พล.อ.ต. มณฑล สัชฌุกร โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้เรียกประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพอากาศ หลังจากร่วมประชุมกับนายกรัฐมนตรี ที่ศปภ.ในช่วงเช้า โดย พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้เสนอให้ตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพไทย มีลักษณะเป็นศูนย์อำนวยการ มีพล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร เสนาธิการทหาร เป็นผู้อำนวยการศูนย์
ทั้งนี้ เพื่อความเป็นเอกภาพในการสั่งการ โดยเหล่าทัพทั้งหมดจะขึ้นตรงกับศูนย์นี้ มีรองเสนาธิการเหล่าทัพเป็นผู้อำนวยการ ซึ่งในส่วนของกองทัพอากาศ มอบหมายให้ พล.อ.ท.อารยะ งามประมวญ รองเสนาธิการทหารอากาศฝ่ายยุทธการ และการข่าวเป็น ผอ.ศูนย์"เชื่อมั่นว่า แนวทางดังกล่าว จะทำให้การสั่งการจาก ศปภ. ลงไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นเอกภาพและไปในทางเดียวกัน"
พล.อ.ต. มณฑล กล่าวว่า การเตรียมการของกองทัพอากาศ หลังจากที่มีการประเมินสถานการณ์น้ำในสนามบินดอนเมือง ผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้สั่งการให้เตรียมแผน ทั้งการแจ้งเตือน และเคลื่อนย้ายอากาศยาน ในกองบิน 6 ที่จอดอยู่ออกไปไว้ในกองบินอื่น ที่คาดว่า ระดับน้ำไม่ท่วมถึง ซึ่งสามารถนำอากาศยานทั้งหมดขึ้นบินได้ภายใน 3 ชม.หากแจ้งเตือนมา
อย่างไรก็ตาม ทุกคนก็อย่าตื่นตระหนก เพราะเป็นการประมาณการณ์ในกรณีที่อาจจะเกิด ซึ่งหากเกิดขึ้น ก็คาดว่า น้ำน่าจะสูงประมาณ 1 เมตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ว่า จะรับได้หรือไม่ ถ้าไม่มีปัญหา ดอนเมืองก็ไม่ได้รับผลกระทบ
ส่วนที่นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งว่า จะมีเครื่องบิน ฮอล์ค อายย์ ของสหรัฐฯ เข้ามาให้การสนับสุนช่วยเหลือนั้น พล.อ.ต.มณฑล กล่าวว่า น่าจะเป็น ฮ.ซีฮอล์ค มากกว่า ซึ่งเบื้องต้นรับแจ้งว่า จะเข้ามาประมาณ 20-26 ลำ
ทั้งนี้ ศูนย์ใหญ่ของกองทัพไทยได้ประสานให้ กองทัพอากาศ จัดพื้นที่การจอด นอกจากนั้นก็ต้องหารือในเรื่องการใช้เชื้อเพลิง และการแบ่งพื้นที่ในการปฏิบัติการ เพราะขณะนี้มีอากาศยานที่เข้าร่วมกันทำงานทั้งหมด 9 หน่วยงาน ส่วนใหญ่เป็น เฮลิคอปเตอร์ จึงต้องมีการบริหารจัดการห้วงอากาศให้ดี
นอกจากนั้น ยังมีประเทศสิงคโปร์ ที่จะส่ง ฮ.ลำเลียงชีนุกมาช่วย ก็จะประสานกับ ทบ.เพื่อรับไปประสานเนื่องจากมีอากาศยานประเภทนี้ใช้อยู่
"คิดว่า คงไม่ใช่ เอแว็ค ของฮอล์คอายเพราะเครื่องบินดังกล่าวจะใช้ในการรบ เป็นฐานทัพลอยฟ้าในการบัญชาการแจ้งเตือนภัย แต่การสำรวจความเสียหายหรือค้นหาคนติดค้าง สภาพกระแสน้ำ เรามีอากาศยานของกองทัพอากาศที่ขึ้นทำการบินสองประเภท"
ทั้งนี้ เรามี AU-23 จำนวน 4 เครื่อง โดย 2 เครื่องแรกจะใช้กระจายเสียงบอกชาวบ้านให้อพยพออกจากพื้นที่ที่น้ำจะมา ได้ใช้แล้วที่นครสวรรค์ อีก 1 ลำ ใช้ถ่ายภาพเก็บสถิติปริมาณน้ำ อีก 1 ลำ ติดกล้องวีดีโอ ดาต้าลิงค์ สามารถถ่ายภาพเรียลไทม์ ถ่ายทอดมาที่ศูนย์ปฏิบัติการเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการอำนวยการ สั่งการได้ทันที นอกจากนั้น ก็มีเครื่องบินไดมอนด์ ในการถ่ายภาพถ่ายทางอากาศ BT-67 และ C-130 ใช้ในการลำเลียง
ขอบคุณ ข้อมูลจาก คมชัดลึก ครับ
ย่อหน้าสุดท้ายเครื่องบิน AU-23 และ เครื่องบินไดมอนด์ หน้าตาคงประมาณอย่างนี้
ขอบคุณเจ้าของภาพถ่าย AU-23 ใช้ในการกระจายเสียง ส่วนเครื่องไดมอนด์ใช้ในการถ่ายภาพ ว่าตามข้อมูลข่าวครับ