลป์...

มือของทศ เย็นเยือกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

"ทศ.....ทศ.....ไอ้เชี่ยทศ"  เสียงต้อมดังขึ้น

"เฮ้ย ไปได้แล้ว... เมิงจะรอพวกมันมาประเคน ฉันท์เช้าเหรอ" ต้อมดึงที่คอเสื้อเพื่อเรียกสติเพื่อน

"อืม"  สมองของทศ อื้ออึงไปหมด...เค้าเพิ่งเคยเห็นเลือดที่พุ่งออกมาจากหัวคน เวลากระสุนกระทบ จะจะตา

" กุรู้ เมิงคิดอะไร... แต่ถ้าเมิงปล่อยพวกนั้นไป พวกนั้นก็จะไปทำร้ายประชาชน ทำร้ายพี่น้องของเราอีกเยอะ... เมิงทำถูกแล้ว อย่าคิดมาก" ต้อมบอกเพื่อนอย่ารู้ใจว่าเพื่อนคิดอะไรอยู่

"อืม "  ทศยังอึ้งๆ กับเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไป

" เฮ้ย กลับฐาน เดี๋ยวคืนนี้ลงไปเอาเหล้าล้างตัวกันในเมืองป่ะ" ต้อมบอก

ทั้งคู่ก็ถอนตัวจากพื้นที่เงียบๆ

กระสุน สาม นัด ที่ทศปล่อยไป วันนั้น  3 ชีวิต ต้องหายไปตลอดกาล

" ป่ะ แด่กเหล้ากัน"  ต้อมเดินมาเรียกเพื่อนที่เบิร์ม

" อืม เลี้ยงกุด้วย พสร. กุยังไม่ได้" 

" เงินเพิ่มพิเศษ พิษสุราเรื้อรังอ่ะเหรอ" ต้อมหันไปบอกขำๆ
(จริงๆมันคือเงินเพิ่มพิเศษสู้รบ)

"นั่นล่ะ กุยังไม่ได้ เลี้ยงกุด้วย" ทศยักคิ้วข้างนึง หยอกเพื่อน

"เออ ป่ะๆ อย่าแดกแพงล่ะ เงินกุก็ยังไม่ออก" ต้อมบ่นๆ

"อย่ามาตลก  ลูกท่านอย่างเมิงอ่ะนะ ไม่มีตังค์ " ทศบอกอย่างรู้ทัน

ก็ไอ้ต้อมมันเป็นถึงลูกชายนายทหารระดับผู้ใหญ่คนนึงในกองทัพ

"เออ ไปเหอะ"


ทั้งสอง เปลี่ยนเป็นชุดชาวบ้านธรรมดา  ขี่มอไซค์ลงมาในเมือง
แต่ก็ไม่ลืมหยิบ Glock คู่ใจแอบเอามาด้วย

แน่นอน พอเหล้าเข้าปาก สองเพื่อนรักก็ระบายความในใจให้ฟัง

ทศเล่าความรู้สึกในตอนนั้นว่า  แว้บแรกที่จะเหนี่ยวไก มันแอบคิดนะ
ว่า เค้าจะตายไหม  มันจะยิงโดนหรือเปล่า  เค้าจะเอาอะไรสวนมา  มันจะเป็นอะไรไหม
ความรู้สึกแรกที่กระสุนเจาะเข้ามาเป็นยังไง...

"เมิงอยากรู้มะ เดี๋ยวกุช่วย ฮ่า ฮ่า" .....ต้อมเย้าเพื่อน เพื่อให้หายเครียด

ทั้งสองเกลอ หลังจา กึ่มๆได้ที่ ก็เดินมาที่มอไซค์ เตรียมบึ่งกลับฐาน

"เชี่ย นี่ถ้า โดนยิงตายเพราะแอบลงมาแดกเหล้าในเมืองนี่  อายเค้านะเมิง"  ทศบอกต้อมที่เป็นคนขี่

"กุกลัว แหกโค้งมากกว่า  ทางขึ้นฐานแม่ม โค้งโคตรเยอะ" ต้อมเองก็มนๆไม่น้อย

บรึ้มมมมม!!!!!!!!!!   เสียงดังสนั่น ดังมาจากไม่ไกลนัก  ทั้งสองมองหน้ากันทันที

"เอาไงวะ...ไปดูไหม"  ต้อมถาม

"ไม่ต้อง กลับฐานไปก่อน  ค่อยว่ากัน  มันระเบิดไปแล้ว เราทำไรไมได้"  ทศตอบเพื่อน

ในใจก็รู้อยู่ว่า  ไม่น่าเสี่ยงเข้าไปดูเพราะทำอะไรไมได้  กับ ไม่รู้ว่าจะมีลูกสอง ลูกสาม ตามมาไหม

สำคัญที่สุด มานยังไม่อยากเปิดเผยว่าเป็นเจ้าหน้าที่มาทำงาน

แน่นอนว่า ระเบิดลูกดังกล่าว ออกข่าวในเช้าวันต่อมา
เป็นการเอาคืนทันทีหลังจากที่ขบวนขนเสบียงของฝ่ายนั้นถูกโจมตี

และมีการดักด้วยระเบิดลูกที่สอง  ชุดเก็บกู้ของ ตชด. โดนเข้าไป ขาขาด ไม่ถึงกับตาย
............................................


" อืม กุไม่รู้สึกผิดละ  กุรู้แล้วว่าทุกครั้งที่ทำงาน กุไม่ต้องคิดอะไรมาก  เพราะพวกแม่มก็ไม่คิดมากเหมือนกัน" ทศเดือดดาลไม่น้อย เพราะระเบิดลูกนั้นไม่เพียงทำร้าย ตชด.
แต่มีเด็กที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วย โดนไปอีก 3 คน

" อืม" ต้อมตอบสั้นๆ ตบบ่าเพื่อน   

ตอนนี้ ระเบิดลูกนั้น ได้ทำให้ความรู้สึกผิดในการทำงานของทศหายไปแล้ว
ต่อไปจะเป็นการทำงาน ตามคำสั่ง โดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆในใจอีก...


ต้นปี 2548

อากาศเย็นสบายจนมีหมอกลงจัด....ทศหันไปมองรอบๆ

วันนี้เขาอยู่คนเดียว เนื่องจาก ต้อม กลับบ้าน เพราะมีธุระด่วน (เมียกะลังจะคลอด)

"อืม ถ้าไม่มีเรื่องคงดีเนาะ   สวยมาก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวดีๆได้เลย"  ทศคิดในใจ

" หมวดทศ ทานข้าวครับ"  เสียงจ่าเมฆ  ทหารพลาธิการประจำฐานเรียก

"มีไรกินอ่ะจ่า"

" มี ต้มยำปลา กะ ไก่ทอดเกลือครับ" เสียงจ่าเมฆตอบมา

" อ่า  "   .....  "เด๊ยวผมตามไป"

ข้าวสวยร้อนๆ กับ อาหารง่ายๆ  ให้รสชาติไม่เลวเลยทีเดียว สำหรับกลางป่าแบบนี้

"หมวด ผู้กองเรียกครับ"  เสียงเจ้าโนช  คนของผู้กอง มาเรียกทศ

" เดี๋ยวผมไป ทานข้าวก่อน"  ทศตอบไปพลาง ซดแกงไปพลาง

" ผู้กองว่าเรื่องด่วนครับ    ต้องเดี๋ยวนี้ ครับผม"  โนช ว่าต่อ

ทศรีบกลืนข้าว วางช้อนแล้วเดินไปยัง ห้องวางแผนของฐานทันที
(จริงๆก็เพิงไม้ธรรมดาอ่ะ เรียกให้ดูดี ฮ่า ฮ่า)

"ฉก.9ของ ทอ. แจ้งมาว่า มีการเคลื่อนไหวผิดปกติที่หมู่บ้าน บริเวณนี้
.....ผู้หมวด ผมต้องการให้คุณแทรกซึมเข้าไปดูว่า มีอะไรผิดปกติไหม"

"ครับ"  ทศตอบ แล้วถามต่อ

"มีแผนยังไงและการสนับสนุนยังไงครับ"

หลังจากผู้กองอธิบายจุดเข้าสังเกตุ  วิธีการเข้าจุด  กำลังสนับสนุนเมื่อได้รับการร้องขอ
ทศก็เตรียมอุปกรณ์พร้อมลุยทันที

" งานนี้ ฉายเดี่ยวนะ หมวด  ระวังตัวดีๆ " ผู้กองเดินมาส่งที่รถที่จะเข้าไปส่งบริเวณใกล้เคียงพื้นที่

หมวดทศ ในชุดกิลลี่สูท ก็แฝงตัว หายเข้าไปในป่าทันทีที่ลงจากรถ

...............................   หลาย ชม. ผ่านไป ........................

" มดแดง เรียกมะม่วง......ทดสอบ  ทดสอบบ"  ทศลองเรียกฐาน  วิทยุรุ่นล่าสุดถูกนำมาใช้

"มะม่วง ทราบ  ชัดเจน"  เสียงผู้กองตอบมาจากฐานที่อยู่ห่างไปราว 20 กิโลเมตร

 ในหัวของทศ ทบทวนขั้นตอน ปฏิบัติต่างๆตามแผนที่ผู้กองมอบหมาย รวมไปถึง
งานพิเศษ ในกรณีที่เจอ "คนพิเศษ" ของอีกฝ่ายด้วย


ความมืดเริ่มเข้าครอบคลุมพื้นที่.... แถวนั้นมืดเร็วมาก โดยเฉพาะในป่าด้วยแล้ว แสงอาทิตย์หมดไปอย่างรวดเร็ว

จุดที่ทศซุ่มอยู่คือบนต้นไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านสาขาและใบอย่างหนาแน่น

ไม่มีทางเลยที่คนที่ไม่ได้รับการฝึกมาแบบเขาจะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
แม้จะเป็นเวลากลางวัน  ยิ่งด้วยกลางคืนแล้ว การถูกพบเห็นยิ่งเป็นไปไม่ได้

วันนี้ทศติดอุปกรณ์มาไม่มาก  M-24 ใส่ท่อเก็บเสียง Glock19 ใส่ท่อเก็บเสียง
น้ำ และอาหารแห้ง(MRE) และกล้องถ่ายภาพทางยุทธวิธี เท่านั้น

ทศเฝ้ามองความเคลื่อนไหว ในหมู่บ้านกลางป่าเล็กๆ อย่างเงียบเชียบ

ภาพของบุคคลพิเศษ ถูกทบทวนในความนึกคิด ทศเกือบตลอดเวลา

เพราะบุคคลดังกล่าว จัดว่าเป็นระดับครุฝึกของค่าย R........

เป็นคนที่สอนวิธีทำระเบิด ที่สำคัญ.....มันคนนี้เป็นลิ่วล้อนักการเมืองในพื้นที่อีกด้วย

......................... ตี 1  20 นาที.....................

เสียงเครื่องยนต์ดังเบาๆ แว่วมา  ทศมองไปยังทิศทางของเสียงเครื่องยนต์นั้น
รถ 4WD คันโต วิ่งเข้ามาจอดที่หมู่บ้าน  มี คนลงมาจากรถ 4 คน  ทุกคนติดอาวุธ.....

คนที่ 5 เดินลงมา.......ทศมองผ่านสโคปทันที .......

"มดแดงเรียก มะม่วง"  ทศกรอกเสียงลงในวิทยุเบาๆ

" มะม่วง  มดแดงว่าไป"

"หงส์ลงหม้อเปลี่ยน จะให้ทำอย่างไร"  ทศแจ้งข่าว( จขกท. เด็กผีครับ อิอิ)

"ให้มดแดง รอดูความเคลื่อนไหว จนกว่า เหยี่ยวดำ จะเข้าพื้นที่....ถ้าไม่ทัน ให้ปล่อยไป"

"ทราบ"  ทศตอบสั้นๆ พร้อมกับประทับ ปืนคู่ใจ จ้องเป้าตามความเคลื่อนไหวตลอด

"มดแดง จากมะม่วง ให้ปรับคลื่นไปที่ ช่อง 3 ในอีก 10 นาที  เหยี่ยวดำจะไปถึง ในอีก 10 นาที"

"รับทราบ" ......

.................. 10 นาทีต่อมา  ทศเปลี่ยนคลื่นไปที่ ช่อง 3 ...............

" มดแดง เรียกเหยี่ยวดำ" ....

" เหยี่ยว ดำ อยู่เหนือพื้นที่แล้ว" .... เสียงตอบมา

" ขอความช่วยเหลือตามแผน  รหัส เหลือง"  ทศกรอกเสียงลงไปในวิทยุเบาๆ

" รับทราบ" ........ " มดแดง รอบคุณมี กลุ่มคนประมาณ 40  .....แก้ไข ... 42"

" ทุกคนถือปืนเล็กยาว .......ไม่พบอาวุธหนัก....."

"รับทราบ....ระบุเป้าหมาย "หงส์น้อย" ชัดเจนหรือไม่" เสียงทศถาม

" เป้าหมาย ยืนยัน  ระยะ 300 จากจุดที่มดแดงอยู่ " เสียงเหยี่ยวดำตอบมา

"รับทราบ"  ..." ให้เหยี่ยวดำ สังเกตุการณ์ความเปลี่ยนแปลงต่อไป"  ทศว่าต่อ

"รับทราบ เหยี่ยวดำจะรอดูเหนือเป้าหมาย"

เอาซะเลยดีไหมวะเนี่ย ...... ทศคิดในใจ  เพราะไหนๆมาแล้วจะได้ไม่เสียเที่ยว

ว่าแล้ว ทศก็ยก M-24 เล็งไปทางเป้าหมาย..... นิ้วชี้ลากเข้าโกร่งไกช้าๆ

" เหยี่ยวดำเรียก มดแดง ขอให้ถอนตัวไปยังจุดนัด 2  มีคำสั่งยกเลิก ปฏิบัติการ"

"มดแดง ทราบ"  ทศไม่มีคำถามใดๆ  ลดปืนลง แล้วเคลื่อนที่ออกจากพื้นที่อย่างเงียบเชียบ

ไปยังจุดนัด

ที่จุดนัด มีเพียงเสียงลม และแมลง  ทันใดนั้น ฮ. ลำใหญ่ สีดำก็โผล่พ้นยอดไม้.....

มีเสียงใบพัดเบาๆดังมา UH-60 ของ ทบ. นั่นเอง คือ เหยี่ยวดำของงานนี้

ทันทีที่ทศขึ้นไปบนเครื่อง ก็ถามนักบิน

"กำลังจะได้แล้ว ทำไมยกเลิก"  ทศถาม

นักบินชี้ให้ดูบนจอ LCD  ทศใจหายวาบ

จุด ที่เค้าอยู่ ถูกโอบล้อมด้วยกำลังไม่ทราบฝ่าย แน่นอนว่าถ้าทศยิงออกไป เค้าจะต้องถูกบดขยี้ โดยที่ไม่มีทางที่ เหยี่ยวดำจะไปเอาตัวออกมาได้

"รอดไปกุ"   ทศอุทานกับตัวเองเบาๆ

"หมวดใจเย็นๆ โอกาส เดี๋ยวก็มาอีก "  เสียงผู้กองบอกเมื่อถึงฐาน

"ครับ"



พูดถึงฐานที่ ทศ กับ ต้อม อยู่...

สวยนะ ... ถ้าไม่มีเหตุการณ์บ้าๆบอๆนี่เกิดขึ้น ก็เป็นสถานที่ท่องเท่ยวอีกแห่งนึงได้สบาย

ลองนึกภาพ ทิวเขาสีเขียว หมอกจางๆ อากาศเย็นๆ หลังเขื่อนกว้างใหญ่ ..... น้ำนิ่ง ใสราวกระจก.......

หากแต่ตามทางเต็มไปด้วย  พื้นที่สังหารชั้นดีมากมาย.....ข้างทางที่เป็นป่าทึบ  เนินสูงทั้ง 2 ข้าง

โค้งหักศอกที่สามารถนำระเบิดไปดักได้....ขอแค่มีหลักเล็งเป็นถุงพลาสติคก็พอ.....

พอผมพูดถึงเขื่อน หลายๆท่านน่าจะพอเดาได้แล้วว่า พื้นที่นี้ เป็นที่ไหน

.... พอดีเอาเรื่องตามบันทึกของน้องคนนี้มาลง..... มะคืนนั่งจิบเบียร์เลยนึกถึงพวกเค้านิดหน่อย......



-------------------------------- 




"ทศ"  เสียงต้อมเรียกเพื่อน

" อ้าว ...ไงครับเมิง  ไอ้พ่อลูกอ่อน.....กลับมาได้ละเหรอ  ... กุนึกว่าจะหลงลูกจนมาฐานไม่ถูกละ"  ทศยิ้มกวนตีงเหมือนเคย

"ไอ้ห่ะ ....  เดี่ยวกุก็ให้เมิงหาเนใหม่ซะหรอก.... กุยิ่งห่วงๆ อยู่"  ต้อมบอกเพื่อน

" ละเมิงรีบกลับมาทำไม...."

" กุกลัวเมิงทำงานคนเดียว ละเป็นนาวาโท ก่อนวัยอันควร ฮ่า ฮ่า" ต้อมหัวร่อร่วน

" อ่อ เมิงมาทำงานกะกู เมิงก็เป็นนาวาโท พร้อมๆกุแหละ.... มันล่อกุ ก็ต้องเอาเมิงไปด้วย"  ทศยังคงอารมณ์ขันไว้...

" อืม... นะ ห่ะ นี่ พูดไรไม่เป็นมงคล..."  ต้อมหันไปหยิบเบียร์มาโยนให้ทศ

"ฐานเป็นไงมั่ง...  ได้ข่าวว่าฉายเดี่ยว เกือบเป็นผีเฝ้าป่า"  ต้อมถาม

"อืม ก็เกือบไป ดีที่ ฮ. มันเห็นจากกล้องอินฟาเรด ไม่งั้น กุเละ"  ทศยังคงนึกถึงงานที่แล้ว ที่เค้าเกือบพลาด.........

"อืม เอาน่า รอดมาได้  ก็ยังหายใจอยู่  ช่างพวกแม่มเหอะ" ......ต้อมจบเรื่องทันที เพราะรู้ว่า ทศเองก็กังวลไม่น้อย
ด้วยตัวทศเอง ถึงแม้จะเป็นยอดฝีมือด้านการซุ่มยิง แต่ก็มบางครั้งที่ กลัวอะไรแบบไม่น่าเชื่อ


"แดกเบียร์ละนอนดีก่า ไม่รู้พรุ่งนี้จะงานเข้าไหม" .......ทศ ซดเบียร์ นวดเดียวหมดกระป๋อง แล้วเดินกลับไปนอนที่ เบิอร์มของตัวเอง



--------------------------------------------


ดึกสงัด......ไม่รู้เวลาเท่าไหร่......

"ทศ...ตื่นๆ" ต้อมเดินมาตาม 

" มีไรวะ กุง่วง" ทศงัวเงียตอบ

"มีระเบิดในเมือง เมื่อเที่ยงคืน  มันยิงถล่มป้อมตำรวจด้วย"  ต้อมว่า

" อ้าว ละใครเป็นไรมั่งไหม" ทศดีดผึงขึ้นมาทันที

"ตำรวจในป้อมตาย 2 เจ็บไป 1"  ต้อมบอกเสียงเซ็งๆ

"กุว่านะ.....ไอ้ตัวที่มันหลุดกุไปเป่าวะ"  ทสคิดถึงเมายของเค้าเมื่อคืนก่อน

" ไม่รู้  รู้แต่.....พรุ่งนี้จะมีชุดไล่ล่า ของ ............  บินด่วนมาตามไอ้พวกนี้โดยเฉพาะ.."  ต้อมบอก

"ชุดไหนวะ?? พวก......... เหรอ"  ทศถาม


" ไม่รู้ ผู้กองไม่ได้บอกอะไร ....รู้แต่ว่า พรุ่งนี้  งานเข้าแน่ๆ เพราะพวก พี่โรจน์ กับ พี่ต้อกก็มา "

" อ่าว เฮียแกมา ยังีง้สงสัยงานใหญ่" ทศรู้ทันที เพราะ 2 คนที่ว่า คือ 2 คนที่ทำงานใน หน่วยรบพิเศษชื่อดังของไทย และเป็นระดับหัวกะทิของหน่วยดังกล่าวด้วย

" นอนละ เอาแรง.....กุว่าพรุ่งนี้ แม่ม ป่าระเบิดแน่"  ทศพูดอมยิ้ม เพราะพอเดาได้ว่า จะเกิดอะไรขึ้น


---------------  เก้าโมงเช้า ที่ห้องวางแผน--------------

" ดีครับ พี่ โรจน์   ดีครับพี่ต้อก"  ทศและต้อมทักทายรุ่นพี่ ทั้งสอง

" อ้าว ไงไอ้น้อง ได้ข่าวว่าเก๋าขึ้นนี่หว่าเดี๋ยวนี้".... คนที่ชื่อโรจน์หันมายิ้มโชว์ฟันขาว..

" เพ่ แบกไอ้นี่มาเลยเหรอ สงสัยงานหนัก"  ทศเหลือบตาไปเห็น MK19 เครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 40มม.
ชนิดอัตโนมัติ  ( อ่าว มีจริงนะครับ ทำเป็นเล่น บอกแล้ว กองทัพไทย ไอเทมลับเยอะ)

" อืม  ก็พื้นที่นี้ เคยบอกแล้วว่าห้ามเกิดเรื่อง  ถ้าเกิดเรื่อง ก็ต้องเอาหนักๆหน่อย" โรจน์บอกน้อง

"อ่อ  วันนี้เราคงได้ทำงานด้วยกัน  เพราะ...กุอยากได้ สไน ปากหมาๆสักคนไว้คอยบอกพิกัด"  โรจน์หันไปบอกทศกับต้อม

" โห พี่ หลอกด่าอีก ....งั้นเอาไอ้ต้อมไปคนเดียวก็พอพี่ มันอ่ะ พญาหมาเลย"  ทศหันไปแขวะเพื่อน

" อ่าว ไอ้นี่ มาทางกุซะงั้น  หมาไม่หมาก็มีผู้หญิงมาให้ปั้มลูกให้ละกัน  ไม่เหมือนเมิง  นอนฝันเปียกกะนางไม้" ....

"เอ้าๆ พอแล้ว เดี๋ยวฟังบรรยายสรุปแล้วเตรียมทำงาน"  พี่ใหญ่ของเค้าทั้งสองบอก  ทศกะต้อมก็ ขำๆกันไป

------ ตี 1 ของวันต่อมา  เหล่านักรบไทย ก็เคลื่อนตัวเข้ายังพื้นที่เป้าหมาย เพื่อรอเวลาโจมตีตอนเช้า--------

"กันดั้ม...เรียก โรโบคอป"  (Call Sign มันไม่ปัญญาอ่อนยังงี้หรอก อันนี้สมมุติเองครับ)

"โรโบคอป   กันดั้มว่าไป"  เสียงผู้กองโรจน์ตอบมาเบาๆ

"กันดั้ม เข้าประจำจุด และมาร์คเป้าหมายแล้ว  ทาง ตะวันตก ระยะ 300....กันดั้มตรวจพบ .50 คลุมรางไว้ ด้านบน
พลประจำ 3 พร้อมปืนเล็กยาว"

" จุดที่สอง ปืนกล ไม่ทราบขนาดและคาลิเบอร์ คลุมพรางไว้ เยื้องซ้าย จากเป้าหมายเดิม ...พลประจำ 2 พร้อมปืนเล็กยาว และ RPG"

"ทั้ง 2 จุด ยิงคลุมพื้นที่ฝังตัวของได้ตามวิถีการยิง"  เสียงต้อมรายงานรายละเอียดที่ตั้งของฐาน

.." ต้อม....มันเอา RPG มาจากไหนวะ"   ทศถามเพื่อนพลางมองไปยังทิศทางที่เพ่อนรายงานทางวิทยุ

"เซเว่นมั้ง....กุจะรู้ไหม เห็นพร้อมๆเมิงเนี่ย" ต้อมตอบ

"กันดั้ม.....เริ่มกำหนดปาร์ตี้ เวลา น. " เสียงผู้กองทศกรอกผ่านมาทางวิทยุ..

"รับทราบ" ..... ต้อมตอบ พร้อมกับตั้งสมาธิทำงาน

-----------

"ทศ เป้าหมาย....คนถือหม้อหุงข้าว  กำลังก่อไฟ" ต้อมมาร์คเป้าให้เพื่อน......

"ได้เป้าแล้ว"  ทศปรับมุมของสโคปเล็กน้อย

" เผื่อซ้าย 1 คลิ้ก.... ลมตะวันตก "  ต้อมบอกรายละเอียดต่อ

"รับทราบ"  ทศปรับระยะอีกนิดหน่อย


----------------------------

ตึง ตึง ตึง ตึง ตึง!!!!!! เสียง MK19 ขนาด 40 มม. จากชายป่า สาดเข้าไปในค่ายทันที

บรึมมมมมมมม  บรึมมมม บรึมมมมม!!!!!!

ลูกไฟขนาดใหญ่หลายลูก ระเบิดขึ้นกลางค่ายฝึกใหญ่ของ R........คนทั้งค่ายแตกตื่น.......  ที่สำคัญ..

มันมีคนมากกว่าที่ผู้กองบอกตแนประชุมแผนสักเท่าตัวได้

"ยิง"  ต้อมบอกทศ 

"ฟุ่บ" ........ เสียงฟุ่บเบาๆ ที่แทบจะไม่ได้ยิน เพราะ M-24 ของทศ ติด กระบอกเก็บเสียงมาด้วย
คนที่ถือหม้อข้าว หงายหลังตึง  ข้าวกระจาย.....  ทศขึ้นกระสุนใหม่อย่างรวดเร็ว

" ฟุ่บ" ....... กระสุน พุ่งเข้าเจาะกลางหน้าผากของ คนที่กำลังขึ้นไปปลดผ้าคลุม .50 ทันทีวิญญาณหลุดลอยออกจากร่าง โดยที่ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไป

"ปืนกล..."  ต้อมร้องบอกทศ

เสียงคำรามหนักๆ ของกระสุนขนาด .50 อีกกระบอกที่แอบอยู่ในมุมอับ ซึ่งทั้ง ทศและต้อมมองไม่เห็นในตอนตรวจการณ์

ฝุ่นตลบฟุ้งขึ้น บริเวณที่ผู้กองโรจน์ และทีมจู่โจมวางตัวอยู่

"ตึง ตึง ตึง ตึง ตึง" เสียง MK19 คำรามขึ้นอีกชุด ผสมด้วยเสียงปืนเล็กยาว นานาชนิดทั้งสองฝ่าย

" บรึ้มมมมมมมมม"  ลูกกระสุน 40 มม. ระเบิดรังปืนกลเป็นจุลในพริบตา

" ทศ เป้าหมาย 140 ตะวันตก RPG. " .......ต้อมบอกเพื่อน

จังหวะเหนี่ยวไกนั่นเอง ระเบิดที่ปาออกมามั่วๆจากฝ่ายตรงข้ามลูกหนึ่ง ก็มาตกไม่ห่างจากทั้ง 2 มากนัก

" ตูม!!!!"  "ฟุ่บ" ....... จังหวะเดียวกับกระระเบิด ทศลั่นกระสุนออกไป  กระสุนนัดนั้นจึงพลาดไปถูกบังเกอร์ดัดแปลง...
เมื่อกระสุนพลาดและมีการกระทบ  อีกฝ่ายรู้ได้ทันทีว่า  มีพลซุ่มยิงอยู่ด้วยในพื้นที่ ....

ปืนกล .50 เบนเป้าหมาย ยิงสุ่มมายัง บริเวณที่ ทศ กับต้อมซุ่มอยู่ทันที

"บรรลัยล่ะ ....ไปเร็ว" ต้อมบอกเพื่อนทันทีที่เห็น ปากกระบอกของ .50 หันมาทางเขา

สองพลซุ่มยิงจากกองทัพไทย ถอยเข้าแนวต้นไม้ด้านหลังไปทันที

" กันดั้ม จากโรโบคอป  ให้ถอยออกจากแนวเข้าตี 100 เมตร"เสียงผู้กองโรขน์ สั่งทางวิทยุทันทีที่รู้ว่า บัดนี้น้องของเขาทั้ง 2 ตกเป็นเป้าของ .50 เข้าแล้ว

ไม่มีเวลาตอบ ต้อมตบบ่าทศแล้ววิ่งนำ  ทศตามไปทันทีชนิดก้าวต่อก้าว...... เสียงกระสุน .50 ทะลุทะลวงต้นไม้ด้านหลัง น่าสยดสยองยิ่ง

..."โรโบคอป....ถึง พีซ เมคเกอร์  ขอ สไตรเกอร์ รหัสแดง 150 ตะวันตก"

"Roger Peace Maker Coming in" .......เสียงตอบวิทยุ อู้อี้ๆดังลอดผ่านมา 

ทศและต้อมหมอบราบ รอดูเงียบๆ

เสียง AU-23A ดังสนั่น โฉบเหนือยอดไม้ เหมือนปิศาจจากป่าลึก........

ปุ้ง ปุ้ง ปุ้ง ปุ้ง ปุ้ง ปุ้ง!!!!!!!   เสียงหนักๆ แต่ถี่ยิบ  และประกายไฟ แล่บออกมาจากประตูข้างของ AU-23A

มันคือ ปืน 20มม. แกตลิง 3 ลำกล้อง อันทรงประสิทธิภาพยิ่งในการกวาดล้างทหารราบ...

*แก้ไข 1*
เอามาจากบันทึกเก่าๆเล่มนึงคับ  ส่วนเนื้อหา เอามาแปลงบ้างครับ เพราะไม่รู้ว่าใครอ่านบ้าง

เลยเอาข้อความจริงมาลงหมดไมได้ครับ

หลายๆท่านที่ทำงานจริงๆ อ่านแล้วน่าจะทราบว่า  จริงมั่ง โม้มั่ง อิอิ

ส่วน 370 นั่น ผมพิมพ์ผิดเอง  จริงๆมันเป็น 270 ตามทิศ แบร์ริ่งครับ


" บรึ้มมมม"  เสียงระเบิดจากรัง ปืนกล ทั้ง 2 ที่เหลือ  และประกายไปพุ่งขึ้นมา

ไม่รู้ว่า โดน MK19 หรือ โดน 20มิล ของ AU-23 ถล่มเอา

แต่ตอนนี้ ความได้เปรียบกลับมาอยู่ฝ่ายนักรบไทยอีกครั้ง

AU-23 ตีวง เลี้ยวกลับมาอีกครั้ง พร้อมเอียงซ้าย เพื่อเปิดมุมยิงให้กับ ปืน 20 มิลอีกระลอก

ปุ้ง ปุ้ง ปุ้ง ปุ้ง ปุ้ง ปุ้ง!!!  ฝุ่นตลบ พื้นสะเทือนกันเลยทีเดียว เมื่อกระสุน 20มม. ทะลุทะลวงเข้าไปในบ้านพักหลายหลังในค่ายฝึก

ตอนนี้ทั้งทศ และต้อม รู้ดีว่า งานของเขา จบแล้ว เพราะ พลังจากการยิงชุดที่ 2 ของ AU-23 เสียงปืนจากในค่ายฝึก แทบจะไม่มีเลย

"หมดแล้วยังวะ"  ทศถามต้อม

"ไม่ว่ะ  กุว่ายัง  ที่กุเห็นตอนเริ่มยิง มันออกมายังกะผึ้งแตกรัง"  ต้อมตอบ ยังตื่นเต้นไม่น้อย

"กันดั้ม จากโรโบคอป  ให้กันดั้มเข้าประจำตำแหน่ง Cover 180องศาด้านหน้า  โรโบคอปจะเข้าเคลียร์พื้นที่"

"กันดั้ม ทราบ" ต้อมตอบไปทางวิทยุ

พลซุ่มยิงทั้ง 2 กลับเข้าตำแหน่งอีกครั้ง.......แต่ครั้งนี้ ภาพที่เห็น ไม่เหมือนเดิม....

มีคนนอนเกลื่อนค่าย...... ปืนหลายชนิดกระจัดการะจายทั่วบริเวณ... เลือดแดงๆ สดๆ เปรอะไปทั่ว...

"กุว่า .... งานใหญ่เลยนะนี่"  ทศบอกต้อมพลางมองภาพด้านหน้าอย่างสลดใจ

"อืม...กุก็ว่างั้น"...ต้อมตอบแล้วทำเป็นมองไปทางอื่นซะ

ภาพต่อมาที่เห็นคือ เปลที่ทหารไทยแบกออกมาจาก ป่า เพื่อรอ ฮ. มารับ .......

4 เปล  1 ใน 4 เปล มีผ้าปิดหน้า........

"ใครโดนเข้าวะ"  ต้อมอุทานเบาๆ   ทศนิ่งเงียบ......ไม่ว่าคนโดนจะเป็นใคร  จะรู้จักกันมานาน หรือเพิ่งรู้จัก...
คนที่นอนไปนั่นก็คือ  ทหารไทย....พี่น้องร่วมชาติที่หลั่งเลือดชโลมดินมาด้วยกัน.....
ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็ต้องเศร้าโศก......


" เดี๋ยว รวมพล แล้วเตรียมกลับเลย เดี๋ยวชุดเคลียร์จะเข้ามา เย็นนี้นักข่าวจะมาทำข่าวที่นี่"  เสียงผู้กองโรขน์เดินมาบอกกับน้องๆของเค้าทั้งสอง

"เมิงสองคนอย่าคิดมาก....  เราไม่ทำเขา เขาก็ทำเรา....ค่อยไปคุยกันที่ฐาน" ....ผู้กองโรจน์ตบบาสน้องทั้ง2..


"ครับพี่" ......ทั้งสองตอบพร้อมๆกัน  ผู้กองโรจน์ยิ้มน้อยๆ แต่แววตาก็เศร้าสร้อยไม่แพ้กัน....

.....ข้อความนี้ในบันทึกจริงเขียนไว้ว่า .....

"แม่ครับ  พรุ่งนี้ผมจะไปทำบุญ......ผมไม่เคยเห็นความตายที่ดุเดือดขนาดนั้นมาก่อนในชีวิต...
ผมไม่อยากทำ แต่ถ้าผมไม่ทำ เค้าก็จะไปเข่นฆ่า ประชาชนของเราครับ

ผมกลัวว่าวันนึง คนที่ต้องนอนกลับฐานอาจจะเป็นผม หรือไอ้ต้อม

แม่สวดมนต์ให้ผมด้วยนะครับ ....แถวนี้มันมีแต่ ผี..........ลาม ผมสวดภาษา ...V ไม่เป็น

ถ้าผมอยู่ใกล้ๆแม่คงเขกหัวผมอีก ข้อหา ทะลึ่ง

แม่ ....ผมรักแม่นะครับ"


ครึ่งปีแล้ว..... ที่ทศ กับต้อม เข้าสู่พื้นที่สีแดง.....แจ๊ด.....

เพื่อปกป้องราษฎรไทย....... ทุกสาขาอาชีพ  ทุกศาสนา....ทุกภาษา....

บันทึกจริง มีข้อความตอนหนึ่งว่า "แผ่นดินที่ปกป้องนี้ ไม่มีประโยชน์เลย ถ้าเราปกป้องราษฎร ในพื้นที่ไม่ได้" ......

วันนี้มีงานที่ต้องประสานกับ ตชด. ในพื้นที่

งานไม่ง่าย ไม่ยาก  และ ไม่ต้องใช้กิลลี่ สูท

เข้าหามวลชน.....

งานนี้ ตำรวจ - ทหาร เปิดหน้าตาหล่อกันเต็มที่ แต่ก้ต้องระวัง เต็มที่เช่นกัน

" อย่าเรียกกุว่าหมวดนะ  เข้าใจ๋  กุไม่อยากตกเป็นเป้า"  ทศ กับ ต้อม บอกลูกทีมที่ต้องลงพื้นที่ด้วยครับ

"ครับผม  หมวด" ...  จ่าปอง ตอบ

" เออ ลงไปในหมู่บ้านละไม่ต้องเรียกล่ะ"  ทศตอบยิ้มๆ

------ ทั้งชุด เดินทางลงสู่หมู่บ้านเล็ก  เงียบสงบ  แต่........แหล่งข่าวแจ้งว่าที่นี่ แนวร่วม  เพียบ ------

(จริงๆ พื้นที่นี้ เค้าพูดยาวีกันอ่ะ  คือทั้งตัวเจ้าของบันทึก และผม ก็อ่านไม่ออก
เลย ไม่รู้จะไปต่อยังไง ฮ่า ฮ่า)

" ทศ .....  เมิงเห็นไอ้คนนั้นยัง" ....  ต้อมหันมาถามเพื่อน    ซึ่งหมายถึง คนในหมู่บ้านคนนึง ซึ่งสายข่าวระบุว่า เป็นนักจิตวิทยา ของฝ่ายตรงข้าม

"อ่อ ... เออ ไอ้คนนั้นเอง.....ต้อม เมิงถือกล้องตามกุมาหน่อยดิ"  ทศว่า

ต้อม ยักคิ้วอย่างรู้ทัน

"จ่า  มาเป็นล่ามให้หน่อยครับ" ทศเรียกจ่าปอง ที่เป็นคนในพื้นที่และพูดยาวีได้ตามมา

"**-***-*-****-*-*===" จ่าปองพูดกับชายคนดังกล่าว  เป็นภาษาพื้นบ้านของเค้า  เร็วปรื้ดดด

และก็หันมาพยักหน้าเรียก

ทศเดินไปกอดคอชายคนนั้น  ถ่ายรูปคู่ด้วยซะเลย .....  (เอ่อ มันใจกล้าดีว่ะ 555+)

" ต้อม ถ่ายชัดเป่าวะ.... กุขอชัดๆ อิอิ"

" ฮ่า ฮ่า.... เออ ชัดแหละ กล้องแพง  เงินเดือนกุเกือบทั้งเดือน"  ต้อมตอบพลางขำๆกันไป

" หมวด หวัดดี ค๊าบบบบ"   ทศหันควับตามเสียง .....  อ่าว  เวนละ บอกลูกทีมตัวเอง ดันลืมบอกคนอื่น  "ทักกุซะดังเลย" ทศพึมพำๆกับต้อม

สายตาคมกริบ มองตามเสียงเรียก จับจ้องมายังหมวด ทศ กับ ต้อมทันที.....

"กุว่า...งานเข้าว่ะ ฮ่า ฮ่า"  ต้อมพูดกับทศ เบาๆ

" อืม ช่างเหอะ ยังไงมันก็รู้อยู่ดี" ทศว่า

หลัง จาก พูดคุย ทักทาย ชาวบ้านในพื้นที่จบ ชุดปฏิบัติงานร่วม ทหาร - ตำรวจก็กลับมาประชุมกันที่ในตัวเมือง หลังจากประชุมจบก็เดินทางกลับฐานของตน

แผน และขั้นตอนต่างๆถูกรวบรวมในหัว ของทั้งทศ และ ต้อมเรียบร้อยแล้ว

....................

ข้อความจริง ......
คนในพื้นที่นี้ น่ารักจังเลย  สาวๆสวย ตาคม... โฮะๆ หลายๆคนเค้าหวาดระแวงข้าราชการมาก
โดยเฉพาะ ทหาร-ตำรวจ  เราต้องทำความเข้าใจกับเค้าว่า เรามา เพื่อปกป้องพวกเค้า
ไม่ใช่มาเพื่อทำร้าย.... ยอมรับว่าในอดีต ข้าราชการหลายคนทำให้ ชาวบ้าน
ต้องเข้าเป็นแนวร่วม  แต่ในตอนนี้  ชาวบ้าน โดยเฉพาะเด็กๆ  ชอบพวกเรามาก
ผมยังเชื่อว่า แววตาของเด็ก ไม่โกหก  แผยแบ่งแยกของพวกเค้า สำเร็จไปแล้วเกินครึ่ง
แต่พวกเราก็จะทำลายแผนนี้ให้ได้ เช่นกัน......

รักทุกคนคร๊าบบบบบ    โดยเฉพาะลูกสาว บ้านติดร้านกาแฟ ฮ่า ฮ่า


"ทศ ....  อ่ะ ของเมิง"  ต้อมวาง กล่องเล็กๆลง ภายในบรรจุกระสุนขนาด 7.62แบบ พิเศษไว้

" เออ  ขอบใจว่ะ  ... เบียร์มะ"  ทศโยนกระป๋องเบียร์ให้เพื่อน

"อืมมม ถามแล้วโยนให้นี่ กุไม่แด่กก็ไม่ได้ช่ายไหม"  ต้อมยิ้ม พร้อมกับเปิดกระป๋อง กระดกเข้าปาก

"อืม ลูกเมิงเป็นไงมั่งนี่  มีลูกตั้งกะเด็ก จะรีบปั้มไปไหน"  ทศหยอกเพื่อนรัก

" เอ้า ก็เผื่อกุไม่ได้กลับ แม่มันจะได้ไม่เหงาไง ฮ่า ฮ่า" ต้อมพูดไปขำไป

" เมิงนี่ปากหมาจริงๆ" ทศตอบยิ้มๆ

ทุกคนที่นี่พูดหยอกล้อเรื่อง ตาย หรือไม่ตายกันจนชินแล้วเพราะ เห็นจนชินตา

มัวแต่คิดมาก หรือกลัวตาย ก็พอดีไม่ต้องทำงาน

" เออ ได้ข่าวยัง เรื่อง V-150 เมื่อวาน" ต้อมถามเพื่อน

" เออ รู้ละ เห็นว่า แม่ม บึ้มซะเพลาขาด พุ่งลงข้างทาง" ทศเองนึกภาพตามก็อดสยองไม่ได้
ยานเกราะ V-150 ของ ตชด. โดนดักด้วยระเบิด  ดีที่ว่าคนในรถไม่มีใครเป็นอะไร  แต่รถเกราะถึงกับเพลาขาด ล้อกระจุยพุ่งลงข้างทาง

" ก็ยังดี ไม่ใช่ฮัมวี่ แบบคราวก่อน  ตูมเดียว หงายทั้งคัน"

" ไม่รู้แม่มเอาของมาจากไหนนักหนา.....วางได้วางดี  ละงานก็เข้าพวกเราตลอด" ต้อมพูดๆ บ่นๆ

" เมิงนี่ตั้งแต่เป็นพ่อ รู้สึกบ่นเก่งขึ้นนะ ฮ่า ฮ่า "   ทศหยอกเพื่อนต่อ

" เอิ้กๆ เฮ้ยกุไปนอนละ พรุ่งนี้กุจะลงไปในเมือง จะเอาไรเป่า" ต้อมหันมาถามเพื่อนรัก

"เอา.....เจ๊ร้านขายนม  ที่นมใหหญ่ๆขาวๆคนนั้นอ่ะ  แพคใส่กล่องมาให้กุด้วย"  ทศตอบกวนตีง

" กุเอาเค้ามาได้ละ เมิงเอาเค้าเป็นเหรอครับ หมวด อยู่ป่าจนลืมจิ๋มไปแล้ว ฮ่า ฮ่า"  ต้อมพูด

" ไอ้เวน"  ทศปากระป๋องเบียร์ใส่   ต้อมหลบทัน

" เออ กุไปละ  พรุ่งนี้เมิงว่างงานนิ" ต้อมพูดแล้วก็เดินไป

" ว่างๆบ้างก็ดี....." ทศพึมพำเบาๆ เพราะรู้ดีว่า ทุกครั้งที่เค้ามีงาน  มันจะต้องมีความสูญเสียของฝ่ายเรามาก่อนเสมอ....

----------- สายๆของวันถัดมา -----------

" หมวดทศครับ  ผู้กองให้มาเชิญครับ"  พลทหารมาตามทศที่หน้าเบิร์ม

" อืม เด๊ยวผมตามไป"  ทศเก็บซองกระสุนเจ้า M-24 คู่ใจที่เพิ่ง บรรจุกระสุนรุ่นใหม่ลงไป

" หมวดทศ .....ผมมีเรื่องต้องบอกให้คุณทราบ" ....." หมวดต้อม โดนลูกหลงจากการวางระเบิดเส้นทางคุ้มครองครูเมื่อเช้า  แต่ไม่เป็นไรมาก ตอนนี้อยู่ โรงพยาบาลในจังหวัด"

"ครับผม.... เค้าโอเคใช่ไหมผู้กอง"  ทศยังคงนิ่งเฉย แต่ในใจแทบจะพุ่งไปโรงพยาบาลในตัวเมือง

" อืม หมวดต้อมไม่เป็นอะไร  โดนสะเก็ดๆเข้าไป แต่เห็นว่าลึกพอสมควร" ..." ผมให้คุณเข้าไปเยี่ยมเค้าได้วันนี้ถ้าคุณต้องการ"  เสียงผู้กองบอกอย่างไม่ต้องรอให้ทศถาม

"ครับผม"  หมวดทศตอบ  ใจร้อนดั่งไฟเผา

----------- ที่โรงพยาบาล --------------

" เป็นไงมั่งครับ คุณพ่อลูกอ่อน" ทศเบาใจขึ้น เมื่อเห็นต้อมยังพูดคุยได้ตามปกติ มีรอยผ้าพันแผลหนาๆที่ ต้นขาซ้ายเท่านั้น

" อืม...นิดหน่อยว่ะ"  เสียงต้อมกังวลเล็กน้อย

"อืม ไอ้ห่า แผลแค่นี้ ทำเสียงเป็นหมาหงอย" ทศยังคงหยอกล้อเพื่อน

"ทศ....ถ้าวันไหนกุพลาด เมิงดูแลที่บ้านกุต่อด้วยนะ"  ต้อมบอกเพื่อนอย่างกังวล..

" เฮ้ย ไรวะเมิง โดนทีเดียวนี่ เพื่อนกุเปลี่ยนไปเลย  อย่ามาลาตายแถวนี้ ....
ละก็ไม่ต้องมาฝากกุ เพราะเมิงพลาดอ่ะ  กุไปด้วย ฮ่า ฮ่า" ทศยังแหย่อย่างอารมณ์ดี

ต้อมเริ่มยิ้มออก

" เออจริง...ฮ่า ฮ่า กุลืมไป  อ่อ กุยังไม่ได้บอกเจ๊ร้านนมนะ ว่าเมิงอยากเอาเค้า
พอดีกุไปไม่ถึง อิอิ"  ต้อมเริ่มร่าเริง

" อืม เดี่ยวกุไปบอกเค้าเอง  เผื่อเค้าจะให้เลย" ทั้งคู่หัวเราะพร้อมกัน


"ตอนโดนเข้านี่รู้สึกยังไงวะ" ทศถามเพื่อน

" ไม่รู้ว่ะ เมิงต้องลองโดนเอง  สนมะ..... จะได้มานอนข้างๆกุ" ต้อมตอบยิ้มๆ

" ไอ้ห่านี่กุถามจริงๆ" ทศพดเสียงจริงจัง

" ก็ไม่รู้ว่ะ  นั่งรถมาดีๆ กะลังจะจอดแม่ม ตูมเลย .... พอพวกกุลงจากรถ  ก็อีกตุมนึง..
กุก็กระเด็นไปนั่งจุ้มปุ้ก หมดสติอยู่อ่ะ  มัน เค้วงๆ สะเทือนๆ มึนๆ"

" อืม  เมิงไม่เป้นไรก็ดีละ" ทศว่า

" ทศ......กุว่านะ เดี๋ยวงานเข้าอีก"  ต้อมบอกทศ และทั้งคูก็รู้อยู่แก่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

"อืม ก็ว่ากันไป ต่าคนต่างมีหน้าที่ของตัวเองว่ะ  มันบึ้มมา พวกเราก็ยิงกลับ...
เออ มานานละ กุกลับก่อน มีไรเดี๋ยวกุมาตาม ฮ่า ฮ่า"  ทศว่า

" เออ โชคดีๆ"  ....

บันทึกจริง

คำ ว่า โชคดี......จากเพื่อนๆ สำหรับที่นี่ ผมว่ามันมีความหมายมากกว่า คำหวานๆจากผู้หญิงสวยๆ ซะอีก..... คนที่จะรอด ไม่ใช่เก่งอย่างเดียว  ต้องดวงดีด้วย.....
บังเอิญ กุยังดวงดีอยู่ และ ดวงดี ตัลลอดดด ฮ่า ฮ่า
 
2 อาทิตย์ต่อมา  ต้อมก็กลับเข้าฐาน......

"ต้อม เมิงเดินได้ละนี่หว่า  ยังงี้ก็ไปทำงานใหญ่รอบนี้กะกุได้ละดิ"  ทศเอ่ยอย่างยินดี เมื่อเห็นคู่หูกลับมา

" อืม ได้ยินผู้กองบอกคร่าวๆมาละ ว่า จะมีงานใหญ่  แผลหายดีละ
แดกเบียร์ละไม่รั่วออกมา ฮ่า ฮ่า" ต้อมกล่าวอย่างอารมณ์ดี


"อืม แต่งานรอบนี้ ถ้าพลาดนี่... กุว่า มีเสือหลายตัว เด้งกันระนาวว่ะ" ทศมีเสียงหนักใจเล็กน้อย

" ก็อย่าพลาดเด่ะ  ถ้าพลาดมา แม่ม กุไม่กล้าคิดเลย" ต้อมเองก็กังวลไม่แพ้กัน

ไม่แปลกหรอกที่ทั้งสองจะกังวล เพราะงานครั้งนี้  เป็นงานแบบปิดลับ
ถึงจะเป็นงานที่ แทบจะไม่ต้องลั่นกระสุนก็ตาม....

"เออ กุมีไรจะบอกอีกอย่าง   .. สายรายงานมาอ่ะ ว่า พวกเรามีค่าหัวด้วย ฮ่า ฮ่า" ต้อมบอกทศ

"เฮ้ย จริงอ่ะ  ทะไหร่วะ" ทศถาม

"แสนนึง"...."กุว่าพวกเราแม่มเก่งเหมือนกันนะ  ทำงานจนพวกแม่มตั้งค่าหัวอ่ะ"  ต้อมพูดขำๆ

" ฮ่า ฮ่า  งั้นเดือนไหนกุช้อต กุตัดติ่งหูเมิงไปขายละกัน เผื่อได้สัก พัน สองพัน" ทศยิ้มกวนตีน


"กุว่าตอนเมิงเอาไปขาย มันก็เอาเมิงไปทั้งตัวเลยไง ฮ่า ฮ่า"  

" เอาเหอะ กุว่านะ เตรียมตัวไว้ดีกว่า"  ทศบอก

"อืม"  ต้อมยิ้มๆละก็เดินกลับไปพักผ่อน


------------- รุ่งขึ้น หลังฟังบรรยายสรุป ทั้งสองก็กลับมาเตรียมตัวทำงาน-----------


" งานนี้ .... ยากแฮะ ....  ทำไมเค้าไม่ส่งมือเทพๆไปทำวะ"  ทศกังวลไม่น้อย
งาน แทรกซึม หาข่าว กลางพื้นที่อีกฝ่าย โดยล้ำข้ามแดนเข้าไปในประเทศเพื่อนบ้าน ถือว่า ไม่ง่ายเลย....สำหรับพวกเขาซึ่งมีประสบการรณ์ในสนามรบจริงได้ไม่นาน

"อืม" ช่างเหอะ ยังไงก็ต้องทำ  ทำใจให้สบายเหมือนเคยละทำงานดีกว่า" ต้อมกล่าวเสียงเรียบๆ

----------- เสียง ฮ. ไม่ดังนักลับหายไป คู่ซี้ทั้งสอง  แฝงตัวเข้ากับความมืด ของคืนเดือนมืดได้เป็นอย่างดี-------------

"ทศ ตามมา  เดี๋ยวกุพาเลาะแนวป่าไป โผล่ทางเข้าเลย น่าจะสัก 15 กิโล" ต้อมบอกเพื่อน

"อืม นำไปเลย แม่ม มืดชิบ" ทศก้าวตามหลังเพื่อซี้ไปติดๆ

"อืม เดี๋ยวฟ้าสางค่อยหาที่หยุดพักละกัน" ต้อมเดินนำ เพื่อน เข้าไปในป่าลึก มุ่งหน้าไป
ตามแผนที่ ภาพถ่ายทางอากาศ


ก่อนฟ้าสางไม่นาน ทั้งคู่ก็มาถึงสุดเขตแดนสยาม.....

ทั้งสองซุ่มเงียบในความมืด

" เข้าไปเลยนะ ทศ " ต้อมเอ่ยปาก

" อืม ไปเลย ค่อยไปหาที่พักเอาตอนข้ามไปแล้ว"  ทศพยักหน้า

หลังจากข้ามเขตไปได้ไม่นาน ฟ้าก็เริ่มสว่าง

" ต้อม เหลืออีกเท่าไหร่ กว่าจะถึงที่หมาย" ทศถามเพื่อนที่รับหน้าที่คนนำทาง

" 2-3 กิโล จากตรงนี้" ต้อมตอบสั้นๆ พลางอ่านแผนที่ ลากเส้น ตัด เพ่อหาทางหนีทีไล่ที่ดีที่สุดไว้ก่อน

คนอ่านแผนที่เป็นจริงๆ นอกจากว่า รู้เส้นทางเดินแล้ว  ยังต้องสามารถ อ่านความสูงของพื้นที่
เพื่อหาทางหนีทีไล่ได้อีกด้วย

ทั้งสอง หยุดพัก อย่างเงียบเชียบ  ครั้งแรก ในดินแดนที่ไม่ใช่แผ่นดินเกิดของตนเอง......
ตลอดวัน ทั้ง 2 ซุ่มเงียบอยู่ในป่ารก ทึบ  แฝงตัวเข้ากับธรรมชาติ
ราวกับก้อนหินก้อนนึงเท่านั้น เพราะบริเวณนี้คือเขตรอยต่อ ในเขตประเทศเพื่อนบ้าน
ทั้งสองไม่รู้ว่า จะเจอะไรเข้าบ้าง  ทุกย่างก้าวต้องเต็มไปด้วยความระมัดระวัง

แนว กับระเบิดที่ได้มาจากสายข่าว ทำให้ทั้ง สองมั่นใจในการเดินทางมากขึ้น ว่าจะหลีกเลี่ยงแนวกับระเบิดอย่างไร  ทุกสิ่งที่ครู ทั้งสอน ทั้งด่า มา ถูกนำมาใช้ ผสมกับ สัญชาติญาณอย่างเต็มที่...


พอสิ้นแสงอาทิตย์  ความมืดเข้าปกคลุมอย่างรวดเร็ว เพราะในพื้นที่นี้คือป่าทึบ

ทั้งสอง ก็เริ่มขยับเดินทางอีกครั้ง


" ไปกัน ทศ ใกล้มากแล้ว" ต้อมมองแผนที่ในมือ พร้อมบอกเพื่อนรัก ซึ่งทศก็ก้าวท้าวตามมาติดๆ

เดินทางต่อมาไม่นาน   ทั้ง สองก็เจอจุดหมายของพวกเขาในภารกิจนี้

ค่ายดัดแปลง ขนาดใหญ่ ที่ถูกพรางด้วยตาข่าย หลีกเลี่ยงการตรวจการณ์ทางอากาศ
(ค่ายที่ ประเทศเพื่อนบ้านบอกว่า ไม่มี๊ ไม่มีนั่นัแหละ)

"ต้อม เริ่มงานเลย" เสียงทศกระซิบบอกเพื่อน

ทั้ง 2 แทรกซึมเข้าเกาะบริเวณขอบฐานอย่างเงียบเชียบ และยากยิ่งที่จะมีผู้ใดสังเกตุเห็น

กล้องอินฟาเรด ประสิทธิภาพสูง  เมดอิน ยูเอสเอ ถูกนำมาติดกับหมวกดัดแปลงของต้อม
โดยมีสายสวิทซ์ลากมาที่มือ.... ภาพที่ได้จากกล้องนี้ จะชัดเจนราวกับกลางวัน
เพียงแต่ภาพจะเป็นภาพขาวดำ ( กล้องชนิดนี้ ประสิทธิภาพมากกว่า NVG มากมายนัก)

ภาพแล้วภาพเล่า ถูกบันทึกลงยัง HDD. ของกล้องตัวนั้น

" แม่ม อยู่กันเพียบ  กุว่านะ ทอ. มาทิ้ง นาปาล์มสักลูกนะ  สงบเลย" ต้อม กระซิบบอกทศ

"ถ้ามันง่ายยังงั้น ป่านนี้ กุกะเมิง นอนอยู่บ้านแล้ว  เพราะงี้มันถึงไม่จบซะที" ทศ ตอบเพื่อน
แต่สายตากวาดไปรอบๆ เพราะเค้าต้องทำหน้าที่คุ้มกันเพื่อนรักไปด้วย

" อืม กุกะเมิงก็ต้องมาทำงาน มีค่าหัวคนละแสนต่อไป อิอิ"  ต้อมหัวเราะเบาๆ

" อืม ยังจำมีอารมณ์ขำนะครับเมิง"ทศ ยังคงระแวดระวังความเคลื่อนไหว รอบๆตัว

พลันสายตาก็มองไปเห็น ชายถือปืนยาว m-16 เดินมา 2 คน มาใกล้บริเวณที่พวกเขาอยู่

..... นิ้ว สะกิด บ่าขวาของเพื่อนรักเบาๆ  ต้อมมองตามไปทางขวา ก็เห็นสิ่งเดียวกัน

..........................


..................




.....







....














...









ทั้งสอง นิ่งเงียบ ไม่ไหวติงราวพุ่มไม้ หากแต่ในพุ่มไม้นั้น ถือ MP-5SD6 ทั้ง 2 พุ่ม - -

ชายแปลกหน้า ผิวคล้ำ คิ้วเข้ม ตามแบบชายชาวใต้ เดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ.....



เป็นการวัดใจ ระหว่าง ชายทั้ง สี่คน  สองคน เดินลาดตระเวณราบฐาน ตามปกติ
ไม่ได้รับรู้ถึง การมาของ นักรบไทย 2 คน

อีก 2 คน ตัดสินใจที่จะอยู่นิ่งเงียบ ไม่ไหวติง  กระชับ ปืนในมือ พร้อมจะลั่นกระสุนทันที ถ้าถูกตรวจพบ

.......



....


..

















































.







พลลาดตระเวณ เดินผ่าน ทศและต้อมไประยะไม่เกิน 5-6 เมตรแน่นนอน
 
(อย่าทะลึ่งไป ยูเดธเชียวนะครับ พี่น้อง)    


.....ทั้ง ทศและต้อม แทบจะกลั้นหายใจ........

....................

..............


.......
.














.




.....






.




พลลาดตระเวณเดินผ่านไป ไม่พบถึงสิ่งผิดปกติ  พูดคุยกันด้วยภาษา ที่ทั้งทศและต้อมเองก็ฟังไม่ออก ....

พอพลลาดตระเวณ เดินห่างออกไป  ทั้งทศและต้อมก็ทำงานของเขาอีกครั้ง

คราวนี้ ต้อม มาร์คจุดต่างๆและเส้นทาง ที่เดินทางจาก จุดปล่อยตัว จน มาถึงที่ตั้งค่าย

สภาพภูมิประเทศ  ที่ตั้งหน่วยป้องกัน    วงรอบของการลาดตระเวณ

ทุกอย่างถูกบันทึกลงไปอย่างละเอียด


............


 รวมแล้ว คือเวลากว่า 36 ชม. ที่ทั้งสอง ซุ่ม เกาะขอบฐาน สังเกตุความเคลื่อนไหวต่างๆ
ในค่ายดัดแปลงแห่งนั้น โดยไม่ได้ถูกค้นพบ


ตกค่ำของอีกวัน จึงค่อยๆ คืบคลานออกมาจากบริเวณขอบฐาน


ข้ามกลับเข้าดินแดนสยาม  บ้านเกิดของพวกเขาอีกครั้ง


ครั้งนี้ คือข่าวสารสำคัญที่สุด  ภาพของระดับตัวผู้นำ นับสิบภาพ  ภาพที่ตั้งฐาน  การดัดแปลง

รายละเอียดทุกอย่างถูกเก็บบันทึก และ ลงรายละเอียดทุกอย่าง

ที่สำคัญที่สุดคือ แผนที่ ในการเข้าถึง ค่ายแห่งนั้น...



ข้อความจริงในบันทึก.....

งานนี้ เสี่ยงมาก ดีใจที่กุรอดกลับมา เขียนสมุดเล่มนี้ได้อีก

ไม่โกรธนะ ที่พวกเขา ต่อสู้ เพื่อแบ่งแยกดินแดนที่เคยเป็นของเขาเมื่อในอดีต

แต่ พวกเมิงก็ต้องไม่โกรธเหมือนกัน ที่พวกกุ ต้องยิงพวกเมิงทิ้ง เพราะปัจจุบัน แผ่นดินนี้มันของพวกกุ ....

โกรธอย่างเดียวคือ คนไทย แท้ๆ ที่ออกทีวี ปากบอกว่ารักชาติ ทำเพื่อชาติ ยอมตายเพื่อชาติ
มันกลับสนับสนุนคนกลุ่มนี้ ให้ก่อความวุ่นวาย เพื่อจะได้มาซึ่งอำนาจทางการเมือง

เอาชีวิตทหารแบบพวกกุเข้ามาใช้ยังกับเบี้ยบนกระดานหมากรุก

หวังว่าวันนึงมันคงจะดีขึ้น...... เพราะ กุก็ไม่อยากยิงใครเหมือนกัน




เหลือที่ลงได้อีกไม่เยอะครับ  

ปล. หลายอย่างผมเอาข้อมูลจริงเป๊ะๆมาใช้ไม่ได้ค๊าบบ

เพราะอย่างที่บอกไปในตอนต้นแล้วว่า  ไม่รู้ว่าใครอ่านบ้าง....และหลายๆคนก็ไม่ใช่ทหาร

ถ้าใช้ศัพท์ทางทหารทั้งหมด คนอ่านหลายๆคนจะงง และต้องมานั่งตอบคำถามย้อนหลังง๊าบบ

ปล.2  เรื่องราวนี้ถูกดัดแปลงมาแล้วครับ  จริงมั่ง โม้มั่งผสมๆไปครับ  แต่มีพื้นฐานบนภารกิจจริงทุกตอนครับ  อย่าคำนึงถึงความสมจริงมากครับ  อ่านเอา สนุกจ๊า



วัน เวลาผ่านไป..... 2 หนุ่มจากกองทัพไทยก็ได้รับประสบการณ์เพิ่มพูนขึ้น จากทุกงานที่ออกไปทำ การทำงานของพวกเขา เป็นลักษณะของ ชุดตอบโต้ ซึ่งจะมีการปฏิบัติงานทุกครั้งที่เกิด
เหตุการณ์รุนแรงขึ้น กับราษฎร หรือ เจ้าหน้าที่ไทย

แต่วันนี้ผิดออกไป ......  ผู้กองเรียกเข้าฟังบรรยายสรุปภารกิจในวันนี้
ซึ่งสายข่าวในพื้นที่ แจ้งว่า จะมีการเข้ามาฝังตัว ของชุดโจมตี ที่ฝึกมาอย่างดีของ R....

เพื่อเตรียมโจมตี





ความคิดเห็นที่ 1


ชุดคุ้มครองครู

ซึ่ง ปกติข่าวแบบนี้แทบจะไม่หลุดรอดออกมา แต่ครั้งนี้ ถือว่าโชคเข้าข้างฝ่ายไทยมาก เนื่องจาก รู้แผนการข้างต้น  จึงวางแผนย้อนรอย โดยการ สุ่มวางกับระเบิด ในพื้นที่ที่ ฝ่ายตรงข้ามจะเข้าวางตัว รวมไปถึง ชุดจู่โจม ตชด.- ทหาร ที่เตรียมสวนกลับอย่างเต็มที่

ข้างถนน ซึ่งเป็นทางลงจากเขา  เป็นช่วงโค้งของถนน ซึ่งเป็นจุดเหมาะมากที่จะทำการซู่มโจมตี ผู้ที่เคลื่อนที่ด้วยยานพาหนะบนนถนน ด้านล่าง

บัดนี้ พื้นที่นั้น เต็มไปด้วยกับระเบิดชนิดต่างๆ ที่วางไว้ตอนรับผู้ทีอาจหาญเข้ามาซุ่ม
 นอกจากนั้นไกลออกไป เกือบ 200 เมตร ยังมีชุดซุ่มยิง ของทั้ง ทหาร และ ตชด. อีก 3-4 ชุด
ฝังตัวอยู่ รอบรัศมี

เวลาไม่นานนัก  ชุดสังเกตุการณ์ก็สังเกตุเห็นความเคลื่อนไหว ที่ผิดปกติ

" จิ้ดริ้ด เรียกทุกทีม... งวงแดง กำลังเข้าพื้นที่  ยืนยันเป้าหมาย งวงแดง" .....เสียงวิทยุ
จากชุดสังเกตุการณ์แจ้งให้ทุกชุดซู่มยิง เตรียมพร้อม

"รับทราบ ก้านกล้วย มาร์ค 150"  ต้อมตอบไปทางวิทยุ เพื่อยืนยันตำแหน่ง และวิถีที่จะยิง

" รับทราบ ชบาแก้ว มาร์ค 070 " เสียงขานตำแหน่ง เพื่อ มาร์คเป้า จากชุดอื่น ก็ดังตามกันมา จนครบ ....


(จริงๆ จะ เขียนให้ครบ  ตามจุดครับ แต่ จขกท. จำชื่อตัวละครเรื่องนี้ได้ไม่หมด ฮ่า ฮ่า)

" รับทราบ ทุกชุด รอสัญญาณจาก จิ้ดริ้ด  ยืนยัน"  เสียงจากชุดสังเกหตุการณ์แจ้งไปยังทุกชุด

" ยืนยัน รับทราบ รอสัญญาณ"  ต้อม ตบบ่าทศให้เตรียมพร้อม

ทศปรับทิศการยิงไปยังเป้าหมาย ชายร่างสูง ถือปืน อาก้า...

ตูม!!!!!!!!!! เสียงเคลมอร์ลูกแรก ดังสนั่น  ชุดสังเกตุการณ์ให้สัญญาณแล้ว

ทศ และต้อม เห็นกลุ่มคน 2 -3 คน กระเด็นออกจากบริเวณที่มีเสียงระเบิด

"ปัง!!"  เสียง M-24 ของทศคำราม และส่งกระสุนร้อนๆ  เข้าสู่หัวของเป้าหมายอย่างแม่นยำ

"ปัง!!" เสียงปืนไม่ทราบชนิด จาก  อีกทิศทางนึง ดังขึ้น  ก็มีชายอีกคนในกลุ่มเป้าหมาย ล้มลง


เสียงยิงต่อสู้อย่างสะเปะสะปะ ดัง ออกมาจากบริเวณนั้น พวกมันคงตกใจไม่น้อยเหมือนกัน
ที่เที่ยวนี้ ดันโดนก่อน

" ปัง!!" ทศลั้นกระสุนอีกนัด  ก็หมายถึงอีก 1 ชีวิตของพวกมันที่ต้องหลุดลอยออกไป

" ทศ หลังก้อนหิน ระยะ 210  เผื่อขวา  "  ต้อมแจ้งเป้าหมายต่อไป


" ปัง!!!"  เสียงกระสุนกระทบหิน แต่......กระสุนนัดนี้ เจาะก้อนหินได้ราวกับกระดาษ
แน่นอน กระสุนที่บรรจุ ลงในปืนซุ่มยิง ของทุกชุดที่เข้าโจมตีวันนี้  เป็นกระสุนแบบ "พิเศษ"

อีกฝ่ายเห็นท่าไม่ดี เริ่มเสียขบวน แตกกระเจิง

ตูม!!!!!  เสียง เคลย์มอร์ ระเบิด ปิดทางหนีของฝ่ายตรงข้ามจากชุด ตรวจการณ์ ดังสนั่นอีกครั้ง

ปิดเส้นทางหนีโดยสิ้นเชิง.....

" เป้าหมาย 010 สีฟ้า" เสียงต้อมขานเป้า

"ปัง!!" ทศพลาด  กระสุนพุ่งทะลุต้นไม้อย่างง่ายดาย แต่เนื่องจากเป้าหมายเคลื่อนที่
ความเร็วกระสุนลดลง ทำให้กระสุนพลาดไป

แต่.....บัดนี้ทศไม่ใช่นักซุ่มยิงมือใหม่อีกแล้ว   กระสุนนัดที่สอง ถูกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
และไม่ต้องรอเสียงของ ต้อม

"ปัง!!" นัดนี้ไม่พลาด   เป้าหมายล้มหายไปในกอไม้....

อีก 3 คนในกลุ่มเป้าหมาย วางปืน ยกมือขึ้น........

" มาร์คเป้าหมาย คนขวา เทา 147" เสียงต้อม มาร์คเป้า

"ปัง!!"  ทศไร้ความลังเล ลั่นกระสุนใส่เป้าหมายที่ยกมือทันที....

"ปัง!!" ....."ปัง!!"  เสียงกระสุนจากทิศทางอื่นอีก 2 นัด ดังมาติดๆกัน

ทั้ง 3 ที่ชูมือ ร่วงลงไปในทันที .......

แน่นอน หลายคนมองว่าโหดร้าย .....  แต่นี่คือ  สงคราม.... ถึงแม้จะวาดภาพสวยงามเพียงใด
หรือใช้คำพูดแบบไหน มันก้คือการ สังหาร ผลาญชีวิตฝ่ายตรงข้ามให้มากที่สุด

เค้ายกมือยอมแพ้.... ในวันนี้ .... วันหน้า ถ้าเค้าหลุดออกไปจากคุก(ด้วยสารพัดวิธี)
เค้าก็จะกลับมา ทำร้ายประชาชนและเจ้าหน้าที่ของเราอีกแน่นอน....
เพราะคนเหล่านี้ ถูกปลูกฝังมา ว่า ฆ่าเจ้าหน้าที่รัฐได้ จะได้ไปอยู่กับพระจ้าบ้าบอของมัน
(พระเจ้าอะไร ชอบให้สังหาร และฆ่าคนอื่น ไอ้พวกเพ้อ)

หลังจบปฏิบัติการ ทุกชุดที่เข้าจู่โจม ไม่มีคำพูดอะไรเกี่ยวกับภารกิจ.... มีแต่การมองตากันเท่านั้น

"ทศ เมิงคิดไรมากเป่าวะ" ต้อมถามขึ้น " พวกแม่มยกมือแล้ว แต่กุก็ยังต้องขานเป้า"

" ไม่หรอก เมิงขานมา กุก็ยิง  กุไม่สนหรอกว่ามันจะยอมแพ้ไหม  กุรู้แต่ว่าถ้ากุไม่ทำ
วันนึง มันก็อาจจะย้อนมาทำพวกเราแทนก็ได้" ทศตอบเสียงเรียบๆ

" ป่ะ พักผ่อนดีกว่า"  ทศบอกต้อม  ดูท่าทางต้อมจะกังวลนิดหน่อย เป็นอาการเดียวกับที่ทศ
เคยเป้นเมื่อตอนยิงเป้าหมายที่เป้นคนจริงๆครั้งแรก

" อืม" ต้อมตอบสั้นๆ  ถอนใจ 1 เฮือกใหญ่ๆ แล้วก็ไปพักผ่อน

-------  ข้อความจากบันทึกจริง ---------

รู้สึกผิดไหม ....  รู้นะ  ก็ยังมีจิตสำนึกอยู่ว่าอีกฝ่ายยอมแพ้แล้ว

แต่ภาพที่พวกมันวางระเบิดพวกเรา  ภาพที่มันฆ่าตัดคอพระสงฆ์

ภาพที่มัน ปาดคอ รุ่นพี่นาวิก หลังจากที่พวกมันกระทืบจนหนำใจ

ภาพ เหล่านี้ มันแว้บขึ้นมา  กุก็ไม่สนแล้วว่ะ  ว่าพวกเมิงจะยอมแพ้ไหม

ในเมื่อพวกเมิงไม่เคยมีคำว่าเมตตา  พวกเมิงก็ไม่ควรจะได้รับกลับไปเหมือนกัน ...

ชีวิตพวกเมิง อย่ที่ปลายนิ้วกุ  กุตัดสินให้ พวกเมิงไม่ทรมาณ......

ใจจริงกุอยากยิงตัดเหนือขั้วปอดให้พวกเมิงเจ็บปวดก่อนด้วยซ้ำ และให้เลือดออกจนตาย

แต่กุสงสาร ยังไงก็ต้องตาย กุส่งให้แบบไม่ทรมาณก็แล้วกัน....

วันนึง ถ้ากุพลาดมาบ้าง ก็อย่าทรมาณกุก็แล้วกัน....

แต่กุพลาดยาก ฮ่า ฮ่า  ยังอยู่สอยพวกเมิงอีกนาน...


วันนี้ พวกเขาได้รับภารกิจที่เรียกได้ว่า รับผิดชอบสูงสุด มีความหมายที่สุด

ภารกิจ ตรวจสอบและคุ้มครองเส้นทางเสด็จ (ส่วนพระองค์ไหน ผมไม่ลงละกันนะครับ)

สองนายทหารหนุ่ม เดินอย่างระมัดระวังตามพื้นที่ที่ถูกกำหนดให้รับผิดชอบดูแล

" ต้อม เมิงว่ามันจะมาไหม" ทศถามเพื่อนเสียงเรียบๆ

" ใจกุนะ กุว่าไม่.... จะดีจะชั่วยังไง มันก็คนไทย มันคนไม่ทำอะไรโง่ๆแบบนั้น" ต้อมตอบ
" ถ้ามันมาวุ่นวาย วันนี้ มันจะถูกต่อต้านจากคนในพื้นที่ด้วย มันไม่ทำหรอก" ต้อมว่าต่อ

" อืม อุตส่าห์ล้างสมองมาตั้งเยอะ มันมาทำไรวันนี ก็จบ" ทศเห็นด้วย

" เมื่อคืนกุนอนไม่หลับเลยว่ะ ... เมิงล่ะ" ต้อมคุยต่อ

" กุก็นอนไม่หลับ  ตื่นเต้นว่ะ "  ทศเองก็บอกความจริงไป ว่าเขาเองก็ตื่นเต้นไม่น้อยกับภารกิจ พิเศษ ที่สำคัญที่สุดในชีวิต วันนี้

ทศ กับต้อม เดินทางมาถึงจุดที่เขาต้องเฝ้าระวัง  มันเป็นเนินหัวโค้ง ทั่วไป แต่จุดนี้
ทั้งต้อมและทศรู้ดีว่า คือจุดที่ได้เปรียบที่สุด สามารถมองเห็นได้ไกลเกือบๆ 1 กิโลเมตร
หากเกิดเหตุการณ์ไม่ดีขึ้น พวกเขาสามารถทำงานได้จากระยะไกลลิบ....

แม้รู้อยู่แก่ใจว่า งานนี้ ไม่น่าจะมีเหตุการณ์อะไร...แต่ทั้งสองก็ไม่เคยประมาท

ทศนำ M-24 ซึ่งบรรจกระสุนไว้เต็ม วางตรงหัวเนินที่ได้เปรียบที่สุด เพราะมองลงไปยังโค้งด้านล่างแล้ว สามารถยิงคลุมได้เกือบๆ 180 องศา

ต้อมเอา ก็วางเจ้า M16 A2 ไว้ใกล้ๆกัน

อีกนานนับ ชม. กว่า ขบวนเสด็จจะมาถึง


ทั้งสอง รอด้วยใจระทึก......ไม่ใช่กลัวเหตุการณ์ไม่ดี
แต่หากทั้งสอง ตื่นเต้นที่ได้ทำภารกิจ ถวายความปลอดภัย  รักษาเส้นทางเสด็จ

ไม่ใช่เพียงแต่พวกเขาสองคนเท่านั้น  ทหาร จากฐานของพวกเขา เกือบทั้งฐาน ก็อยู่บริเวณใกล้ๆ ทุกคน ย่อมรู้สึกอย่างเดียวกัน

ปลาบปลื้มเป้นล้นพ้น ที่แม้จะอยู่ห่างไกล และ อยู่ในพื้นที่อันตราย ก็ยังมี
น้ำพระทัย เสด็จมาเป็น ขวัญและกำลังใจให้คนในพื้นที่


เสียง ฮ. ดังแว่วมาแต่ไกล.......

UH-60 ใช้ความเร็วไม่มากนัก บินเอื่อยๆ มาตามโค้งของถนน

" ฮ. ตั้งแพง  มะไหร่มันจะใส่มินิกันวะ"  ต้อมมองเห็นจากในกล้องส่องทางไกล พูดกับทศเบาๆ

"ให้ เค้าตัด พสร. เมิงไปซื้อดิ บอกไปเลย" ทศเย้า

" ถ้ามี มินิกันนะเมิงเอ้ย ไอ้พวกเวรนั้น โผล่มาทีนึง กราดรวดเดียว แม่ม ราบ" ต้อมพูดต่อ

" เอานน่า ไอ้ที่อยู่ข้างๆนั่นก็ M-60 นิ ยิงโดนเข้าก้ตายหร่าเหมือนกัน"  ทศมองละขำๆ

(จขกท. แอบประชดเองครับ  ไม่รู้ตอนนี้เปลี่ยนเป็น ปืนอื่นหรือยัง ตอนที่เคยนั่งล่าสุดมันยังเป็น M-60 อยู่  ท่านผู้รู้บอกทีครับ)

แบล้คฮอว์ค บินผ่าน ทศกับต้อมไปช้าๆ

" เดี๋ยวก็คงมาถึง"  ทศบอก  ต้อมก็หยักหน้ายิ้มๆ


-----เวลาผ่านไปประมาณ 10 นาที-----

"มาแล้ว" ต้อมบอกทศ  ขบวนเสด็จ ถูกนำหน้ามาด้วย รถฮัมวี่ ของ ทบ.
ตามด้วยรถในขบวนอีกหลายคัน  มี แบล้คฮอว์ค ประกบ ทั้ง 2 ฝั่ง

โดยไมได้นัดหมาย ทั้งทศและต้อม ลุกขึ้น ทำความเคารพ.....

ทั้ง สอง รู้สึกยินดีเป็นยิ่งนัก แม้ทั้งสองพระองค์จะไม่ทรงทราบว่า มีนายทหารหนุ่มทั้ง 2 อยู่ตรงนั้น   และมี ทหารไทยอีกนับร้อยชีวิต อยู่ ทุกบริเวณที่ผ่านมา

เพียงแค่รับรู้ว่า พระองค์ทรงห่วง ราษฎรของท่าน ทุกคน  แค่นี้ ทุกคนก็พร้อมที่จะปกป้องพระองค์ท่านด้วยชีวิต หากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น

ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี..................



" วันนี้ กุภูมิใจจังว่ะ"  ทศพูดสั้นๆ เพราะๆม่รู้จะ บรรยายเป็นความรู้สึกยังไง

" อืม" ต้อมอมยิ้ม  วันนี้ทั้งสอง รู้สึกอย่างไรคงไม่ต้องบรรยาย

.......................

ข้อความจริง ....


ดีใจ ที่ได้เกิดเป็นคนไทย  ดีใจที่ได้ทำภารกิจวันนี้

ดีใจ ที่เกิดมาภายใต้พระบรมโพธิสมภาร ....(ผมเขียนถูกเปล่านี่  น้องมานเขียนมางี้) .....

ดีใจ ที่ได้รับหน้าที่ ที่สำคัญที่สุด ที่ประชาชนไทยทุกคนอยากทำ....


ปลายปี 2548 .....ความรุนแรง ทวีมากขึ้นเรื่อยๆในพื้นที่

เป้าหมายของผู้ก่อความไม่สงบ พุ่งเป้าไปที่ประชาชน และสถานที่ราชการที่ไม่มีอาวุธ

รวมไปถึงพระสงฆ์ (มันเอาศาสนามาอ้าง)  ไม่เว้นแม้แต่คนไทยเชื้อสายมุสลิม ที่อยู่ในพื้นที่
แต่ไม่เข้าร่วมอุดมการณ์ (เลวๆของพวกมัน)

เพราะฉะนั้น นี่ไม่ใช่เรื่องของศาสนาแน่นอน กลุ่มคนเหล่านั้นเอามาเป็นข้ออ้างในการ
ดึงคนเข้าร่วมเพียงเท่านั้น...

แน่นอน 2 นายทหารหนุ่ม เช่นทศและต้อม ก็ต้องมีงานมากขึ้นเป็นเงาตามตัว

งานของพวกเขา ไม่ใช่แค่การตอบโต้อีกต่อไป แต่เป็นงานเชิงรุกไปด้วย...

ไม่ใช่เป็นการรุกด้วยอาวุธเท่านั้น...แต่เป็นการรุกเข้าหามวลชน เพื่อดึงกลับให้กลับ
มาอยู่ฝ่ายเราด้วย

และงานคุ้มครองสถานที่ราชการต่างๆ.....ซึ่งช่วงหลัง  มีข่าวเล็ดรอดออกมาบ่อยๆ
ว่า ผู้ก่อความไม่สงบจะเข้าตีที่ไหนบ้าง  ซึ่งส่วนมาก ระยะหลัง  ถ้าไม่ใช่การระเบิดแบบเฉียบพลัน  ทหาร-ตำรวจ จะวางกำลังป้องกันได้เกือบทุกครั้ง นั่นแสดงว่า แผนเข้าหามวลชนของกองทัพไทย ได้ผล  รักษาชีวิต ละผลประโยชน์ของชาติได้เป็นจำนวนมาก

-------- กลางดึก ช่วงปลายพฤศจิกายน 2548 -------

ทศ และต้อม  ได้รับมอบหมายให้คุ้มกันโรงไฟฟ้า แห่งหนึ่ง ซึ่งมีข่าวแจ้งมาว่า จะมีการลักลอบเข้ามาวางระเบิด เพื่อตัดไฟฟ้าในเมือง และเตรียมก่อเหตุ...ทั้ง 2 และ เพื่อนทหารอีก 3-4 ชุด ได้วางกำลังคุ้มกันโดยรอบ  และแน่นอน  อย่างเงียบเชียบ

ด้านนอก มีเพียง ทหารใส่ชุดพนักงานการไฟฟ้า 2-3 คน ทำทีเดินตรวจตราปกติ


แต่รอบๆด้านจากทุกมุม  มีทั้งพลซุ่มยิง และ ชุดจู่โจม ซุ่มรออยู่


" เมื่อไหร่มันจะมาวะ  .... หรือว่าข่าวมันมั่ว... 2 วันแล้วนะเมิง" ทศเริ่มหงุดหงิดเล็กน้อย
เพราะทั้งเขาและต้อม มารอต้อนรับพวกนี้เป็นเวลาเกินกว่า 48 ชม. แล้ว

" ไม่รู้ว่ะ กุหล่อเกินกว่าจะไปเป็นพวกโน้น สืบข่าวมาบอกเมิงได้ ฮ่า ฮ่า" ต้อมหัวเราะ
" แต่กุว่า อีกไม่นานหรอก...ข่าวนี้เค้ายืนยันมานี่หว่า" ต้อมว่าต่อ ตบบ่าเพื่อนเบาๆ

"อืม..แต่ลึกๆมันไม่มาก็ดี ไม่ต้องมีใครเสี่ยง ไม่ต้องมีใครเจ็บ "  ทศพูดต่อ

"อืมม แหม หมวด  .. ใจดีนะครับเมิง หมู่นี้อ่ะ....." ต้อมแซวเพื่อน  รูปใบเล็กๆก็ร่วงลงมาจากหมวกของต้อม

"เฮ้ย ของเมิง" ทศดูรูปนั้นแว้บเดียว ละส่งคืนให้เพื่อน "ลูกเมิงน่ารักดีนี่หว่า  เรียกเมิงได้ยัง" ทศถาม

" เจอครั้งสุดท้ายยังว่ะกุเพิ่งเห็นหน้าลูก 2 หนเอง " ต้อมพูดพลางยิ้มเล็กๆ

"อืมละเมิงจะกลับบ้านอีก เดือนหน้านี่หว่า" ทศถาม

"อืม  ถ้ากุยังอยู่นะ ฮ่า ฮ่า" ต้อมพูดเรื่องความตายราวกับมันง่ายดายเหลือเกิน

" อืม เมิงอ่ะไม่เป็นไรหรอก  เพราะกุไม่อยากให้หลานกุเป็นกำพร้า .... " ทศพูดยิ้มๆ

"อืม  ยิงให้แม่นๆละกัน อิอิ" ต้อมหยอกเพื่อนต่อ

..... "ฐานเรียก ช้างป่า1  เสียงวิทยุที่หูต้อมดังขึ้น

"ช้างป่า 1 ทราบ  ว่าไป"

" ให้สังเกตุความเคลื่อนไหว ทางตะวันตกของคุณ....ฐานจับความเคลื่อนไหวได้ แต่ไม่ชัดเจน
จุดของช้างป่า 1 อยู่ใกล้กว่า..."

"ทราบ..." ต้อมตอบสั้นๆ  หยิบกล้องส่องกลางคืน มองไปยังทิศทางทีได้รับแจ้ง

"เห็นไรไหม" ทศถาม พร้อมกับหันปากกระบอกปืนไปตามทิศที่ต้อมมอง

" ไม่เห็นว่ะ....เห็นแต่พุ่มไม้ ....." ต้อมยังคงเฝ้ามองต่อไป ....

....


..


.















" พุ่มไม้มันขยับได้ว่ะ........ทศ เรามีแขก"  ต้อมตอบพร้อมกดเสียงเรียกทางวิทยุ

" จากช้างป่า1 เรีกยฐาน  ยืนยันได้ไหมว่า ไม่มีใครอยู่บริเวณนั้น" ต้อมถามเพื่อยืนยันอีกครั้ง

" จากฐาน ยืนยัน ไม่มีฝ่ายเราในบริเวณนั้น" เสียงวิทยุ ยืนยันจากฐาน


"พบความเคลื่อนไหว ผิดปกติ ทางตะวันตก แต่ยังยืนยันไมได้ว่าเป็นบุคคล....
ขอพลุ ส่องสว่าง เพื่อยืนยัน"  ต้อมร้องขอพลุส่องสว่างขนาด 1 ล้านแรงเทียนทันที


" รับทราบ.."  หลังเสียงตอบจากฐานอึดใจเดียว

"ปุ้ง" ..... เสียงพลุ ส่องสว่าง ยิงขึ้นฟ้า  ส่งแสงสว่างราวกับกลางวันไปทั่วบริเวณแนวป่า

.....พุ่มไม้นั้น ไม่มีการเคลื่อนไหว....... ต้อมจ้องตาไม่กระพริบ....

ปัง!!!  เสียงปืนไม่ทราบชนิดจากแนวป่ากระสุน พุ่งเข้าดับไฟสปอร์ตไลท์ดวงโต ที่ติดไว้บนเสาไฟฟ้าทันที

"มาแล้ว" ต้อมบอกทศ ...

"อืม"  ทศตอบสั้นๆ เตรียมพร้อมทันที


"ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" เสียง M-60 ชุดสั้นๆ จากฐานสังเกตุการณ์ยิงไปยังบริเวณที่คิดว่าเป็นต้นตอของกระสุน

" ปังๆๆๆๆๆๆ"  เสียงปืนเล็กยาวแหลมเล็กที่คุ้นหูดังสวนมาทันที  ไฟจากปากกระบอกเป็นประกายแว้บๆในแนวป่า กระสุนจับเป้าที่แนวบังเกอร์ ของฐานสังเกตการณ์


" ด้านหน้า ระยะ 130 " ต้อมขานเป้า

" ปัง!!"  ทศลั่นกระสุนทันที  ชายคนที่วิ่งจากแนวป่าเข้าหารั้วโรงไฟฟ้า ร่วงผล๊อยไปในทันที

"ปังๆๆๆๆ"  เสียงปืนเล็กยาว ดังถี่ยิบ ด้านหลังชายที่ร่วงลงไป ส่งกระสุนนับไม่ถัวนมายังเนินใกล้ๆที่ ทศกับต้อมอยู่

"ชิบหายแล้ว"  ทศรีบหลบเข้าหลังเนินดิน กระสุนกระทบเนินดินจนพื้นสะเทือน


" มันเห็นได้ไงวะ" ทศสะกิดต้อม ....เอามือไปจับแขน......

"ไอ้ต้อม...ไอ้เชี่ยต้อม...." ทศรู้สึกได้ถึงยางเหนียวๆ ข้นๆ ที่ไหลลงมาอาบแขนเพื่อนรัก

ทศลากต้อมลงไปทางด้านหลังเนินดิน  เสียงกระสุนกระทบ ดังจนหูอื้อ

" ไอ้ต้อม  ตอบกุ อย่าเสือกเงียบ" ...." เมิงจบเตรียมรุ่นไหน  ทำไรบัวๆไว้บ้าง"....ทศตบหน้าต้อม  พร้อมกับโยนเจ้า M-24 ซุกไปในพงหญ้า และหยิบ M-16A2 ของต้อมมาถือไว้แทน

ทศโยนระเบิดมือออกไป 2 ลูก เพื่อให้อีกฝ่ายรู้ว่า เขายังมีฤทธิ์อยู่ อย่าได้หวังเข้ามาทำอะไรได้ง่ายๆ

ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  เสียงยิงประสานจาก M-60 ถี่ยิบ สกัด ผู้ที่เคลื่อนเข้าหา สองทหารไทยอย่างดุร้าย.... ทำให้คนกลุ่มนั้นถึงกับร่วงไป 2-3 คน ที่เหลือถอยกลับเข้าแนวป่า


ทศ วางเพื่อนรักไว้ด้านหลังเนินด้านล่าง

" ช้างป่า 1 ถึงฐาน มีคนเจ็บ 1 คน ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้" ทศรายงานผ่านทางวิทยุ

" ฐานทราบ ช้างป่า 2 และ 5 กำลังเคลื่อนที่ไปทางคุณ" เสียงฐานวิทยุตอบกลับ ฟังแทบไม่ได้ยิน


" รับทราบ"  ทศโผล่ออกมายิงสวนด้วย M-16 เป็นระยะๆ  เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรุกคืบเข้ามา

ปัง!  เสียงกล้อค 19 ดังมาจากข้างหลัง  ต้อมนั่นเอง...

" เฮ้ย ยังไม่ตายเหรอ  ไอ้ห่านิ กุก็ห่วง"  ทศดีใจไม่น้อยที่เห็นเพื่อนรักอีกครั้ง

" ถากๆไป กุหลบแล้วหัวไปฟาดเชี่ยไรเข้าไม่รู้  ... มึนชิบหาย" ต้อมตอบ

อีกฝ่าย เริ่มถอยหนี เนื่องจากการยิง ของฝ่ายไทยหนาแน่นาก

 ทศหันไปเห็น เพื่อนทหารฝ่ายเดียวกันด้านหลังประมาณ 1 หมู่.....

"ไปต้อม "  ทศว่า  ต้อมพยักหน้า ละทั้ง 2 ก็หอบหิ้ว พยุงกันเข้าไปหาฝ่ายเดียวกัน

เสียงกระสุนไล่หลังทั้งสองมาถี่ยิบ....แต่ก็ถูกกลบด้วยเสียงระเบิดหนักๆทันที

บรึมม!!!   ทศไม่ทันหันไปมอง เห็นเป็นแนวควันสีขาว ขากบังเกอร์สังเกตุการณ์เท่านั้น...

"จ่า พาหมวดไปหลังแนวเลย" เสียงหัวหน้าของชุดที่เข้ามาช่วยเหลือ ร้องสั่ง

"ครับผม... ไปครับหมวด" จ่าเข้ามาพยุงต้อม เข้าไปในแนวที่ปลอดภัย  ขณะที่หมู่รบก็เข้าแทนที่

การปะทะเริ่มซาลง  ผู้บุกรุกเริ่มถอย.............จนหลายกลับเข้าไปในป่า



หลังเสียงปืนเงียบลง..... ฝ่ายไทยเข้าเคลียร์พื้นที่....ก็เจอสิ่งทีน่าตกใจ...
กล้องอินฟาเรด ....... แม้ประสิทธิภาพจะไม่เทียบเท่า กับกล้องส่องกลางคืนที่ทหารไทยใช้
แต่ก็ทำให้พวกมันทำงาน ค้นหาทหารไทยได้ง่ายขึ้น... คำถามคือ...

มันเอามาจากไหน........... และนี่ คือสาเหตุที่ ทศและต้อม ถูกตรวจพบทันที ที่ลั่นกระสุนนัดแรก....




---- ข้อความจริง ---

ไอ้ต้อม โดนยิงถากแขน เล่นเอาเลือดอาบ   กุตกใจแทบตาย

เสือกสลบอีก....กุนึกว่าหลานกุจะกำพร้าพ่อแล้ว....

ห้ามตายนะโว้ย เพราะกุขี้เกียจดูแลครอบครัวเมิง.....ของกุเอง กุยังหาไม่ได้เลย
ขี้เกียจเลี้ยงลูกเมิงว่ะ

....ไอ้พวกเฮี่ยๆนั้น เอาของแบบนั้นมาจากไหนวะ .... กุล่ะไม่เข้าใจ
 กุนึกว่า กุจะเสร็จแล้วเหมือนกันวันนี้ ...... แต่บังเอิญ กุยังเฮงอยู่

กุต้องระวังตัวซะแระ ลองพวกเมิงมีของแบบนี้.... แสร่ดดดด

หลังจาก งานครั้งที่แล้ว ทศ  ก็ได้รับอณุญาติให้พักผ่อนได้ 2 อาทิตย์ ...

ต้อมแม้จะไม่โดนเข้าตรงๆ แต่คมกระสุน ก็ฉีกเอาเนื้อของเข้าไป
เหลือไว้ซึ่งบาดแผล และรอยไหม้ .... ทำให้ต้องอยู่ โรงพยาบาล

ทศเองก็ไมได้กลับบ้าน เพราะต้องรอต้อนรับและดูแล
ลูกและเมียของเพื่อนรัก

" เฮ้ย ต้อม มีคนมาหาว่ะ" ทศยิ้มหน้าทะเล้นบอกเพื่อน

" ต้อม..." เสียงที่ต้อมไม่ได้ยินมานานนับเดือนเรียกขึ้น

"พลอย" ..... ต้อมอุทานเบาๆ  ภาพตรงหน้าเค้าคือ หญิงสาวคนนึง อุ้มทารกตัวเล็กๆ
เดินเข้ามาหา

"เฮ้ย กุไม่กวนนะ  อย่าทำไรให้เสียงดังล่ะเมิง นี่มันโรงบาล" ทศหัวเราะเบาๆ

" เออ ไปไหนก็ไปป่ะ เมิง" ต้อมหัวเราะ...."ทศ.....ขอบใจว่ะ" ต้อมขอบคุณที่ทศไปรับภรรยาของเค้าถึงสนามบิน

" เออ  ตามสบายเว้ย" ต้อมปิดประตู ห้อง ปล่อยให้ครอบครัวได้เจอกันอีกครั้ง ตามลำพัง....


................ต้อมเดินลงมาดูในเมือง...............

"โอ้โห......นี่กุอยู่ในเมืองไทยเหรอวะเนี่ย......" ทศ อุทานกับตัวเองเบาๆ พลางมองไปรอบๆ

รถเกราะ เต็มเมือง ทหารถือปืนเพียบ..... บางวันมีแถว ฮ. บินลาดตระเวณด้วย....
ทหารลงมาซื้อปลา ซื้อ ไก่  ยังต้องแบกปืนลงมา แถมมีรถคุ้มกัน เป็นฮัมวี่ ติดปืนกล....

........ห่างออกไปราว 700 กิโล.....เมืองหลวง เต็มไปด้วยแสงสี ..... ทุกคนมีความสุขกับชีวิต
และวุ่นวายกับชีวิตของตัวเอง.......แต่งตัว เดินเที่ยวเตร่ ตากแอร์.......

ทศเดินเรื่อยเปื่อยๆไปในเมือง มองหลายๆอย่างรอบตัว

ที่นี่ ไม่มีห้างใหญ่ๆ ติดแอร์เย็นๆ.......แต่ก็มีตลาดที่มีของใช้ ครบเกือบทุกอย่าง .....

ที่นี่ ไม่มีฟูจิ ไม่มีซิสเล่อร์.....แต่ก็มี ร้านอาหารหลายแห่งที่อร่อยมากมาย.......

ที่นี่...ไม่มีสาวๆนุ่งสั้น ใส่สายเดี่ยว.......แต่ก็มีสาวตาคม หน้าสวยเรียบๆแบบชาวบ้าน
(ไอ้ประการสุดท้ายนี่.....สำคัญสุดเลยเป่าวะนี่)


ปีกว่าแล้ว ที่ ทศและต้อมมาอยู่ที่นี่ ประสบการณ์สั่งสมมากมาย

จากเด็กหนุ่ม ด้อยประสบการณ์ 2 คน  กลายเป็น 2 คนที่มีคุณค่าทางยุทธการอย่างมาก

ทศรู้ดีว่า ค่าหัวของเค้าในพื้นที่ แพงมากในตอนนี้ รวมถึงเพื่อนรักของเค้าด้วย

......ทศเดินเล่นอยู่หลาย ชม. จนเย็นจึงเดินกลับไปหาต้อมที่โรงพยาบาล

"อ้าว อายุยืนจริง  พูดถึงก็มา" ต้อมหันไปเห็นเพื่อน

"เออ สมพรปาก...." ทศพูดยิ้มๆ

" ทศ กุฝากไปส่ง ลูกกะเมีย ขึ้นเครื่องทีนะ กุอยากไปเองแต่ สายน้ำเกลือมันรั้งกุไว้ว่ะ ฮ่า ฮ่า"  ต้อมพูดไป หัวเราะไป ....

"เออ ได้  งั้นเดี่ยวผมรอข้างนอกนะครับพลอย" ทศพูดกับ ภรรยาของเพื่อนรัก พลอย ยิ้ม และพยักหน้าเบาๆ

" ไหน ลูกชายพ่อ มาให่ชื่นใจอีกทีสิ..." ต้อมหอมแก้มลูกเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้วันนี้
เพราะรู้ดีว่า อีกนาน กว่าเค้าจะได้ทำอีก  หรือ ......อาจจะไม่มีโอกาสอีกเลยก็ได้ ....

" ไหน หอมคุณแม่ด้วย" พลอยยื่นหน้ามาให้ต้อมหอมแก้ม...

"ผมจะรีบหาย ละกลับบ้านนะพลอย ไม่ต้องห่วง"  ต้อมพูดกับภรรยา

" ค่ะ รีบกลับมานะต้อม พลอยจะทำ ห่อหมกทะเลของชอบไว้รอค่ะ"  พลอยพูดอย่างอ่อนหวาน

" อืม ผมสัญญา" ต้อมพูดให้ความมั่นใจ

ทารกชายตัวเล็กๆ จ้องมองพ่อของเขา และยิ้มออกมา..

"ผมต้องกลับไปหาทั้งแม่ทั้งลูกแหละน่า"  ต้อมพูดพลางเอาแขนข้างที่ไม่ได้เจ็บลูบแก้มลูก

"ค่ะ งั้นพลอยไปก่อนนะ ไว้ลางานได้จะมาใหม่" พลอยบอกพร้อมกับต้อม พลางก้มลงไปปจูบหน้าผากสามีเบาๆ

.....................................



"ทศ พลอยฝากต้อมด้วยนะคะ"  พลอยบอกกับทศก่อนจะขึ้นเครื่อง....

"ครับ ไม่ต้องห่วงอ่ะครับพลอย  "  ทศรับปาก

"ไหน ไอ้ตัวเล็ก.... อยากเป็นทหารเหมือนน้าไหมลูก" ทศหันไปเล่นกับลูกต้อม

" ธุจ้า คุณน้าสิลูก" พลอยบอกลูก  เด็กน้อยเอามือลูบๆหน้าของนายทหารหนุ่ม

"พลอยไปก่อนนะคะ"  พลอยบอกลาทศแล้วเดินเข้าเกทไป

"เฮ่อ.....แบบนี้ละกุจะปล่อยเมิงเป็นไรไปได้ไงว๊า เพื่อนเอ้ย".... ทศพูดกับตัวเองเบาๆ

.........................

ข้อความจากบันทึก.....

อิจฉาว่ะ......มะไหร่กุจะมีมั่งเนี่ย

แต่..... มีก็ห่วงอีกแหละ กุไม่ใจแข็งเหมือนไอ้ต้อม ที่มาทำงานทั้งๆที่มีครอบครัวแบบนั้นได้....

กุอยู่อย่างงี้อ่ะดีแระ...... ตามหาสาวแถวนี้ต่อไป  ตาคม บาดใจ ฮ่า ฮ่า..

เมิงสัญญากับเมียเมิงไว้ว่าจะรีบกลับไป ........กุต้องช่วยให้เมิงรักษาสัญญาไว้ให้ได้ด้วยสิเนี่ย

งานเข้า....อีกแล้วกุ....ฮ่า ฮ่า...


เมื่อไหร่เมิงจะเลิกประท้วงกันค๊าบบ ละเอาคนมาช่วยทางนี้เยอะๆ

จะได้ไม่ต้องเสียกำลังคนไปดูแลแถวราชดำเนิน.....

------ วันนี้ มีงานเข้ามาอีกแล้ว......ไม่ต้องใช้ชุดกิลลี่.... ไม่ต้องใช้ปืนซุ่มยิง.....  ใช้แค่หน้าหล่อๆ -------

วันนี้ ทั้งสองได้รับภารกิจให้ประสานงานกับ ตชด. ในการเข้าหามวลชน....ไปคุยกับชาวบ้าน

ถามสารทุกข์สุขดิบ .....  ที่สำคัญ ให้ความมั่นใจกับชาวบ้านว่า.....พวกเค้าได้รับความคุ้มครองจากรัฐบาลไทย........

"ทศ ไปยังเมิง"  ต้อมร้องเรียกเพื่อน พลางปีนขึ้นไปนั่งท้ายรถกระบะ

"ไอ้เวน จะรีบไปไหน...." ทศกระโดดตามขึ้นมา  บนรถกระบะคันนี้มีทหารในฐานของเขาอีก 4-5 คน

"เอ้า .. รีบไป เผื่อเมิงจะได้คู่ไง จะได้เลิกโสดซะที"  ต้อมแซว

" แหม คร๊าบๆ ไอ้คนมีเมียแล้ว...."  ทศแขวะกลับ  "ได้ข่าวว่าอยู่นี่สั่งทหารได้....อยู่บ้าน เมียคนเดียวสั่งไม่ได้" ทศว่าต่อ

"หร่านิ  รู้ดี...อีกหน่อยแต่งแล้วอย่าเป็นอย่างกุละกัน"  ต้อมพูดอมยิ้มๆ

(คอนเฟิร์มจาก จขกท. นายทหารระดับบังคับบัญชา 90% กลัว (เกรงใจ) เมียครับ ฮ่า ฮ่า)


--------รถวิ่งลัดเลาะลงจากภูเขาสูง ซึ่งเป็นที่ตั้งฐาน มุ่งหน้าลงมายังหมู่บ้านเล็กๆ -------

" กุว่า......กุมีแววจะตกเขาตายมากกว่าโดนยิงตายว่ะ" .... ทศพูด...

" เออ กุก็ว่างั้น .... เมิงบอกจ่าแกเบาๆหน่อย โค้งแต่ละทีหัวใจจะวาย"  ต้อมบอกทศ เพราะทศอยู่ใกล้คนขับมากกว่า

" จ่า....เบาๆหน่อย เดี๋ยวร่วงลงไป ตายยกทีม"  ทศตะโกนแข่งกับเสียงเครื่องยนต์

" ครับหมวด .... อีกแปปก็ถึงแล้วครับ" ..... จ่าเหยียบคันเร่งลงไปอีก นึกว่าหมวดของเขา เร่งให้ลงไปไวๆ...

"เหวอออ" ต้อม กับ ทศจับ กระบะรถไว้แทบไม่ทัน เมื่อจ่าตีโค้งลงจากเขา......


------------------- หมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง --------------

.....ทั้งทหารและ ตชด. เข้าพูดคุย กับชาวบ้าน  ทุกครัวเรือนยิ้มแย้มและให้การต้อนรับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี...

ทศกับต้อม แยกไปฝึกอาวุธให้ ชรบ.  เป็นปืนจำพวกลูกซอง..... ปืนพวกนี้ยิงยาก แรงถีบสูงมาก

" จับปืนแบบนี้นะครับ"  ทศบอกชายคนหนึ่ง พลางเอามือดันไหล่ไว้ .....

"ปัง!!"  เสียงปืนดังสนั่น... ชายคนที่หัดยิงปืน แทบล้มทั้งยืน ดีที่ทศรู้อยู่แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น เลยเอามือยันไว้...

"ปัง!!" เสียงปืนดังขึ้นอีกนัด  ต้อมยิงโชว์วิธียิงที่ถูกต้อง.....

"เมิงไม่เจ็บเหรอวะ กุยังไม่ค่อยอยากยิงเลย ไอ้ลูกซองแบบนี้อ่ะ" ทศกระซิบถามเพื่อน

" กระเทือนถึงหัวเลย ไม่เจ็บได้ไงวะ.....ไหล่กุจะหลุดแล้ว" ต้อมกระซิบตอบ....


"หมวดดดด"  เสียงเรียกจากเพื่อน ตท.รุ่นเดียวกัน หมวดโต้ง  ตชด. จากค่ายนเรศวร...

" เออ ว่าไง" .... ทศร้องตอบเพื่อนต่างเหล่า

"มายิงปืนแข่งกัน...เค้าว่า พวกเมิงยิงแม่นนี่หว่า...."  หมวดโต้งท้าทาย พลางยักคิ้วข้างเดียว

" โห....เมิงเจอไอ้ต้อมก็พอ...ไม่ต้องมาเจอกุหรอก" ...ทศพูดยิ้มๆ

" เอ้า โยนมาให้กุซะงั้น.....อ่ะ มา ยิง 10 นัด  เบียร์ ลังนึง" ต้อมบอกวิ่งเดิมพัน

" โห....ทหารแม่ม ขี้เมาว่ะ..... ถ้ากุชนะกุขอ 2 ลังนะ" หมวดโต้งพูดไปขำๆ

" มา จัดให้"  ต้อมรับคำท้า

---------------------  ชาวบ้านรุมดูกันเพียบ -------------------------

" กติกา ยิง 10 นัด  นับคะแนนตามเป้าที่ยิงได้  ยิงศูนย์เปิด แบบ เซมิ ระยะ 40 เมตร"  ทศบอกกติกา.....

หมวดโต้ง....เปิดฉากยิงก่อน..กระสุน 10 นัด ไม่มีนัดไหน หลุดวงดำแม้แต่นัดเดียว .......

หมวดต้อม ..... เปิดฉากยิงบ้าง ....... กระสุน 10 นัด ....ไม่มีหลุดวงดำแม้แต่นัดเดียวเหมือนกัน .......

"เอ้า ตัดสินยังไงล่ะวะทีนี้" ......หมวดโต้ง และต้อมเกาหัวแกรกๆ....

"งั้นกุตัดสินให้......เบียร์ทั้งหมด ยกให้กุ ... ฮ่า ฮ่า"  ทศพูดพลางให้หทารยกลังเบียร์ ขึ้นรถ

" อ่าว ไอ้หร่านิ ทุนก็ไม่ลง แรงก็ไม่ลง เอาไปแด่กซะฉิบ"  หมวดโต้งว่า...

"ก็ตามมากินกะกุที่ฐานดิ  ยังไงวันนี้ก็ต้องอยู่กินข้าวที่ฐานกุทั้งชุด"  ทศบอกหมวดโต้งพลางเดินกอดคอเพื่อนต่างเหล่า....

(ใครว่าตำรวจ กะ ทหารไม่ถูกกัน?ฮืม  ยืนยันครับว่า ถ้าเป็น ทหาร-ตำรวจระดับสัญญาบัตรขึ้นไป รักกันดี...

ก็ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตั้ง 2 ปี  ((สมัยก่อน ตท. เรียน 2 ปี)))

ก่อนจากหมู่บ้านเล็กๆมา   ชาวบ้านเดินมาส่งเจ้าหน้าที่ไทยผู้มาเยือนและให้ความมั่นใจว่า.....

พวกเขาได้รับการปกป้อง ด้วยชีวิตของทหารทุกนายที่มาปฏิบัติหน้าที่ .......

ชาวบ้านเหล่านี้ ไม่รู้เรื่อง และล้วนเป็นมิตร....... ทศเชื่ออย่างนั้น  ต้อมเองก็คิดเช่นนั้น เช่นเดียวกับทุกๆคนที่ได้ลงไปสัมผัส



.......บันทึกจริง ......

ไอ้ต้อม ดวลกับไอ้โต้ง กระสุน 10 นัด .....จริงๆมันมีเหตุผลมากกว่านั้น.....

เราต้องให้ความมั่นใจด้วย ว่า เรามีความสามารถมากพอที่จะปกป้องพวกเขา

ไม่มีอะไรดีไปกว่า การยิงโชว์ให้เห็นจะจะ ....

จริงๆผลมันรู้ตั้งแต่ต้นแล้วว่ากินกันไม่ลง  เพราะฝึกมาเหมือนๆกัน  ยิงปราณีตแทบไม่มีหลุด

ไอ้โต้ง จัดเป็นมือแม่นอันดับต้นๆของ ค่ายนเรศวร หมือนกัน

ไอ้ต้อม ไม่ต้องพูดถึง  มันเป็นสไนเปอร์แทนกุได้สบาย...



เมื่อพวกมันใช้ความน่ากลัว เข้าข่มขู่ให้ชาวบ้านร่วมมือ.....เราก็ต้องให้ชาวบ้านเชื่อมั่นว่า เราปกป้องพวกเค้าได้

.....ชาวบ้านพวกนี้น่ารัก.....โดยเฉพาะ ลูกสาวข้างๆร้านขายของ ฮ่า ฮ่า  ไว้มีโอกาส จะมาพาไปเป็นคุณนายนะจ๊ะ!!  ตกใจ


--------------เช้าตรู่ กลางเดือน สิงหาคม 2549 ----------

ต้อมเห็นทศ กำลังเตรียมข้าวของที่จะออกทำงาน พร้อมกับชุดลาดตระเวณเส้นทางคุ้มครองครู - พระสงฆ์

" เอาไรไปเยอะแยะวะเมิง " ต้อมเดินมาถามเพื่อน เพราะเห็นทศแบกของไปเพียบ

" ก็ผู้กองอ่ะดิ บอกให้กุใส่เสื้อเกราะทำงาน  แม่มหนักชิหาย" หมวดทศบ่นอุบ

"เอาน่า เซฟๆหน่อย จะได้อายุยืนๆไปขอลูกสาวร้านขายของมาทำเมีย" ต้อมเย้าเพื่อน

"......ไอ้เวนนี้ รู้ดี....ว่าแต่...กุต้องขลิบด้วยเป่าวะ"  ทศพูดขำๆ

" อันนี้กุก็ไม่ทราบได้ครับผม หมวด...ต้องไปลองเองนะครับ" ต้อมพูดแหย่เพื่อนไปเรื่อยๆ

" หมวด รถพร้อมแล้วครับ" เสียงจ่าต๋อย  นักซิ่งจากตอนที่แล้วรายงาน

" จ่า....อย่าซิ่ง" ...."หมวดกลัวตายเพราะตกเขามากกว่าโดนยิง" ...ทศบอกจ่า เพราะคราวที่แล้ว ลงจากเขาแบบใจหายใจคว่ำ

"แหม หมวด   ผมก็นึกว่าหมวดจะรีบลงไปหาลูกสาวร้านขายของ"  จ่าพูดแซวขำๆ
(จริงๆ เวลาทำงานจะเรียงตามสายบังคับบัญชาครับ แต่ด้วยวัยที่สูงกว่าของจ่าต๋อย
จึงสามารถแซวหมวดได้ นอกเวลางาน)

" แหม...จ่า  รู้งานเนาะ....แต่ผมกลัวว่าจะไปไม่ถึงหมู่บ้านมากกว่า..."  ต้อมพูดหยอกล้อไปเรื่อย

แล้วทั้งชุดปฏิบัติการวันนี้ก็อยู่บนรถ.......

รถลัดเลาะลงมาตามทาง  จ่าต๋อยขับรถด้วยความชำนาญในพื้นที่ เพราะแกอยู่มาหลายปีแล้ว

"ทศ...เมิงวางแผนไว้ว่าไงวะ กลับบ้านเที่ยวนี้"  ต้อมถาม

"ยังไม่รู้เลยว่ะ กุว่าจะกลับไปช่วยแม่ทำงานบ้าน  อยู่บ้านเฉยๆสักพัก " ทศตอบ แข่งกับเสียงเครื่องยนต์

"ไม่คิดถึงสาวทางนี้เหรอ.....กุรู้นะว่าเมิงแอบไปคุยกะ น้องคนนั้นบ่อยๆ เวลาลงไปทำงาน" ต้อมรู้ทัน

" แหม..สมกะเป็นคนหาเป้าให้กุจริงๆ  สายตาว่องไว" ทศประชด

" ฮ่าๆๆ" ทั้งสองหัวเราะขึ้นพร้อมกัน  เพื่อนทหารอีกหลายคนในรถก็หัวเราะไปด้วย

โค้งหน้าก็จะถึงพื้นราบแล้ว อีกไม่เกิน 10 นาที ก็จะถึง เส้นทางเป้าหมาย

"อ่ะ เผื่อทันใส่บาตรว่ะ" ทศยื่นถุงกับข้าวให้ต้อม

" เออ ขอบใจว่ะ ไม่ได้ใส่บาตรมานานละ"  ต้อมรับถุงกับข้าวจากเพื่อน

" เออ ทำไว้เยอะๆ เมิงอ่ะ มีลูกเมียแล้ว ต้องทำเยอะๆ จะได้กลับไปหาไวๆ"  

" เมิงก็ต้องกลับพร้อมกุอ่ะแหละ....เฮ้ย กุบอกน้องเค้าให้เป่า ว่าเมิงอยากได้เค้าไปเป็น คุณนาย"  ต้อมยังไม่วายแซวเพื่อนต่อ ..


รถกำลังจะเข้าโค้ง......ต้อมและทศเหลือบไปเห็น ถุงสีส้ม.....ผูกไว้ตรงต้นไม้ตรงหัวโค้ง....

ทั้งคู่ใจหายวาบ....."บรรลัยล่ะ"  ทศพูดกับตัวเองเบาๆ

ต้อมก็ไวไม่แพ้กัน....ทุบหลังคารถให้จ่าต๋อยเบรค...

รถ เบรคครืดดทันที จ่าเองก็ตาไวไม่แพ้กัน เพียงแต่.....ด้วยการที่รถวิ่งลงเขามา  การเบรคจึงไม่ง่าย และหยุดได้เร็วอย่างที่คิด......(เห็นไหมครับ เค้าฝึกมาเหมือนเรา...เลือกเวลาและสถานที่โจมตี ที่ได้เปรียบที่สุด)

ต้อม.....หมอบราบติดหลังคารถ....... ทุกอย่างกลายเป็นภาพช้า........

"ปัง!!"  เสียงปืน ที่ไม่รู้ว่าดังจากไหน ดังก้องในโสตประสาท....

"ทึ่บ!!" เสียงแน่นๆ ดังขึ้น..... ต้อมหันไปมองตามเสียง ภาพที่เค้าเห็นคือ ทศเพื่อนรัก ร่วงลงไป
ร่างสะบัดหมุนไปทางซ้าย ตามแรงของกระสุนปืน....

"ไอ้ทศ" .........ต้อมเรียกเพื่อนเสียงดังลั่น....  แทบจะวินาทีเดียวกัน....

" บรึ้มมม!!!" เสียงระเบิดดังกึกก้องระยะไม่เกิน 10 เมตรหน้ารถ.......แรงระเบิดอัดเอากระจกหน้าแตกละเอียด..... จ่าต๋อยคนขับหมอบลงพอดี.....เลยรอดไปหวุดหวิด

8 ชีวิตบนหลังรถกระบะ กระจายออกวางแนวยิงต้านทันที

"ปังๆๆ" เสียงปืน M-16 ดังสนั่น เพราะทุกคนเดาได้ทันทีว่าอีกฝ่ายยิงมาจากไหน

ต้อมเห็นเพื่อนรักที่มีเลือดไหลทะลักออกมาจากบริเวณหน้าอกอย่างน่ากลัว...
นอนเงียบไม่ไหวติง อยู่ข้างรถ

"ปุ้ง!!" เสียง M203 ยิงออกไปยังเนินดินฝั่งตรงข้าม

"บรึ้ม!!" เสียงดังสนั่นเล่นเอาต้นไม้บนเนินดิน หักลงมาทันที....

"ไอ้ทศ" ต้อม พุ่งพรวดไปจะลากร่างของเพื่อนรัก เข้ามาในแนวยิงคุ้มกัน

"หมวดอย่า....ใจเย็นครับ" เสียงจ่าต๋อยที่อยู่ข้างๆ ล้อคคอผู้หมวดหนุ่มไว้

" หมวดต้องบังคับบัญชาต่อ หมวดโดนอีกคนพวกเราจะทำยังไง" ....จ่าตะโกนเรียกสติหมวดต้อม

ต้อมเรียกสติกลับมาได้ทันที...... ใช่ ถ้าเค้าออกไป....ไม่เพียงช่วยเพื่อนรักไม่ได้
อาจจะทำให้ทั้งทีมถูกละลายอีกด้วย...

"จ่า ขยายแนวยิงไปทางซ้าย ให้ 203 เปิดบนเนินดินอีกนัด" ต้อมร้องสั่ง

"พลป๋อง" ต้อมร้องเรียกพลวิทยุ

" ช่างป่า 1 เรียกฐาน เราถูกอัด  พิกัด ..........." ต้อมบอกพิกัดที่ตัวเองอยู่ไป..

" ฐาน ถึงช่างป่า 1 รับทราบ V-150 2 คัน กำลังไปทางคุณ  อึดอีกหน่อย" เสียงผู้กองตอบมาทางวิทยุ...

หมวดต้อมมองไปยังเพื่อนรัก....ทศยังคงนอนนิ่ง ราวกับหลับไหล....

"บรึ้ม!!" ......เสียง M-203 อีกลูกดังสนั่น เปิดทางให้จ่าต่ฮย นำทหารไปวางแนวยิงเพิ่มตามคำสั่ง..

ได้ผล ....พอมีการยิงโอบจากอีกฝั่ง  การยิงจากเนินดินก็เบาลงไปทันที.....

รถ V-150 วิ่งเข้ามาถึง พร้อมเปิดฉากยิงสนั่นด้วยปืนประจำรถ...



ระเบิดมือลูกหนึ่ง ถูกขว้างมาจากแนวต้นไม้บนเนินดิน .........

มันตกห่างจากหมวดต้อมไม่มาก........


...ตูม!!!!  เสียงระเบิดดังสนั่น....ทุกอย่างของต้อม ดับวูบและมืดลง..........

...................






.............








........















.....











..

















ทศในชุดขาว เต็มยศ......นอนสงบนิ่ง.........

ข้างๆกัน ต้อม ยืนสงบนิ่งมองหน้าเพื่อนเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะบรรจุลงหีบศพ

เสียงแตรนอน ฟังโหยหวน......กระแทกความรู้สึกของทุกคนที่ได้ยิน........

ทศกำลังจะถูกนำขึ้น C-130 เพื่อกลับมาทำพิธีทางศาสนาที่กรุงเทพ....

ธงชาติ ถูกนำมาคลุมไว้ที่หีบศพอย่างสมเกียรติ.........

"ไอ้หร่าต้อม อย่าเศร้าไป.......เรื่องแค่นี้  ขี้ผงน่า" .....คำพูดของทศยังดังก้องอยู่ในความคิด
เวลาที่ต้อมเจอเรื่องไม่ดี......ทศมักปลอบเค้าแบบนี้เสมอ.....


ต้อมทำความเคารพตามแบบทหาร......แก่เพื่อนของเขา ซึ่งบัดนี้ ดำรงค์ยศสูงกว่า...

เครื่องบินทะยานขึ้นฟ้า  พร้อมหอบเอาร่างของนักรบไทย ผู้หลับพักผ่อน กลับมายังบ้านเกิด.....





ปล. ผมเสียใจที่ไม่สามารถนำชื่อและยศของทั้ง ทศและต้อมมาบอกได้ครับ  เพราะต้อมยังคงทำงานในพื้นที่สีแดงอยู่....ถ้าบอกชื่อของทศไป......หลายๆคน จะทราบทันทีว่า หมวดต้อม คือใคร....  ขอเพียงทุกท่านรับรู้ว่า ยังมีอีกหลายร้อย หลายพัน ชีวิตที่ทำงานหนัก เพื่อปกป้อง
ประชาชนไทย โดยใช้ชีวิตเข้าเสี่ยง.....

ตอนสุดท้าย ไมได้มาจากบันทึกนะครับ ผมเขียนขึ้นเอง โดยสอบถามเรื่องราวจาก
"หมวดต้อม" ตัวจริง ในงานศพของ "หมวดทศ" .....

บันทึกเล่มจริง ผมขอเก็บเรื่องราว"จริงๆ" ไว้ ให้มันตายไปพร้อมๆกับตัวผมเอง....ดีกว่า
(บอกแล้ว เดี๋ยวซวยยกบอร์ด......  ละจะไปหาซื้อปืนดีๆได้ที่ไหน ฮ่ ฮ่า)


ขอบคุณทุกครับ ที่ตามอ่านเรื่องราวของ รุ่นน้องคนนึง ที่สนิทกับผมมากมาจนจบ

บันทึกเล่มนี่ ผมรับมาจากมือของ แม่หมวดทศ...ซึ่งแม่ของเค้าบอกว่า ให้ผมเก็บไว้

มีหลายตอนที่แม่เค้าอ่านแล้ว รับไม่ไหว เลยไม่อยากเก็บไว้ ...........

อ่อ.....ผมอณุญาติให้เผยแพร่ได้ โดยการถ่ายเอกสาร พรือจัดพิมพ์ ไว้อ่านเองนะครับ
หรือ ห้ามเผยแพร่ในลักษณะใดๆ เพื่อการค้า  เพราะจุดประสงค์ของผม ก็เพื่อจะบอกกับทุกคนว่า ...... ทหาร-ตำรวจไทย เอาชีวิตเข้าปกป้อง พิทักษ์ประชาชนและผลประโยชน์ของชาติ......อยากให้พวกเราทุกคนไม่แบ่งฝ่าย แบ่งสี.....รักและสามัคคีกันไว้ครับ   เพราะไม่อย่างงั้น  หลายร้อยชีวิต ที่สูญไป กับ อีกหลายพันชีวิตที่กำลังทำงานอย่างหนักก็จะสูญเปล่าครับ

จะแนวแน่ แก้ไขในสิ่งผิด.......จะรักชาติจนชีวิตเป็นผุยผง.....

จะยอมตาย หมายให้ เกียรติดำรงค์.........จะปิดทอง..หลังองค์...พระปฏิมา........

ปล. หลับให้สงบ น้องรัก...... ใครแอบพิมพ์ไปขาย  แกไปหักคอมันได้เลย...

โดยคุณ MALASMUTU เมื่อวันที่ 18/10/2011 20:00:36


ความคิดเห็นที่ 2


เท็จจริง หรือซ้ำ ประการใดก็ขออภัยด้วยครับ มันยิ่งอ่านยิ่งอิน ยิ่งอินยิ่งซึ้งเข้าไปอีก

โดยคุณ MALASMUTU เมื่อวันที่ 18/10/2011 20:17:24


ความคิดเห็นที่ 3


อ่านจบเเล้วครับ..ให้ความรู้สึกที่ดีมากๆเลยครับ..ขอบคุณครับที่นำมาให้อ่าน

...ตายเพื่อบางสิ่ง..หรืออยู่อย่างว่างเปล่าว ...เข้าใจนิยามของคำนี้เลยครับ

โดยคุณ dekthainakab เมื่อวันที่ 18/10/2011 21:53:08


ความคิดเห็นที่ 4


ผมขออรุญาติเอาเนื้อหาไปเขียนเป็นบทภาพยนต์ได้ไหมครับ

เรื่องราวแบบน้ผมอยากให้คนไทยได้รู้กันมากๆ

 

ในกรณที่อณุญาติ
ถ้าเขียนเสร็จผมจะส่งเมลมาให้ตรวจสอบอีกทีว่า สมควรเผยแพร่หรือไม่ หรือส่วนใหนต้องแก้ไข
และบางทีอาจนานซักหน่อยเพราะผมมันมือสมัครเล่น
ผมไม่เอาออกไปเผยแพร่โดยพละการแน่นอน ไม่ต้องห่วงครับ

 

ตอนที่หมวดต้นมาส่งเพื่อนเป็นครั้งสุดท้ายผมเปิดเสียงแตรนอนฟังไปด้วย(ไม่เคยฟังเลยเปิดฟังดู ไม่ใช่จะสร้างบรรยากาศ)

มันมีความรู้สึกโหดร้ายมากๆ น้ำตาแทบเล็ด(แต่พอดีมีคนอื่นอยู่ด้วยเลยเก็ยอารมเอาว้ได้)

โดยคุณ veratee1992 เมื่อวันที่ 19/10/2011 00:46:35


ความคิดเห็นที่ 5


เคยอ่านเมื่อ3ปีที่แล้ว อ่านหลายรอบ จนจำได้เลย

โดยคุณ sona เมื่อวันที่ 19/10/2011 00:56:21


ความคิดเห็นที่ 6


คุณ veratee1992        ผมขอภาวนาให้คุณได้นำไปสร้างเป็นภาพยนต์จริงๆน่ะครับ ขอให้เขียนบทเสร็จไว้ๆน่ะครับ

** เหตุการณ์ที่สร้างมาจากเรื่องจริงบางส่วนแบบนี้ ยิ่งเป็นเหตุการณืในปัจจุบันที่เกิดขึ้นกับประเทศของเราแล้ว ผมว่าคงน่าชมน่าดูเป็นอย่างมาก 

-- อยากให้เน้นเรื่องอาวุธ ยุทโธปกรณ์ของหน่วยรบพิเศษ นาวิกโยธิน หรือ พวกรีคอน ป่าหวาย พวกนี้ครับ หรือติดต่อกับกองทัพเรือหรือเหล่าทัพอื่นๆเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์กองทัพไปในตัว และบทที่เป็นกลางต่อทั้งสองฝ่าย เพราะผมคิดว่า ถ้าเอนเอียงมาฝ่ายทหารมากๆไป มีหวังไม่ผ่านแน่ๆเลยครับ  ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ผมเองก็อยากให้ทุกคนเข้าข้างฝ่ายทหารด้วยกัน(ความเห็นส่วนตัวน่ะครับ^^)

 

โดยคุณ snake เมื่อวันที่ 19/10/2011 02:42:51


ความคิดเห็นที่ 7


คุณ  veratee1992   เอออันนี้ผมก็ไม่ทราบด้วยสิครับเพราะผมไม่ได้เป็นเจ้าของบทความ เพราะ copy มาอีกทีแต่ในเว็ปที่ผม copy มาเจ้าขอบทความก็บอกไว้ว่า ผมอณุญาติให้เผยแพร่ได้ โดยการถ่ายเอกสาร พรือจัดพิมพ์ ไว้อ่านเองนะครับ แต่ ห้ามเผยแพร่ในลักษณะใดๆ เพื่อการค้า  และเนื้อหาในบทความนี้มีบางตอนที่เจ้าของบทความปรับปรุงแก้ไขไปเพราะไม่สามารถนำข้อมูลจริงๆออกมานำเสนอได้ครับ
สุดท้ายก็คงแล้วแต่คุณ
veratee1992 จะตัดสินใจครับ ถ้าคิดจะทำจริงข้อให้สำเร็จลุล่วงด้วยดีครับ
ปล.อย่าทำขายเป็นพอ อิอิ

โดยคุณ MALASMUTU เมื่อวันที่ 19/10/2011 03:29:12


ความคิดเห็นที่ 8


ขอร่วมไว้อาลัยด้วยคนครับ แด่ทหารกล้าที่ปกป้องพื้นแผ่นดินไทย

โดยคุณ sarunsa เมื่อวันที่ 19/10/2011 04:25:03


ความคิดเห็นที่ 9


อาจจะเป็นเรื่องได้รับแรงบันดาลใจจากปฏิบัติการจริงของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ก็จริง

แต่ส่วนตัวเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมาในลักษณะนิยายมากกว่าครับ ถ้าดูจากรายละเอียดต่างๆบางจุดในตัวเรื่อง

โดยคุณ AAG_th1 เมื่อวันที่ 19/10/2011 07:14:50