หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


เรือดำน้ำดีเซลไฟฟ้าที่ดีที่สุด...

โดยคุณ : sam เมื่อวันที่ : 11/10/2011 08:11:06

โดย ศูนย์รัสเซียศึกษาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย    

       เรือดำน้ำพลังดีเซล-ไฟฟ้าที่มีเกียรติประวัติมายาวนานในปัจจุบันคือเรือดำน้ำของรัสเซียและของฝรั่งเศส ทั้งสองประเทศได้นำเอาประสบการณ์ที่สั่งสมมากึ่งศตวรรษมาสร้างเรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้าที่ดีที่สุดของยุค ซึ่งของฝรั่งเศสเรียกว่าชั้น สกอร์ปิเน่(Scorpene) ส่วนของรัสเซียเรียกว่าชั้นอามูร์ (Amur)

   เนื่องจากเรือชั้นสกอร์ปิเน่(Scorpene) ได้เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางของนักการทหารและผู้นิยมเรือดำน้ำมาพอสมควรแล้ว ด้วยกองทัพเรือประเทศมาเลเซียได้ซื้อมาเข้าประจำการแล้ว 3 ลำทำให้มีการถูกนำเสนอทางสื่อต่างๆไปอย่างกว้างขวาง ในขณะที่คู่แข่งที่สำคัญของเรือชั้นนี้คือชั้นอามูร์ของรัสเซียไม่ได้ถูกนำเสนอบ่อยนัก ศูนย์รัสเซียศึกษาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยซึ่งที่มีหน้าที่นำเสนอข้อมูลข่าวสารต่างๆของรัสเซียให้ชาวไทยได้รับทราบ จึงขอนำเสนอความเป็นมาของเรือดำน้ำชั้นอามูร์ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเรือดำน้ำขั้นสูงสุดของยุคมาให้ผู้สนใจได้รับทราบพอสังเขป

ก่อนที่จะกล่าวถึงความเป็นมาของเรือดำน้ำพลังดีเซล-ไฟฟ้ารัสเซีย ใคร่ขอทำความเข้าใจกับท่านผู้สนใจที่เพิ่งจะมาศึกษาเรื่องของเรือดำน้ำก่อนว่า คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งของการปฏิบัติการใต้น้ำคือความเงียบ และนักออกแบบเรือดำน้ำรัสเซียได้ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการออกแบบใบพัดระบบเสียงเบามาก(Ultra quiet multi-bladed) “ทำให้เกิดเสียง เท่ากับลูกปลาโลมาตัวเดียวเท่านั้น” และสาเหตุสำคัญที่เรือดำน้ำต้องแข่งขันกันเรื่องความเงียบของการเดินเรือคือ “การตรวจพบเรือดำน้ำ จะตรวจพบจากเสียง และระบบนำร่องของตอร์ปิโด จะติดตามเป้าหมายตามเสียง” ดังนั้น หากเรือปฏิบัติการด้วยเสียงดังกว่าก็จะถูกตรวจจับและถูกโจมตีได้ก่อน ในทางตรงกันข้ามหากเรือปฏิบัติการด้วยเสียงที่เบากว่าก็จะถูกตรวจจับได้ช้ากว่า ทำให้มีโอกาสทำลายเรือฝ่ายข้าศึกได้ก่อน

เรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้าของรัสเซีย     รุ่น 877  (Project 877)

     สหภาพโซเวียตรุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้มีการออกแบบและสร้างเรือดำน้ำพลังดีเซล-ไฟฟ้าหลายรุ่น ประกอบด้วย รุ่น 613 “วิสกี”(Project 613 “Whiskey”), รุ่น 611 “ซูลู” (Project 611 “Zulu”) และ รุ่น 641 “ฟ็อกทรอท” (Project 641 “Foxtrot”) เป็นต้น ซึ่งเรือดำน้ำแต่ละรุ่นได้สร้างขึ้นมาจากการนำเอาประสบการณ์การปฏิบัติการของเรือดำน้ำในสมรภูมิต่างๆรวมทั้งเทคโนโลยีที่สั่งสมมาตั้งแต่ก่อนสงคราม และเทคโนโลยีสูงสุดของยุคหลังสงคราม

การพัฒนาเรือดำน้ำพลังดีเซล-ไฟฟ้าจากพื้นฐานทางเทคโนโลยีสูงสุดของยุคได้เกิดเรือดำน้ำพลังดีเซล-ไฟฟ้ารุ่นที่สองของสหภาพโซเวียตคือรุ่น 641B “แทงโก” (Project 641B “Tango”)

ก้าวย่างที่ไกลที่สุดก้าวหนึ่งของเทคโนโลยีเรือดำน้ำพลังดีเซล-ไฟฟ้าของรัสเซียคือการสร้างเรือดำน้ำรุ่นที่สาม ซึ่งมีรหัสรุ่น 877และมีชื่อชั้น “กิโล” (Project 877 “Kilo”) ซึ่งขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าร้อยเปอร์เซ็นต์ การออกแบบลำตัวเรือมีความสมบูรณ์สูงสุดด้านไฮโดรไดนามิก(hydro-dynamic - อุทกพลศาสตร์) มีความคล่องตัวในการเคลื่อนที่ใต้น้ำสูง ใช้เทคโนโลยีไฮโดรออกุสติก(hydro-augustic) ขั้นสูงทำให้การเคลื่อนที่ของเรือเงียบมาก ประกอบกับอาวุธและระบบอัตโนมัติที่เป็นเทคโนโลยีล่าสุดทำให้เรือชั้น “กิโล” ตรวจจับได้ยากยิ่ง จนนักการทหารของนาโต( NATO)ให้ฉายาว่า “หลุมดำแห่งมหาสมุทร”( “a black hole in the ocean”)

การปฏิบัติการในมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิกได้ยืนยันถึงประสิทธิภาพของเรือชั้น”กิโล”เป็นอย่างดีว่าสามารถปฏิบัติการได้ทุกสภาพน้ำ การเป็นอยู่ของลูกเรือมีความสะดวกสบาย  ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งของเรือดำน้ำรุ่นนี้คือการออกแบบที่คำนึงถึงอายุการใช้งานของเรือ โดยการสามารถเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ ทั้งอุปกรณ์ไฟฟ้า ระบบสื่อสาร ระบบของอาวุธนำวิถีและจรวดได้เมื่อหมดอายุการใช้งานแล้ว ดังนั้นเราจะเห็นว่าเรือชั้น “กิโล”จะอยู่ประจำการในกองทัพเรือของรัสเซียไปอีกนาน

  เรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้า     รหัสโครงการ 877E และ 877EKM(Project 877E,877EKM) 

       

     เรือดำน้ำ 877 “กิโล”  เป็นเรือดำน้ำรุ่นที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของวงการเรือดำน้ำที่ไม่ใช่นิวเคลียร์ปลายศตวรรษที่ 20 จากความสำเร็จดังกล่าวได้นำไปสู่การพัฒนาเรือดำน้ำที่ผลิตขายให้กองทัพเรือของประเทศต่างๆ ซึ่งเรียกว่ารุ่น 877E และรุ่น 877EKM   เรือดำน้ำทั้งสองรุ่นนี้ได้สร้างขึ้นโดยใช้
นวัตกรรมกรรมล่าสุดทางวิศวกรรมเรือดำน้ำของยุค อีกทั้งใช้ประสบการณ์การปฏิบัติการของเรือดำน้ำ รุ่น 641 “ฟ็อกทรอท” ที่ได้ประจำการอยู่ในกองทัพเรือประเทศต่างๆทั่วโลก

 

จุดเด่นของเรือดำน้ำรุ่น877Eและ 877EKM  คือ

  • ความเงียบขณะปฏิบัติการ
  • ความสมบูรณ์แบบของการออกแบบตัวเรือ
  • การใช้ระบบอัตโนมัติที่สมบูรณ์แบบ
  • อาวุธที่มีอานุภาพสูงและสั่งการด้วยระบบอัตโนมัติ
  • สภาพแวดล้อมที่ดีเอื้ออำนวยต่อการเป็นอยู่ของลูกเรือ
  • บำรุงรักษาง่าย



    เรือดำน้ำรุ่นรหัสโครงการ 877E “กิโล” รุ่นแรกได้ถูกส่งมอบให้กับกองทัพเรือโปแลนด์ อินเดีย อัลจีเรียและอิหร่าน ในปีค.ศ. 1986  จนถึงปัจจุบันเรือดำน้ำรุ่นนี้มีทั้งหมด 44 ลำประจำการอยู่ในกองทัพเรือรัสเซีย 24 ลำและประจำการอยู่ในกองทัพเรือประเทศต่างๆ 6 ประเทศจำนวน 20 ลำ
(ที่กองทัพเรืออินเดียประเทศเดียว 10 ลำ)

     ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเรือดำน้ำรุ่นนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความมีประสิทธิภาพของการทำงานของเรือ ความทนทานของอุปกรณ์ต่างๆ ความแม่นยำและอานุภาพของอาวุธ ความมีประสิทธิภาพของระบบและการทำงานโดยรวมของเรือ  ความปลอดภัยและความสะดวกสบายของลูกเรือ เมื่อออกปฏิบัติการเป็นเวลานาน

    เรือดำน้ำชั้น “กิโล”ได้ถูกออกแบบไว้เผื่อการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์และอาวุธในอนาคต ด้วยการออกแบบที่คำนึงถึงอายุการใช้งานของเรือที่ยาวนาน โดยสามารถเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ ทั้งอุปกรณ์ไฟฟ้า ระบบสื่อสารและระบบของอาวุธนำวิถีและจรวดได้เมื่อหมดอายุการใช้งานหรือต้องการติดตั้งอาวุธและอุปกรณ์ใหม่ที่ทันสมัยกว่าเดิม ซึ่งเป็นการออกแบบที่ล้ำหน้ากว่าเรือดำน้ำขนาดเดียวกันที่ผลิตในประเทศอื่น จุดเด่นของเรือดำน้ำ 877E “กิโล”  นอกจากที่
ได้กล่าวมาแล้วและที่เหนือกว่าเรือดำน้ำขนาดเดียวกันคือ

  • ชุดขีปนาวุธที่ทันสมัยสามารถทำลายเป้าหมายได้แม่นยำในระยะที่ไกลกว่าเดิม
  • ระบบนำร่องที่ทันสมัย สามารถเก็บบันทึกข้อมูลเป้าหมายให้กับขีปนาวุธที่ยิงจากใต้น้ำได้ในระยะไกล
  • ระบบจัดการข้อมูลอัตโนมัติรุ่นใหม่ รวมทั้งระบบควบคุมขีปนาวุธที่ช่วยให้ข้อมูลประกอบการสั่งการปล่อยขีปนาวุธและตอร์ปิโดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

 

     การนำระบบขีปนาวุธรุ่นใหม่มาใช้ในเรือดำน้ำรุ่นนี้ทำให้การทำลายเป้าหมายแม่นยำ ในระยะไกลและรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งมีผลโดยตรงต่อความปลอดภัยของเรือในกรณีที่ถูกตอบโต้โดยฝ่ายตรงกันข้าม อีกทั้งช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการปฏิบัติการใกล้ฝั่งอีกด้วย คุณสมบัติข้อนี้ของ 877E ได้ถูกกล่าวถึงโดยเสนาธิการทหารเรือไทยท่านหนึ่งว่า “รัสเซียมี เรือดำน้ำ ดีเซล-ไฟฟ้า ชั้นกิโล (Kilo class) ซึ่งเป็นเรือดำน้ำ ที่มีเสียงเงียบมากซึ่งยากแก่การตรวจจับ จนชาติตะวันตกให้สมญานามว่า หลุมดำแห่งมหาสมุทร “A Black Hole in the Ocean”. และมีระบบโซน่าตรวจการณ์ (Highly-sensitive passive sonar)ได้ไกลกว่า เรือดำน้ำของชาติตะวันตก ประกอบในการต่อสู้ประลองยุทธทางทะเล ของ ทร.อินเดีย เรือดำน้ำ ดีเซล-ไฟฟ้า ชั้นกิโล ที่มีระบบตรวจจับที่ไกลกว่า ของอินเดีย สามารถใช้โซน่าประจำเรือตรวจจับ เรือดำน้ำ ดีเซล-ไฟฟ้า แบบ 209 (TYPE 209) ของอินเดีย ที่ผลิตจากเยอรมัน แล้วยิงตอร์ปิโดทำลายเรือดำน้ำ ดีเซล-ไฟฟ้า แบบ 209 (TYPE 209) ได้เสียก่อนที่ เรือดำน้ำ ดีเซล-ไฟฟ้า แบบ 209 (TYPE 209) จะตรวจพบ เรือดำน้ำ ดีเซล-ไฟฟ้า ชั้นกิโล เสียอีก”

    ปี ค.ศ. 2000 ที่อู่ต่อเรือ "Admiralteiskiy verfi "(เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก), เรือดำน้ำรุ่น  877EKM ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้กับขีปนาวุธ  "Club-S" โดยติดตั้งฐานยิงไว้ที่ส่วนหัวของลำเรือ หลังจากได้ทดสอบประสิทธิภาพจนเป็นที่มั่นใจแล้วว่าเป็นเรือดำน้ำที่มีอานุภาพเหนือกว่ารุ่นเดียวกันที่ผลิตในต่างประเทศ (ในขณะที่ราคาอาจจะถูกกว่าหลายล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)จึงได้ผลิตและส่งมอบให้กองทัพเรือของประเทศจีนและอินเดียที่สั่งจองไว้

คุณสมบัติเฉพาะตัวของขีปนาวุธรุ่น "Club-S" ของรัสเซียคือสามารถยิงจากใต้น้ำไปทำลายเป้าหมายทั้งที่เป็นเรืออยู่บนผิวน้ำและเป้าหมายบนบกได้อย่างแม่นยำ ซึ่งถือว่าเป็นเขี้ยวเล็บที่สำคัญของเรือดำน้ำรุ่นใหม่ของรัสเซีย

 

 

ข้อมูลเฉพาะ เรือดำน้ำชั้นกิโล 877EKM 

ท่อยิงตอร์ปิโด

6

 

อาวุธ: ขีปนาวุธ 4, ตอร์ปิโด18, ทุ่นระเบิด 24

ขนาดท่อตอร์ปิโด 533 (ม.ม.)

4/18/24

533

 

ระวางขับน้ำ(ตัน)

2300

ขนาดของเรือ:

ยาว(เมตร)

72,6

กว้าง(เมตร)

9,9

ความเร็วเมื่อดำน้ำ(น๊อต)

17

พิสัยปฏิบัติการ(ไมล์) ในความเร็ว 7ไมล์ต่อชั่วโมงมีเชื้อเพลิงสำรองเต็มอัตรา

6000

พิสัยปฏิบัติการปกติ(ไมล์)

400

ระดับความลึก(เมตร)

300

จำนวนวันปฏิบัติการ(วัน)

45

ลูกเรือประจำการ (นาย)

52

 

 เรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้า     รหัสโครงการ 636 (Project 636) 

     เรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้ารุ่น 636 เป็นเรือดำน้ำที่พัฒนามาจากรุ่น 877EKM.

     ในการออกแบบเรือดำน้ำรุ่น 636 ได้มีการรวบรวมข้อมูลการใช้งานของเรือรุ่นก่อนๆ ทั้งรุ่น 641, 641Kและรุ่น 877EMKที่ยังปฏิบัติการอยู่ในภูมิภาคต่างๆทั่วโลก มาศึกษาโดยละเอียดเพื่อพัฒนาให้มีสมรรถนะสูงยิ่งขึ้น สำนักงานออกแบบกลาง
 “รูบิน”(“Rubin”)ได้ทำหน้าที่ออกแบบและพัฒนาเรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้ารุ่น 636
ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นกว่าเรือดำน้ำรุ่น 877EMKในหลายด้าน เช่น

 

  • เครื่องกำเนิดไฟฟ้าเชื้อเพลิงดีเซลที่มีสมรรถนะเพิ่มขึ้น
  • ความเร็วของเรือเพิ่มขึ้น
  • พิสัยปฏิบัติการไกลยิ่งขึ้น
  • การขับเคลื่อนใต้น้ำมีเสียงเบากว่าเดิม

     นอกจากนั้นสมรรถนะทางการรบของเรือดำน้ำรุ่น 636 ยังสูงกว่ารุ่น 877EMK จากการพัฒนาระบบขีปนาวุธนำวิถี "Club-S"
ที่ได้ติดตั้งอุปกรณ์เรดิโออิเล็คโทรนิค(radio-electronic equipment)รุ่นล่าสุดเข้าไปในขีปนาวุธทำให้ประสิทธิภาพที่สูงอยู่แล้วกลายเป็นยอดขีปนาวุธในหมู่ขีปนาวุธขนาดเดียวกัน

     การลดเสียงในการขับเคลื่อนของเรือรุ่น 636 เมื่อเทียบกับรุ่น 877 EMK ที่จัดว่าเสียงเบาที่สุดในเรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้าของโลกแล้ว ยังสามารถลดเสียงลงได้อีกมาก ทำให้เรือของฝ่ายตรงกันข้ามไม่สามารถจับความเคลื่อนไหวได้ ในขณะที่เรือรุ่น 636 สามารถจับตำแหน่งเรือของฝ่ายตรงข้ามและโจมตีก่อนในระยะไกลด้วยจรวดนำวิถี อีกทั้งสามารถหลบเลี่ยงจากเรือของฝ่ายตรงข้ามก่อนที่จะถูกตรวจพบ

     ในขณะเดียวกัน ระบบระบายอากาศและปรับอากาศของเรือรุ่น 636 นี้ยังได้พัฒนาขึ้นเพื่อให้เรือสามารถปฏิบัติการได้ในทุกมหาสมุทรของโลก ให้ความสะดวกสบายแก่ลูกเรือตลอดระยะเวลาปฏิบัติการ

โครงสร้างภายในของเรือรุ่น 636

 

ข้อมูลเฉพาะ เรือดำน้ำรุ่น 636

ท่อยิงตอร์ปิโด

6

อาวุธ: ขีปนาวุธ 4, ตอร์ปิโด18, ทุ่นระเบิด 24

ขนาดท่อตอร์ปิโด 533 (ม.ม.)

4*/18/24

533

 

ระวางขับน้ำ(ตัน)

2350

ขนาดของเรือ:

ยาว(เมตร)

73,8

กว้าง(เมตร)

9,9

ความเร็วเมื่อดำน้ำ(น๊อต)

20

พิสัยปฏิบัติการ(ไมล์) ในความเร็ว 7ไมล์ต่อชั่วโมงมีเชื้อเพลิงสำรองเต็มอัตรา

7500

พิสัยปฏิบัติการปกติ(ไมล์)

400

ระดับความลึก(เมตร)

300

จำนวนวันปฏิบัติการ(วัน)

45

ลูกเรือประจำการ (นาย)

52

* สามารถเพิ่มขีปนาวุธได้

  เรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้า ชั้น “อามูร์ 1650” และ “อามูร์ 950(“Amur 1650”, “Amur 950”) 

     จากรากฐานทางเทคโนโลยีขั้นสูงสุดและประสบการณ์การใช้งานที่ยาวนานของกองทัพเรือรัสเซียและกองทัพเรือประเทศต่างๆทั่วโลกที่ได้นำเรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้าของรัสเซียเข้าประจำการ ทั้งรุ่น 613 “วิสกี”  รุ่น 611 “ซูลู” รุ่น 641 “ฟ็อกทรอท”  รุ่น 641B “แทงโก” และเรือดำน้ำรุ่นที่สาม 877 “กิโล” สำนักงานออกแบบกลาง “รูบิน”ได้ใช้ประสบการณ์ดังกล่าวออกแบบและพัฒนาเรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้ารุ่นที่สี่ เรียกว่าชั้น “อามูร์” ซึ่งประกอบด้วยเรือดำน้ำหลายรุ่น โดยมีเลขรหัสเป็นขนาดของระวางขับน้ำ ที่จะกล่าวถึงในที่นี้ได้แก่ “อามูร์ 950” ซึ่งมีระวางขับน้ำ 950ตัน และ “อามูร์ 1650” ที่มีระวางขับน้ำ 1650ตัน 

นอกจากการได้รวบรวมเอาจุดเด่นและสุดยอดเทคโนโลยีของเรือดำน้ำรุ่นก่อนไว้ทั้งหมดแล้ว เรือดำนำชั้น “อามูร์” ยังได้นำเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดมาติดตั้งในเรือด้วย กล่าวคือ  สามารถยิงขีปนาวุธจากใต้น้ำไปยังทุกเป้าหมายอย่างแม่นยำ เสียงของการเดินเรือเบากว่าเสียงของเรือชั้น “กิโล”ที่จัดว่าเป็นเรือดำน้ำที่เสียงเบาที่สุดในโลกมาก ส่วนอาวุธประจำเรือเป็นระบบเรดิโออิเลคโทรนิคซึ่งเทคโนโลยีที่ใหม่ล่าสุดของโลก เรือดำน้ำชั้นนี้สามารถติดตั้งชุดแรงขับด้วยพลังงานความร้อน(MESMA-Module d’Energie Sous-Marin Autonome) ซึ่งทำให้เรือสามารถดำน้ำได้นานขึ้นถึง 6 วันโดยไม่ต้องโผล่ขึ้นมารับอากาศและวันปฏิบัติการจะเพิ่มขึ้นประมาณ 10 วัน(น้ำหนักเรือจะเพิ่มขึ้น 305 ตัน เรือต้องยาวกว่าปกติ 8.3 เมตร ราคาเรือที่ติดตั้งระบบนี้จะเพิ่มขึ้นประมาณ 95 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)การติดตั้งชุดแรงขับด้วยพลังงานความร้อน สามารถติดตั้งได้ทั้งในเรือที่ต่อใหม่ เรือที่เข้าซ่อมบำรุง

เรือดำนำชั้น “อามูร์”สามารถปฏิบัติการได้ในทุกน่านน้ำ ทุกมหาสมุทรของโลก ทุกสภาพอากาศทั้งเขตน้ำลึกและน้ำตื้น ยกเว้นเขตขั้วโลกที่ทะเลมีพื้นผิวเป็นน้ำแข็ง

ผู้สั่งจองเรือสามารถเลือกติดตั้งอาวุธและอุปกรณ์ประจำเรือได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นอาวุธและอุปกรณ์ของรัสเซีย ของผู้สั่งจองหรือของประเทศอื่นก็ได้

โครงสร้างภายในของเรือชั้น อามูร์ 1650”  

ห้องบังคับการของเรือชั้น อามูร์ 1650”  

     ลักษณะพิเศษของเรือดำน้ำชั้น“อามูร์ 950” คือการติดตั้งฐานยิงขีปนาวุธแนวตั้งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการยิงให้เร็วและถี่ยิ่งขึ้น อาวุธประจำเรือ“อามูร์ 950”ประกอบด้วย

  • 10 ฐานยิงขีปนาวุธแนวตั้ง ที่ประกอบด้วยขีปนาวุธทำลายเป้าหมายที่เป็นเรือ  3М-54E1 และขีปนาวุธทำลายเป้าหมายที่อยู่บนบก 3М-14E; ฐานยิงขีปนาวุธใช้ได้กับขีปนาวุธหลายรุ่น
  • 4 ท่อตอร์ปิโดและตอร์ปิโดสำหรับการปฏิบัติการที่หลากหลาย (รวมทั้งตอร์ปิโดสำรอง
    สองลูก) ซึ่งสามารถใช้ทำลายเรือเป้าหมายใต้น้ำและโจมตีเรือเหนือน้ำระยะใกล้  

    เรือดำน้ำชั้น“อามูร์ 950” สามารถยิงขีปนาวุธไปทำลายเป้าหมายได้ถึง  10 ลูกในเวลาไม่ถึง 2 นาที  ตัวเรือได้ติดตั้งระบบตรวจจับเป้าหมายเชื่อมโยงกับระบบยิงขีปนาวุธ ทำให้การโจมตีเป้าหมายระหว่างการลาดตระเวนปฏิบัติได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ    

เรือดำน้ำชั้น “อามูร์”ได้ติดตั้งระบบอาวุธที่ทันสมัยและออกแบบโครงสร้างภายในที่ทำให้ลูกเรือมีความสะดวกสบาย ทั้งลำเรือได้นำเอาเทคโนโลยีที่ดีที่สุดของเรือดำน้ำในยุคนี้มารวมเข้าด้วยกัน ดังนั้นเรือดำน้ำชั้น“อามูร์” จึงเป็นเรือดำน้ำพลังดีเซล-ไฟฟ้าที่ดีที่สุดในปัจจุบัน

 

โครงสร้างภายในของเรือชั้น อามูร์ 950”  

ห้องบังคับการของเรือชั้น อามูร์ 950”  

ข้อมูลเฉพาะ ของเรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้ารุ่น

อามูร์ 1650

อามูร์ 950

ท่อยิงตอร์ปิโด

6

4

ฐานยิงขีปนาวุธ

-

10

ขีปนาวุธ , ตอร์ปิโด

ขนาดท่อตอร์ปิโด 533 (ม.ม.)

18 (533)

16 (533)

ระวางขับน้ำ(ตัน)

1765

1150

ขนาดของเรือ

ยาว(เมตร)

66,8

58.8

ยาว(เมตร)

7,1

5,65

ความเร็วเมื่อดำน้ำ(น๊อต)

21

20

พิสัยปฏิบัติการ(ไมล์)

650

350

พิสัยปฏิบัติการ(ไมล์) ในความเร็ว 7ไมล์ต่อชั่วโมงมีเชื้อเพลิงสำรองเต็มอัตรา

6000

3000

ระดับความลึก(เมตร)

300

300

จำนวนวันปฏิบัติการ(วัน)

45

30

ลูกเรือประจำการ (นาย)

35

18

 

  

 

แปลและเรียบเรียงโดย : “พลเรือน”





ความคิดเห็นที่ 1


อยากได้ อามูร์ 1650 เพราะจะได้ลาดตะเวนไกลไกลได้ ขอสัก 6 ( จะได้ไม่น้อยหน้าเพื่อนบ้าน ) อ่าวไทย 4 อันดามัน 2   แต่ขอสักที อันดามัน 1 อ่าวไทย 1 ยังดีกว่าไม่มี






โดยคุณ gun เมื่อวันที่ 10/10/2011 00:27:06


ความคิดเห็นที่ 2


เรือทุกแบบ ผู้ผลิตก็บอกว่าดีที่สุดทั้งนั้น อยู่ที่ว่าเราจะเชื่อหรือไม่ เหมือนรถยนต์ผู้ผลิต ผู้ขายต่างก็บอกว่าของเขาดีที่สุด แต่ในความเป็นจริงนั้นดีที่สุดคงไม่มี คงมีแต่คุ้มค่า บำรุงรักษาต่ำ และเงื่อนไข ที่สำคัญ คือเรือดำน้ำที่พร้อมรบที่สุดต่างหาก คือเรือที่ดีที่สุด อีกทั้งในเชิงลึกหรือข้อบกพร่องที่ด้อยกว่าแบบอื่น ผู้ขายคงไม่มีใครออกมากล่าวถึง นอกเสียจากว่าผู้ที่ทำโครงการต้องดำเนินการตรวจสอบข้อมูลของเรือว่ามีลักษณะคุณสมบัติอย่างไร อย่างเช่นเดรือดำน้ำ เรือ A-26 สวีเดน เขาก็กล่าวว่าเรือรุ่นนี้ทันสมัยและดีที่สุด เรือดำน้ำ U-212/214 ของเยอรมันนั้นก็ดีที่สุดระบบทันสมัย เรือชั้น อาเมอร์ ก็บอกว่าดีและทันสมัยที่สุด มีระบบอาวุธที่ยอดเยี่ยม แต่ยังไม่มีแม้แต่เรือจริงที่จะมาพิสูจน์ว่ามีนดีที่สุด นอกจากเรือชั้น กิโล ที่บอกว่าดี เคยมีการตรวจหาเรือฝ่ายตรงข้ามก่อน แต่เรือแบบอื่นก็เคยตรวจเจอเรือฝ่ายตรงข้ามก่อนเช่นกัน แม้แต่เรือ U-209 ของเกาหลีใต้ก็เคยประสบความสำเร็จในการทำลายเรือดำน้ำฝ่ายตรงข้ามในการฝึกร่วมเสียด้วยซ้ำไปอีกทั้งของดีที่สุดถ้าผู้ใช้ไม่ชำนาญ ใช้ไม่เป็น หรือว่าดีที่สุดแต่จัดหามาไม่ครบที่สุดหรือซ่อมบำรุงรักษาไม่ดีก็ไม่ได้ดีที่สุดครับ ไม่ว่าจะเรือใหม่เรือเก่าปัญหาหลักคือต้องใช้เป็น ใช้ชำนาญและบำรุงรักษาให้ได้ตามวงรอบของ PM นั่นอย่างไร เรือจำสมบุรณ์พร้อมรบที่สุด

โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 10/10/2011 02:57:02


ความคิดเห็นที่ 3


เรือกับประสบการณ์ของคนขับเรือภูมิประเทศใต้น้ำและความชำนาญ...อะไรก็เกิดขึ้นได้..

ถึงเรือจะเก่ากว่าแต่จับเป้าได้ก่อน...ใช่คำว่าประสบการณ์หรือไม่...

โดยคุณ tks เมื่อวันที่ 10/10/2011 06:55:01


ความคิดเห็นที่ 4


ตัวนี้ดีสุด เงียบมาก ตอนนี้ยิ่งเงียบสนิทเลย หายไปไหนก็ไม่รู้ แต่ฟังจาก รมต.กลาโหมคนใหม่ ยังมีหวังอยู่

ตอนนี้สกอเปี้ยน กับ กิโลแถวบ้านเรามัน เหงาแล้วมันคงอยากมีเพื่อน





โดยคุณ general เมื่อวันที่ 10/10/2011 09:01:03


ความคิดเห็นที่ 5


เรือดำน้ำอีกลำที่น่าสนใจครับ

Andrasta

Excellence in coastal waters

Specifically optimized to operate in littoral waters, a theater of major importance today, the Andrasta-class submarine nevertheless is still a formidable adversary in deep waters.
Its high commonality with the Scorpène-class submarine makes it a modern, risk-free design.

Mission

A coherent product
Capable of carrying out most of the missions traditionally entrusted to conventional submarines, Andrasta deters any potential aggressors from operating in the coastal waters under its surveillance.
This class of submarine proves to be particularly suited to carrying out special operations or information-gathering assignments, missions of vital importance even in times of peace.

Its new-generation combat system, and its ability to operate heavyweight weapon systems such as torpedoes or missiles, make it a formidable weapon in its own right.
Benefiting from the Scorpène class proven solutions, the coherence of the architectural choices with the missions entrusted to it make it a product offering a reduced cost of acquisition and ownership.

Features

Designed for all types of navies – irrespective of whether they want to develop a submarine capacity or reinforce existing resources with a product of unrivaled quality in littoral operations – the Andrasta creates a new category in the panorama of conventional submarines.

Length: 50 m
Surface displacement: 900 metric tons
Speed when submerged: > 15 knots
Submerged endurance: 5 days
Depth of immersion: > 200 m
Operational distance: > 3000 nautical miles
Crew: 21 members

แต่เสียที่

๑ ยังไม่มีใครสั่งซื้อ

๒ เป็นของบริษัท DCNS ของฝรั่งเศส

ที่มา

http://fr.wikipedia.org/wiki/Classe_Andrasta

http://en.dcnsgroup.com/naval/products/andrasta/?product-category=ssks

โดยคุณ ThaiPc53 เมื่อวันที่ 10/10/2011 10:16:05


ความคิดเห็นที่ 6


ไม่ว่าชาติไหนบริษัทอะไรที่ผลิตหรือสร้างสิ่งไดสิ่งหนึ่งขึ้นมา ย่อมต้องโฆษณาว่าของตัวเองดีหรือข้อเสียน้อยที่สุด

เพื่อจูงใจลูกค้าให้สนใจในสินค้าของตนเอง แต่ถ้าพูดถึงเรื่อชั้น KILO (อ่านว่า คี่โล่ จะผิดไหมนิ 555) ถ้าเปรีบยเทียบ

ทางด้านเทคโนโลยีการต่อเรือของรัสเซียก็อยู่ในระดับแนวหน้าของโลกเหมือนกัน แต่สิ่งที่กังวลเกียวกับระบบยุธภัณฑ์

ของรัสเซียคือการส่งกำลังบำรุงและระบบปฏิบัติการที่มันอาจคุยกันไม่รู้เรื่องกับที่เรามีอยู่ เมื่อถามว่ามันดีไหม มันก็ดีในเรื่อง

ประสิทธิภาพทางข้อมูลและการทดสอบหรือการฝึก แต่การปฏิบัติการจริงก็ไม่ใช่อยู่ในสภาวะสงคราม

 ในส่วนของเรือดำน้ำแบบ 206A ชื่อเสียงและประสพการณ์ของทางเยอรมันมีมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกคัร้งที่ 2 ถึงแม้

ว่าเรือดำน้ำแบบ 206A อาจไม่เคยรบแต่มันประจำการมาตั้งแต่สมัยสงครามเย็น เคยออกปฏิบัติการจริงในสภาวะสงคราม

เมื่อถามว่าของเก่ากับของใหม่อันไหนดีกว่ากัน ของใหม่ย่อมดีกว่า แต่อย่าลืมว่าของใหม่ถ้าเรายังไม่เคยใช้มันย่อมมีความเสี่ยง

กับความเสียหายความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นถึงขั้นปฏิบัติการไม่ได้ก็อาจเป็นได้ แล้วของเก่าล่ะมันก็เสี่ยงเหมือนกันมิใช่หรือ

เสี่ยงครับแต่ 4 ลำ+2 ฝึกได้ทุกย่างครับ เช่น ซ่อม การปฏิบัติการเกี่ยวกับระบบต่างๆของเรือ ที่สำคัญมันคุยกับระบบที่เรามีอยู่

รู้เรื่องและเราสามารถแกะดูได้ครับ

ความเห็นส่วนตัวบวกกับพอได้อ่านจากข่าวครับ

 

โดยคุณ ALPHA001 เมื่อวันที่ 10/10/2011 10:21:37


ความคิดเห็นที่ 7


ฮี่ ฮี่...ตัวนี้เลยครับรุ่นใหม่ซิงๆล่าสุดเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว  

ข่าวว่ากำลังรอออเดอร์จากคนแถวๆนี้อยู่

อย่างน้อยได้รับออเดอร์ซักลำก็ยังดีกว่าอยู่เปล่าๆ

อย่าลืมว่า "งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข" 

 

 


 

 


 

 

 


โดยคุณ chaisoi3 เมื่อวันที่ 10/10/2011 21:11:07