หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


U206A สกู๊ปหน้า1 เดลินิวส์

โดยคุณ : kabinblade เมื่อวันที่ : 17/10/2011 18:32:25

  ฉบับวันที่7/10/2554 เขียนถึงข้อเสียที่ไม่อนุมัติ ท่านใดทราบ

ช่วยตอบแก้ ข้อเสียที่ผมคัดลอกมา ว่าเท็จจริงเป็นประการใด ดังนี้

1. เป็นเรือดำน้ำเก่า 6 ลำ สุดท้ายของโลก ไม่ผลิตอีกแล้ว การซื้อ

6 ลำ เพราะต้องเอา 2 ลำ เป็นอะไหล่ สำหรับ 4 ลำที่จะเอามาประ

จำการ เปรียบเหมือนซื้อรถเบนซ์ อายุ 36 ปี มาขับและเป็น6คันสุดท้าย

ของโลก อย่างนี้ใครจะซื้อไหม

2. ตอร์ปิโดประจำเรือจะต้องมีอุปกรณ์ตรวจสอบทุกสัปดาห์ ราคาเครื่อง

มือนี้รวมอยู่ในงบ 6900 ล้านกว่าบาทหรือไม่

3.การซ่อมบำรุง ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะตัวเรือเป็น non magnetic

steel ที่ผ่านมาเยอรมันไม่ยอมสอนให้ใครเลย ทีมแพทย์เฉพาะทาง แรงดัน

แรงกด อากาศในเรือดำน้ำ นักจิตบำบัด มีไหม พลประจำเรือ 36 คน 4 ลำ

144 คน จะดูแลกันอย่างไร และถ้าผู้เชี่ยวชาญซ่อมบำรุงเกษียนไปหมดจะ

ทำอย่างไร

4. การซื้อเป็นแบบ G TO G ในงบ 6900 ล้านเป็นงบก่อสร้างกองบัญชาการ

ที่สัตหีบ 1000 ล้าน แต่เป็นค่าซ่อมเรือ 4000 ล้าน โดยส่งซ่อมอู่บริษัทเอกชน

ในเยอรมัน ชื่อ stw ไม่ใช่ซื้อแล้วใช้งานได้เลยและเป็นค่าซื้อเรือ6ลำจริงๆ แค่

1000 ล้านบาทเศษเท่านั้นเอง

5. การเดินทางไปดูงาน ลือกันว่า ล็อคไม่ให้คนที่รู้เรื่องการซ่อมบำรุงอาวุธ รู้เรื่อง

ระบบเครื่อง ได้โผล่ไปร่วมขบวน เพราะเกรงหากไปเห็นจริงจะคัดค้าน ก็ชอบแล้วที่

พล.อ.จงศักดิ์ พานิชกุล ที่ปรักษารมว.กลาโหม ออกมาเบรคหัวทิ่ม





ความคิดเห็นที่ 1


ใจเย็นๆครับ คนเขียนอาจได้ข้อมูลมาด้านเดียวครับ   เข้าใจนักข่าวนิดนึงว่า นักข่าวที่มีความรู้เรื่องข้อมูลยุทธโธปกรณ์ทางทหารจริงๆนะมีอยู่ไม่มากครับ

โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 08/10/2011 03:41:10


ความคิดเห็นที่ 2


http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=23&contentID=167991

ที่มาของบทความนี้ครับ

โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 08/10/2011 03:43:42


ความคิดเห็นที่ 3


อาวุธที่เป็นของมือสองที่มีสมรรถนะสูงและคุ้มค่า เช่น เครื่องบินอัลฟาเจ็ต เครื่องบินเอฟ 16เอดีเอฟ เรือฟริเกต ชุด พุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และ รถถังเอ็ม 60

ทำไมไม่เอามาเสนอ เอาแต่จับผิดครับ สื่อบ้านเรา

โดยคุณ ThaiPc53 เมื่อวันที่ 08/10/2011 05:08:11


ความคิดเห็นที่ 4


ยุคนี้ เป็นยุคโคตรเสื่อมของสื่อมวลชน

 

รับเงินคนบางคนที่อยากหาความชอบธรรมให้ตัวเอง ก็ช่วยประโคมข่าวเท็จแล้ว

 

โดยเฉพาะ นสพ.เล่มนี้

โดยคุณ Kfpz เมื่อวันที่ 08/10/2011 05:58:13


ความคิดเห็นที่ 5


นี้แหละ ครับ ที่ผมพยายามบอกว่า รบ.รออนุมัติ อยู่ แต่ มี คนประเภทนี้ คอยขัด ซึ่ง ข้อมูล ด้าน ลบ ก็มาจาก ลายพรางด้วยกันเอง เพราะงั้น พวกเราก็ คงต้องช่วยกัน สวมบท สือ ให้ ข่าว ด้านดี ของดครงการนะครับ เพื่อ เรือดำน้ำ เพื่อ กองทัพไทย เพื่อ ประเทศเรา ครับ 

ปล.อนุมัติ ปุ๊ป ฝ่ายค้านรอ จัดการ รบ.อยู่ แต่ ผม ก็ถามสายข่าวแล้ว ว่า นายก จะอนุมัติให้ *-*

โดยคุณ SeriesVll เมื่อวันที่ 08/10/2011 10:22:38


ความคิดเห็นที่ 6


พึ่งจะเข้ามาโพสได้ครับ  ต้องสมัครใหม่เลย  ดีใจที่ Admin กู้เว็บ TFC กลับคืนมาได้นะครับ

ขออนุญาตคัดลอกคำชี้แจงจากกองเรือดำน้ำมา ส่วนหนึ่งดังนี้นะครับ

ประเด็นการซ่อมบำรุง Non magnetic steel

          ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าเรือดำน้ำ U 206 โครงสร้างตัวเรือมี 2 ชั้น คือ ตัวเรือชั้นนอก (Outer Hull) เป็นเปลือกนอกหุ้มตัวเรือชั้นใน โดยประกอบกันเป็นรูปทรงเรือดำน้ำตามหลัก Hydrodynamic เพื่อให้เรือดำน้ำสามารถเคลื่อนที่ใต้น้ำได้อย่างคล่องตัว ไม่ได้รับแรงกดดันของน้ำเนื่องจากจะมีน้ำอยู่ทั้งสองด้าน (ด้านในและด้านนอก) ทำให้ไม่มีความแตกต่างของแรงกดดันของน้ำ การประกอบตัวเรือชั้นนอกเป็นรูปทรางเรือดำน้ำใช้วิธีการหยึดด้วยหมุด  ตัวเรือชั้นใน (Inner Hull or Pressure Hull) มีลักษณะเป็นทรงกระบอกหรือท่อน้ำ เป็นส่วนที่รับแรงกดดันของน้ำและต้องรักษาความดันบรรยากาศภายในให้เป็นปกติ การสร้างตัวเรือภายในเป็นสิ่งที่ยากและละเอียดอ่อน ซึ่งจะต้องได้รับการควบคุมเป็นพิเศษ เพราะการบิดเบี้ยวแม้เพียงเล็กน้อยก็จะทำให้สูญเสียความต้านทานแรงกดดันของ น้ำไปมากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ การประกอบ non magnetic steel เป็นตัวเรือภายในต้องใช้การเชื่อม ซึ่งแน่นอนต้องใช้เทคนิคพิเศษ ไม่เหมือนการเชื่อมโลหะธรรมดาทั่วไป และได้รับการตรวจสอบซ้ำแล้วซ้ำอีกด้วยวิธีการที่หลากหลาย เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถรับแรงกดดันของน้ำได้ตามคุณลักษณะ (specification) ของเรือดำน้ำแต่ละรุ่นแต่ละแบบ

          การซ่อมบำรุงตัวเรือภายนอกไม่มีปัญหาอะไร เพียงถอดชิ้นส่วนที่ชำรุดออกและนำชิ้นส่วนใหม่ประกอบเข้าที่เดิมเป็นอัน เรียบร้อย การซ่อมตัวเรือภายในเป็นสิ่งที่ผู้คัดค้านโครงการเป็นกังวลซึ่งต้องขอบคุณใน ความหวังดี แต่การซ่อมทำตัวเรือภายในไม่ว่าจะเป็น Steel or Non magnetic Steel จะต้องใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ตรวจสอบโดยเฉพาะ รวมถึงใช้ช่างผู้ชำนาญการเป็นผู้กำกับดูแล โดยปกติการซ่อมทำตัวเรือภายในจะไม่กระทำทุกวัน ทุกอาทิตย์ ทุกเดือน หรือทุกปี แต่จะได้รับการตรวจสอบการต้านทานแรงดัน (Pressure test) ทุกครั้งการเข้ารับการซ่อมใหญ่ตามวงรอบ (Full Dock Cycle) ซึ่งจะมีการซ่อมทำเมื่อมีชำรุดหรือมีความเสี่ยงต่ออันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ เท่านั้น ตามโครงการจัดหาเรือดำน้ำ U 206A ครั้งนี้ เรือจำนวน 4 ลำ จะได้รับการซ่อมทำใหญ่ตามวงรอบก่อนส่งมอบ ซึ่งจะได้รับการตรวจสอบแรงดัน การผนึกน้ำ และระบบความปลอดภัยอื่นๆ และออกใบรับรองอนุญาตการใช้งาน ( Construction and Safety Equipment Certificate) ไปจนถึงการซ่อมทำใหญ่ตามวงรอบในครั้งต่อไป ข้อดีของ Non magnetic steel คือไม่เป็นสนิมและไม่มีอำนาจแม่เหล็ก ดังนั้นตัวเรือภายในของ U 206A จึงมีโอกาสน้อยที่จะได้รับความเสียหาย ถึงขั้นจะต้องได้รับการซ่อมทำ แต่ถ้ามีความจำเป็นจริง ๆ วิธีที่เหมาะสมที่สุด คือ การนำเรือไปซ่อมยังอู่เรือที่ได้รับรองมาตรฐานการซ่อมทำในภูมิภาค ซึ่งมีความคุ้มค่ามากกว่าการลงทุนทั้งองค์วัตถุและองค์บุคคล เพื่อรองรับการซ่อมทำตัวเรือภายในด้วยตัวเอง ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด คือ การซ่อมคืนสภาพครั้งใหญ่ของเรือดำน้ำ U 209 ของอินโดนีเซีย ซึ่งต้องเดินทางไปรับการซ่อมทำที่อู่ของบริษัท DSME ประเทศเกาหลีใต้ เพราะฉะนั้นจึงสามารถสรุปได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นเรือดำน้ำแบบใด เรือเก่าหรือเรือใหม่ก็ตาม ถ้ามีความจำเป็นต้องได้การซ่อมทำตัวเรือภายใน หนทางที่เหมาะสม เป็นไปได้ และยอมรับปฏิบัติได้ คือการนำเรือไปซ่อมยังอู่ต่อเรือที่ได้รับรองมาตรฐานการซ่อมทำในภูมิภาค     

         

ประเด็นการซ่อมบำรุงตอร์ปิโด

          โดยปกติตอร์ปิโดประกอบด้วย 5 ส่วน หลักได้แก่ ส่วนนำวิถี (Nose) ส่วนหัวรบ (Warhead) ส่วนควบคุม (Electronic Control) ส่วนเชื้อเพลิง (Fuel/Battery) และ ส่วนขับเคลื่อน (Propulsion) ตอร์ปิโดที่มากับโครงการจัดหาเรือดำน้ำ U 206A เป็นตอร์ปิโดแบบ DM2A3 บริเวณส่วนหัว (nose) มีตัวรับสัญญาณเสียง (Conformal array) ระบบนำวิถีแบบ Passive homing ใช้สำหรับต่อต้านเรือผิวน้ำและเรือดำน้ำ หัวรบหนัก 230 กิโลกรัม ส่วนเชื้อเพลิงเป็นแบตเตอรี่ชนิด Silver-Zinc จำนวน 3 ส่วนเรียงต่อกัน สามารถเลือกจำนวนแบตเตอรี่ได้ตามระยะยิงที่ต้องการ การขับเคลื่อนใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ไปใบจักรหมุนกลับทาง 2 ใบ ต้องยอมรับว่าข้อมูลด้านการบำรุงรักษายังรวบรวมได้ไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตาม ตามคุณลักษณะของตอร์ปิโดสามารถวิเคราะห์ความต้องการซ่อมทำในระดับผู้ปฏิบัติ และในระดับคลัง (Inventory) ได้ โดยปกติจะเก็บตอร์ปิโดไว้ที่คลัง เมื่อต้องการใช้จะประกอบตอร์ปิโดตามที่ต้องการเพื่อขนส่งไปบรรจุลงเรือก่อน ออกปฏิบัติการ การซ่อมบำรุงส่วนใหญ่จึงเป็นการซ่อมทำระดับคลัง ส่วนที่ต้องการดูแลเป็นพิเศษคือแบตเตอรี่ ซึ่งจะต้องมีเครื่องบรรจุกระแสไฟฟ้า (Charging) และเครื่องคายปะจุไฟฟ้า (Discharging) สำหรับบำรุงรักษาแบตเตอรี่ให้สามารถเก็บกระแสไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง สุด ส่วนประกอบอื่น ๆ ก็จำเป็นต้องได้รับการบำรุงรักษาและมีเครื่องมือตรวจสอบการทำงานตามระยะเวลา เช่นกัน ก่อนประกอบเพื่อส่งให้เรือใช้งาน ส่วนต่าง ๆ จะได้รับการตรวจสอบก่อนเสมอเพื่อให้แน่ใจว่าตอร์ปิโดพร้อมใช้งาน ซึ่งระบบการทำงานของส่วนนำวิถี ส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และส่วนขับเคลื่อนไม่มีความแตกต่างไปจากตอร์ปิโดเรือผิวน้ำที่กองทัพเรือมี ใช้ในปัจจุบัน จึงไม่เกินขีดความสามารถที่กองทัพเรือจะจัดหาเพิ่มเติมได้ในกรณีที่ไม่รวม เครื่องมือเหล่านี้ในโครงการจัดหาเรือดำน้ำ มิเช่นนั้นกองทัพเรือคงจะไม่จัดหาเรือฟริเกต เรือคอร์เวต และเรือตรวจการณ์ปราบเรือดำน้ำที่มีอาวุธหลักในการปราบเรือดำน้ำคือตอร์ปิโด ขึ้นระวางประจำการ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเมื่อรวบรวมรายละเอียดเรียบร้อยแล้ว จะรีบนำมานำเสนอให้ทุกท่านได้รับทราบในโอกาสแรกต่อไป

 

ประเด็นเรื่องการเตรียมทีมแพทย์เฉพาะทางสำหรับกำลังพลเรือดำน้ำ

          กองทัพเรือโดยกองเรือดำน้ำมีได้นิ่งนอนใจในประเด็นนี้แต่อย่างใด ขอเรียนว่าปัจจุบันกองทัพเรือมีนายแพทย์เวชศาสตร์ใต้น้ำและการบินสำหรับดูแล ผู้ที่ปฏิบัติงานใต้น้ำ ได้แก่ นักทำลายใต้น้ำจู่โจม นักประดาน้ำ และผู้ที่ปฏิบัติงานบนอากาศยาน ได้แก่ นักบิน ช่างเครื่อง รวมถึงผู้ปฏิบัติงานบนอากาศยานทุกนาย การเตรียมทีมแพทย์สำหรับเรือดำน้ำนั้น กองทัพเรือได้เคยส่งนายแพทย์เวชศาสตร์ใต้น้ำไปอบรมหลักสูตรที่ฐานทัพเรือดำ น้ำ เมือง Groton, Connecticut USA และส่งไปร่วมสัมมนาเกี่ยวกับการปฏิบัติการเรือดำน้ำอย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบันกองเรือดำน้ำร่วมกับกรมแพทย์ทหารเรือกำลังดำเนินการจัดทำมาตรฐาน สุขภาพนักดำเรือดำน้ำ เพื่อใช้ในการตรวจสุขภาพร่างกายและจิตใจผู้ที่สมัครคัดเลือกเป็นกำลังพลเรือ ดำน้ำ มั่นใจได้ว่ากำลังพลเรือดำน้ำจะได้รับการดูแลด้านการแพทย์อย่างถูกต้องและ ปลอดภัยตามมาตรฐานสากล

 

ประเด็นคำถามอันแสดงถึงความเขลาทางปัญญาของผู้ให้ข้อมูลและผู้นำข้อมูลมาเผยแพร่ กับคำถามที่ว่า “ทำไมค่าซ่อมเรือถึงมากมายมโหฬารขนาดนี้ ไม่ต้องมี 6 ลำ เอาแค่ลำเดียว แต่เป็นของใหม่ดี ๆ ไปเลย ไม่ดีกว่าหรือ???”

          จาก คำถามที่ทิ้งไว้ให้ผู้อ่านหนังสือพิมพ์ เป็นการเชียร์ออกนอกหน้าให้ซื้อเรือใหม่อย่างแน่นอน ตามที่ทุกท่านทราบดี ราคาเรือดำน้ำใหม่ ตัวเรือเปล่าข้างในไม่มีอะไรเลย ราคาหมื่นสามพันล้านบาท ถ้ารวมอุปกรณ์ระบบอำนวยการรบด้วยราคาเพิ่มขึ้นถึงลำละ 20,000 กว่าพันล้านบาท ซึ่งในสถานการณ์อุทกภัยของประเทศในขณะนี้คงไม่เหมาะเป็นแน่แท้ เสนอไปก็มีแต่คนด่ากันตลอดลำน้ำเจ้าพระยาถึงลำน้ำปิง วัง ยม และน่าน แต่นั้นไม่ใช้ประเด็นสำคัญ แต่ที่สำคัญ คือ ธรรมชาติของกำลังรบทางเรือจำเป้นต้องกลับเข้าฐานทัพรับการส่งกำลังบำรุง พักผ่อนกำลังพล ซ่อมบำรุงตามระยะเวลา ไม่สามารถลอยคออยู่ในทะเลได้ตลอด 365 วันในหนึ่งปี จากการศึกษาวงรอบการซ่อมบำรุงเรือดำน้ำพบว่าถ้าต้องการเรือดำน้ำปฏิบัติการ ในทะเลตลอดระยะเวลา 365 วันในหนึ่งปีอย่างต่อเนื่องจะต้องมีเรือดำน้ำอย่างน้อย 4 ลำ ถ้าให้แน่ใจจริง ๆ ต้องมีจำนวน 6 ลำ จึงจะมีความแน่นอนที่สุด  ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดได้แก่ จำนวนเรือดำน้ำของกองทัพเรือเยอรมัน และกองทัพเรือออสเตรเลีย ด้วยเหตุผลนี้จึงเป็นที่มาของความต้องการเรือดำน้ำ จำนวน 4 ลำ การมีเรือดำน้ำลำเดียวจะทำให้ขีดความสามารถในการป้องปรามหมดไป เนื่องจากฝ่ายตรงข้ามจะทราบเสมอเมื่อเรือดำน้ำออกจากท่า จากภาพถ่ายดาวเทียม หรือสายข่าวที่มีอยู่เต็มไปหมดทุกพื้นที่สำคัญทางทหาร จึงสามารถส่งข่าวเตือนภัยให้กำลังทางเรือของตนทราบ เมื่อเรือดำน้ำกลับเข้าฐานทัพก็จะแจ้งให้กำลังของตนทราบเพื่อให้ปฏิบัติ ภารกิจต่อไปเมื่อปราศจากภัยคุกคามใต้น้ำ เหมือนกับ ”แมววิ่งไล่จับหนู” แต่ถ้ามีเรือดำน้ำอยู่ในพื้นที่ปฏิบัติการตลอดเวลา ใครจะทำอะไรก็ต้องใคร่ครวญไตร่ตรองให้รอบคอบก่อน เพราะคุณสมบัติของเรือดำน้ำที่ว่า Unseen But On Scene

          การอธิบายชี้แจงในครั้งนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้อ่านจะได้รับทราบข้อมูล เกี่ยวกับเรือดำน้ำมากขึ้น และใช้ในการพิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจสนับสนุนหรือคัดค้าน กองทัพเรือ กองเรือดำน้ำ ยอมรับฟังเหตุผลเสมอ แต่ขอให้มีความชัดเจนตรงไปตรงมา แต่ถ้าใช้วิชามารก็รับไม่ได้เช่นกัน

(ที่มา : Submarine Squadron (กองเรือดำน้ำ กองเรือยุทธการ))

โดยคุณ freebird เมื่อวันที่ 08/10/2011 11:26:37


ความคิดเห็นที่ 7


แร๊งงง...........ครับ คุณ charnrit

โดยคุณ tongwarit เมื่อวันที่ 09/10/2011 01:29:49


ความคิดเห็นที่ 8


บอกลูกหลานญาติพี่น้องของเรา เลิกอ่านเดลินิวส์ ครับ

โดยคุณ charnrit เมื่อวันที่ 09/10/2011 00:46:37


ความคิดเห็นที่ 9


การนำเสนอของผู้สื่อข่าวน่าจะต้องมีข้อมูลเปรียบเทียบให้รอบด้านนะครับ ทั้งผลดีและผลเสีย ไม่ใช่เสนอข่าวเพียงด้านเดียว

โดยคุณ khanchai เมื่อวันที่ 09/10/2011 02:50:07


ความคิดเห็นที่ 10


เอ่อ เพราะเหตุว่า มืออาชีพเข้ามาคุม กห

ตามลิ้งเลยครับ เอิ๊ก ๆ U206A เกิดยากถ้าพ่อค้าเขาไม่อยากได้ ....

http://chorchangsinging.blogspot.com/2011/08/blog-post_1649.html

 

โดยคุณ ajaydf เมื่อวันที่ 09/10/2011 03:01:09


ความคิดเห็นที่ 11


เมื่อกี๊พิมพ์ตั้งเยอะ
อยู่ๆหายไปเลย
ขอทดลองส่งโพสต์ก่อน

โดยคุณ boonrat เมื่อวันที่ 10/10/2011 01:38:04


ความคิดเห็นที่ 12


ทุกวันนี้ในอ่าวไทยมีสิ่งกีดขวางเรือดำน้ำมากมาย
น้ำตื้น---เพรียงเยอะมากๆเกาะเต็มท่อทาง สีกันเพรียงสู้ไม่ไหว---แท่นขุดเจาะก๊าซฯนับไม่ถ้วน---อวนลอยอวนลากเบ็ดราว พันใบจักร---สนามทุ่นระเบิด(ของข้าศึก)ในยามสงครามนับพันนับหมื่นลูก(แนวๆกวนตัน มาเลย์--แหลมญวน)---ยามสงครามจะมีตาข่ายดักเรือดำน้ำอีกนะ---เศษขยะพลาสติกถูกดูดไปอุดตัน
เรือดำน้ำจะไม่เปิดactive sonar เดี๋ยวเรือผิวน้ำได้ยิน    ก็ต้องเดินเรือแบบตาบอดผ่านสิ่งกีดขวางเหล่านี้
ไม่ต้องไปเอาเรือ/เฮลิคอปเตอร์ ปราบเรือดำน้ำให้เสียเวลา----เรือดำน้ำก็ติดเองชนเองตายเองอยู่แล้ว
เรือ U206  เดินเรือใต้น้ำแบบ DR นะครับ ไม่มีระบบความเฉื่อย(sins) มี GPS แต่ต้องแล่นเฉียดผิวน้ำเพราะวิทยุความถี่สูงมันเจาะได้แค่ผิวๆทะเล  เรือตังเกมองเห็นพริ้วเรือดำน้ำชัดเลย

ในอ่าวไทยนี่เลิกพูดเรื่องเรือดำน้ำ(แล่น+รบใต้น้ำ)ได้เลย

โดยคุณ boonrat เมื่อวันที่ 10/10/2011 01:55:27


ความคิดเห็นที่ 13


ตามความเห็นของคุณ boorat นั้นก็มีส่วนถูกครับ แต่การเดินเรือดำน้ำนั้นไม่มีการวางแผนหรือทำแผนที่ทะเลบ้างหรือ และเพื่อนบ้านที่จัดหาเรือดำน้ำมานั้นเขาไม่มีปัญหานี้เหรอครับ ถ้าในอ่าวไทยไม่เหมาะกับเรือดำน้ำแบบ U-206A แล้วทะเลบอลติกที่มีความลึกพอกัน เยอรมันเขาใช้เรือกันยังไง ผู้ใช้เรือดำน้ำย่อมจ้องรู้จุดอ่อนจุดแข็งของเรือและจะรู้ว่าใช้จุดแข็งให้ได้เปรียบอย่างไร และปิดจุดอ่อนอย่างไร อีกทั้งตัวเหล็กโครงสร้างเรือนั้นจะเป็นแบบไม่แพร่คลื่นแม่เหล็กที่มีผลต่อทุ่นระเบิดต่ำ อีกทั้งขีดความสามารถในการปล่อยทุ่นระเบิดสงสัยว่ากองทัพเรือไม่มีบ้างเลยเหรอ เรื่องการวางตาข่ายดักเรือดำน้ำนั้นน่าจะอยู่ในเขตพื้นที่ใกล้ฝั่งที่ล่อแหลมในการลักลอบการเข้าโจมตีจากเรือดำน้ำเช่นบรเวณใกล้ฐานทัพเรือหรือพื้นที่แท่นขุดเจาะพลังงานมากกว่าที่จะปล่อยในทะเลลึกมั้งครับ การใช้เรือเดินทางด้วย GPS นั้นเชื่อเรือดำน้ำทุกแบบก็ต้องใช้วิธีเดียวกันต่างกันตรงไหนกับ U206A  ยิ่งเรือที่มีขีดความสามารถในการปล่อยอาวุธนำวิถีโจมตีเรือหรือโจมตีฝั่งที่เราฮิตและชื่นฃอบนักหนานั้นยิ่งแสดงตัวกว่าเพราะต้องปล่อยทุ่นเรดาร์ขึ้นมาเหนือน้ำซึ่งย่อมทำให้ฝ่ายตรงข้ามจับจุดที่อยู่ได้ทันทีเหมือนกัน

ปล.ที่กล่าวมานี้ผมมั่วเอาทั้งนั้นนะครับ ไม่ยืนยันข้อมูลจริงเพราะผมอยากเถียงเท่านั้น

โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 10/10/2011 04:27:27


ความคิดเห็นที่ 14


: boonrat   ครับ  อย่างนี้  ประเทสอื่นเขาก็ไม่ต้องใช้เรือดำน้ำสิครับ ถ้าคิดแบบนั้น  

 

ทะเลนะครับ  ไม่ใช่เจ้าพระยา  จะได้วิ่งชน นู่นนี่ง่าย   

 

แล้วไอ้เพรียงเนี่ยที่ไหนๆมันก็มี   หรือว่าแถวๆ ทางใต้เราไม่มีเขาถึงใช้เรือดำน้ำได้ละ

โดยคุณ end เมื่อวันที่ 10/10/2011 04:29:21


ความคิดเห็นที่ 15


 ผม(เดา)ว่าคุณ boonrat ประชดนะ ........  แต่ถ้าไม่..   ผมว่ามันเป็นข้ออ้าง(ไม่ใช่เหตุผล)ที่ไม่มีสาระเลย

โดยคุณ nui-714 เมื่อวันที่ 10/10/2011 08:18:13


ความคิดเห็นที่ 16


คุณเด็กทะเลครับ
ตอบให้เป็นข้อๆ
****แผนที่ใต้ทะเลที่ทันสมัยจะต้องมีการสำรวจล่วงหน้าครับ แผนที่นี้ไม่เหมือนแผนที่เดินเรือธรรมดานะครับ

ยกตัวอย่างง่ายๆคือต้องกวาดสำรวจอย่างต่อเนื่อง(ด้ย side scan sonar)ไม่ใช่หยั่งน้ำเป็นจุดๆ (เผื่อมีตอหินหรือกองหินสูงๆแคบๆ) ไอ้เจ้า side scan sonar นี่แหละใช้เวลานานมากเลย  ป่านนี้ไม่รู้เสร็จรึยัง  ถ้าไม่เสร็จ--เรือดำน้ำก็ไม่ต้องแล่น(ใต้น้ำ)--นอนฝันรอไปอีกนาน

****ทะเลบอลติกลึกกว่าอ่าวไทยมากครับ--ลองไปค้นใน wiki ดูนะครับ

****ตัวเรือแบบ nonmagnetic ปลอดภัยจากทุ่นระเบิดแม่เหล็กเท่านั้นครับ แต่ทุ่นระเบิดแบบที่เรือพุ่งชน(ลูกกลมๆมีเขารอบตัวแบบที่เห็นในหนังสงคราม)

ราคาถูกกว่าเยอะวางเต็มพื้นที่เป็นพันๆๆหมื่นๆลูก เป็นอาวุธปราบเรือดำน้ำ(ในทะเลน้ำตื้น) เทคโนโลยีโบราณนี้เอาชนะเรือดำน้ำปรมาณูได้นะครับ--ย้ำอีกทีทุ่นระเบิดแบบสงครามโลกครั้งที่ 1 และ2 ราคาถูกๆเอาชนะเรือดำน้ำปรมาณูได้แน่นอนครับ  เดี๋ยวจะมัวคิดแต่ hi-tech  และทุ่นระเบิดที่กล่าวถึงนี้คืิอทุ่นระเบิดของข้าศึกที่วางปิดอ่าวไทยครับ

****ตาข่ายดักเรือดำน้ำเป็นของง่ายๆพื้นๆราคาถูกๆแต่เป็นอันตรายต่อเรือดำน้ำ--ใบจักรพันอวน--อย่าคิดแต่ hi-tech

****ว่างๆมาต่อ----คุยกันได้นะครับ--ผมจะเล่าเรื่องจริงให้ฟัง

โดยคุณ boonrat เมื่อวันที่ 10/10/2011 09:47:38


ความคิดเห็นที่ 17


ตอบคุณเด็กทะเล----ค่อนะครับ
******เรือดำน้ำอเมริกาและชาติที่รวยๆ เขาใข้ระบบหาตำบลที่เรือใต้น้ำความเฉื่อย(ship  inertia navigation system--sins--ราคาแพง)แต่ U206 เดินเรือแบบ DRครับ กะกะประมาณตำแหน่งเรือโดยใช้เข็มและความเร็ว---สรุปว่าอุปกรณ์เดินเรือไม่เหมือนกันนะครับ

****การยิงอาวุธปล่อยจากใต้น้ำไปทำลายเรือผิวน้ำนั้นดูเท่ดีครับ---แต่ความเป็นจริงคือการตรวจสอบว่าเรือนั้นเป็นข้าศึกรึเปล่านั้นแหละยากยิ่งเลยล่ะ--ลองคิดดูเป้าอยู่ห่างซัก ๑๕ กิโล เรือดำน้ำได้ยินแต่เสียงใบจักร--จะต้องมีบัญชีบันทึกเสียงใบจักรเรือทั้งโลกมาเปรียบเทียบ+ การข่าวกรอง--เห็นมั้ยว่ามันยาก
****การซื้ออาวุธไม่ใช่ซื้อของเล่นให้ครบ Collection
****ว่างๆมาต่อครับ

โดยคุณ boonrat เมื่อวันที่ 10/10/2011 10:05:32


ความคิดเห็นที่ 18


ตอบคุณเด็กทะเล---ต่อ
ที่ว่ามั่วเอาทั้งนั้น---ต่อไปจะได้เข้าใจมากขึ้นครับ

โดยคุณ boonrat เมื่อวันที่ 10/10/2011 10:08:41


ความคิดเห็นที่ 19


ตอบคุณ end ครับ

****ประเทศที่เขามีเรือดำน้ำเขาก็คิดแบบผมแล้วเตรียมการให้พร้อม--ไม่ใช่แค่ซื้อเรือครับ

****ทะเลไม่ใช่ เจ้าพระยา---ใช่ครับแต่ในสงครามหากพลาดชนวัตถุใต้น้ำ ก็ถึงตาย  โดยเฉพาะทุ่นระเบิด
****เพรียงที่ไหนก็มี-----จะจอดเรือหนีเพรียง    1 ทำแอ่งน้ำจืดจอดเรือ      2 ยกเรือขึ้นบก     3 สีกันเพรียงแบบสุดยอด
        ทะเล น้ำอุ่นจะมีเพรียงมากกว่าทะเลน้ำเย็น และอ่าวไทยปัจจุบัน มีการทิ้งขยะอาหารมาก ใกล้ๆหมู่บ้านชาวประมง อาจเรียก  ได้ว่า สวรรค์ของเพรียง มีการทำวิจัย แล้วครับ  แต่มีบางคนเขาไม่บอกคุณ
****เศษถุงพลาสติกก็ไม่ใช่แค่เรื่องตลกนะครับ เรือรบอเมริกาเจอปัญหามาแล้วแก้ไขแล้ว เพราะอุดตันระบบระบายความร้อน u206 แก้ไขรึยัง

****ทางใต้เรามีเรือดำน้ำก็เพราะเขามีเงินแก้ปัญหาทั้งหมด(ที่ผมบอกมา)ระยะยาวด้วย

โดยคุณ boonrat เมื่อวันที่ 10/10/2011 10:27:44


ความคิดเห็นที่ 20


เดี๋ยวนี้สื่อเขียนข่าวไม่ค่อยหาข้อมูล  ทั้งที่ยุคนี้มันก็ไม่ได้หายากอะไร ถ้าจะเขียนให้มันทันเส้นตาย แบบไม่มีเวลาหาข้อมูล ก็อย่าเขียนดีกว่า ถ้าเขียนเป็น กระทู้ คอลัม ในเน็ตนี่จะไม่ว่าอะไรเลยนี่หนังสือพิมพ์ หน่วยงานของไทยก็มีอยู่ กองเรือดำน้ำ เค้าศึกษาแล้ว ไม่งั้นไม่ซื้อหรอก เพราะไม่ใช่ซื้อ rc subamrine แล้วเรื่องเพรียง เรื่องอ่าว รู้จักไหมกรมอุทกศาสตร์ทหารเรือ เรือสำรวจทำแผนที่ลำใหม่เพิ่งต่อได้ 2-3 ปีเอง

เทคโนโลยีล่าสุด ทำแบบนี้ประเทศชาติเสียหาย ถ้าถามว่าเป็นอย่างนี้จะอ่านไหมเดลินิว อ่านแน่นอน ในเซเว่น

โดยคุณ general เมื่อวันที่ 10/10/2011 10:47:19


ความคิดเห็นที่ 21


เสริมนิดหนึ่ง กองทัพไทยมีกองเรือดำน้ำเคยมีเรือดำน้ำแล้ว ปัจจุบัน ไม่มีก็ศึกษาข้อมูลอยู่ตลอด มีประชุมเรื่องเรือดำน้ำที่ไหน ไปทุกครั้งทั้งที่ไม่มีเรือดำน้ำ แต่อยากไปศึกษา เมเล,เวียดนามเค้าประชุมกันเราก็ไป

แล้วคิดว่ากองเรือดำน้ำตั้งเพื่ออะไร แล้วหน้าที่คืออะไร ไม่ใช่ตื่นไปทำงาน แล้วคิดว่าทำงานอะไรระ ไม่ใช่นั่งเล่นแน่นอน เพราะกองทัพจ่ายเงินเดือน ไปนั่งเล่นไม่ได้หรอก ไม่มีเรือแต่ศึกษาอยู่ตลอด ครับ



โดยคุณ general เมื่อวันที่ 10/10/2011 10:58:19


ความคิดเห็นที่ 22


ตอบคุณ  nui-714

ที่ว่า--ผม(เดา)ว่าคุณ boonrat ประชดนะ----ผมขอให้ถามเป็นข้อๆและลงลึกทาง Technic สุดๆ ได้เลยครับ
จะตอบแบบที่คุณ nui-714 ไม่เคยรู้จากที่ไหนๆครับ ถ้าต้องการเอกสารอ้างอิงก็ขึ้นกับว่าเรื่องนั้น-ลับ-แค่ไหน

ขอแค่เพียงศึกษาให้จริงจังหน่อย

โดยคุณ boonrat เมื่อวันที่ 10/10/2011 11:30:30


ความคิดเห็นที่ 23


อ่านแล้วอดไม่ได้ครับ ..... เรื่องแพทย์เฉพาะทาง ...... ผมเองเป็น แพทย์เวชศาสตร์ใต้น้ำและเวชศาสตร์การบินครับ ... จบเวชศาสตร์ใต้น้ำ จากออสเตรเลีย ทุนรัฐบาลออสเตรเลียครับ  ทำงานเวชศาสตร์ใต้น้ำให้กองทัพเรอมาจะสิบปีแล้ว ที่ กองเวชศาสตร์ใต้น้ำและการบินก็มีแพทย์อีกตั้งมากมายหลายท่านที่จบจากทั้ง อเมริกาและออสเตรเลีย   กองเวชศาสตร์ใต้น้ำเองก็ตั้งมาตั้งแต่ปี 2528 แต่ ก่อนจะยกฐานะขึ้นเป็นระดับกอง ก็มีแผนกเวชศาสตร์ใต้น้ำมาก่อนหน้านั้น นานแล้ว    เรื่องการเตรียมการเรื่องมาตรฐานสุขภาพ การตรวจสุขภาพจิต เตรียมการมานานแล้วครับ  องค์ความรู้มีพร้อม   รอแต่ อนุมัติจัดซื้อเรือแค่นั้นแหละครับ ............ เสียความรู้สึกกับเดลินิวส์มาก ที่เป็นส่วนหนึ่งของการ ล๊อบบี้ วิ่งเต้น เพื่อล้มล้างการจัดซื้อเรือ U 206  ......... ไม่อยากวิจารณ์อะไรให้มากกว่านี้ เพียงแต่จะมายืนยันว่ากองทัพเรือมี แพทย์และบุคคลาการสาขานี้ มานานมากแล้วครับ  และยังมีกองเวชศาสตร์ใต้น้ำและการบินอยู่ถึงสองแห่ง คือ ที่กรมแพทย์ทหารเรือ ในพื้นที่ รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ และที่ รพ. อาภากรเกียรติวงศ์ ที่สัตหีบ ................. อยาก ให้ข้อมูลและการยืนยันการมีอยู่ของบุคคลาการและหน่วยงานผม เป็นการ ตบหน้าคอลั่มนิสที่เขียนข่าว แบบไร้การหาข้อมูล ไร้ความรู้ และอาจจะไร้จรรยาบรรณ ด้วยครับ

โดยคุณ maverick เมื่อวันที่ 10/10/2011 15:18:07


ความคิดเห็นที่ 24


เรื่องความลึกของอ่าวไทย  เอาแค่ที่ผมมีข้อมูล นะครับ จากประสบการณ์ ที่เป็น ดำน้ำแบบ Scuba diver เป็นกีฬา และทำงานกับนักประดาน้ำทั้งเอกชนและทหาร มาหลายปี   เอาแค่ ร่องน้ำบริเวณเกาะจวง กับเกาะโรงโขน ที่เรือสุธาทิพย์ จมอยู่ ตัวเรือจมอยู่ที่ระดับ 28 -29 เมตร แต่ไม่ใช่จุดที่ลึกที่สุดของบริเวณนั้นครับ  เมื่อครั้งที่มีนักดำน้ำสูญหายไปในบริเวณนั้น มีนักดำน้ำลงไปค้นหา และพบศพนักดำน้ำที่ระดับความลึก 40 เมตร ซึ่งก็ยังไม่ใช่จุดที่ลึกที่สุดอีกอยู่ดี เพราะ ใกล้ๆกับบริเวณนั้น ก็จะมีจุดที่นักดำน้ำแบบ Tecnical diver ใช้เป็นที่ดำน้ำในระดับ 50-60 เมตร ........ อีกจุดนึงที่อ้างอิงได้คือบริเวณเกาะเต่า  มีนักดำน้ำเยอรมัน ดำน้ำไปสำรวจซากเรือจมที่ระดับ 50 เมตร และเสียชวิตอยู่ในตัวเรือ ไม่สามารถเอาศพออกมาได้และทางการเยอรมันได้ร้องขอให้ประดาน้ำของ สพ.ทร. ไปกู้ศพมาให้ ปัจจุบัน จะสี่ปีแล้ว ยังกู้ศพออกมาไม่ได้เลย ... ซึ่งจุดนั้นก็ไม่ใช่จุดที่ลึกที่สุดของทะเลบริเวณเกาะเต่าเช่นกัน ................ จริงอยู่ครับ อ่าวไทยตอนในที่ใกล้ปากแม่น้ำมันอาจจะตื้น แต่ แค่แสมสาร ที่ห่างฝั่งไม่เท่าไหร่ บางจุดก็ลึกระดับ 60เมตร ขึ้นไปแล้วครับ ....... อ่าวไทยไม่ได้ตื้นเท่ากันตลอดทั้งอ่าวครับ หากมันไม่เหมาะที่จะปฏิบัติการด้วยเรือดำน้ำจริง เมื่อหกสิบปีก่อน เรือดำน้ำที่ไทยเคยมี มันก็คงดำกันไม่ไ้ด้ หรอกครับ

โดยคุณ maverick เมื่อวันที่ 10/10/2011 15:45:48


ความคิดเห็นที่ 25


ขอถามคุณ maverick
ที่ว่าองค์ความรู้มีพร้อมน่ะ  พร้อมในระดับไหน 
1 ความรู้ระดับ นักดำน้ำแบบอากาศอัด
2 ความรู้ระดับ นักดำน้ำ mix  gas
3 ความรู้ระดับประดาน้ำ  หนัก(สวมหัวโลหะ)
4 ความรู้ระดับเรือดำน้ำ
พูดง่ายๆก็คือ chamber ของคุณทำงานได้กี่ bar( เท่าที่ฝึกมาชำนาญความลึกขนาดไหน) จะมีองค์ความรู้พร้อมเกินกว่่าขีดความสามารถของ chamber คงไม่ได้นะครับ อ่านตำราน่ะพอได้แต่องค์ความรู้พร้อมต้องมีอุปกรณ์พร้อมด้วย
ถ้าเป็นความลับคุณก็อย่าตอบนะ

โดยคุณ boonrat เมื่อวันที่ 10/10/2011 15:52:03


ความคิดเห็นที่ 26


กว่าจะล็อกอินเข้ามาได้ ตั้งใจเข้ามาเพื่อแสดงความชื่นชม หลายๆท่าน รวมทั้ง ท่านboonrat ท่านgeneral และท่านmaverick ครับที่ต่างฝ่ายต่างนำข้อมูลมากล่าวโต้แย้งกันอย่างมีเหตุผล ผมชอบกระทู้ในลักษณะนี้จังครับ ไม่ใช่ต่อว่ากันอย่างเดียว ขอชื่นชมด้วยใจจริงครับ

โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 10/10/2011 21:40:28


ความคิดเห็นที่ 27


ยอมแพ้เกิ๊บ

โดยคุณ end เมื่อวันที่ 10/10/2011 22:01:09


ความคิดเห็นที่ 28


ถ้าไม่ให้มีเรือดำน้ำ จะให้เอาอะไรมาสู้ล่ะครับ เรือ ทร เองไม่ได้ว่าจะดีไปซะทุกลำ บางลำกว่าจะออกได้ทีก็วุ่นไปหมด สภาพในตัวเรือ ข้างนอกดูดีแต่ข้างในมัน… ถึงแม้ว่าอ่าวไทยลึกไมมากก็จริง ขยะเยอะ ซั้ง เรือประมง อีกเยอะแยะ ขนาดเรือผิวน้ำเองยังระวังให้มาก เวลาเรือเดินต้องสั่งเปลี่ยนเข็มบ่อยๆ แต่ยังไงผมก็ยังอยากให้ประเทศเรามีเรือดำน้ำครับ ตามวิสัยทัศน์ ทร. แต่ยังไงผมก็เชื่อว่าด้วยบุคลิกและนิสัยของทหารเรือ คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการนี้ เค้าทำเพื่อประเทศชาติและราชนาวีอย่างแน่นอน ปล. เป็นความคิดส่วนตัวของผมเอง
โดยคุณ boatNC108 เมื่อวันที่ 10/10/2011 22:06:24


ความคิดเห็นที่ 29


คุณend เรื่องข้อมูลความรู้อาจจะสู้ไม่ได้ แต่คงไม่ใช่ยอมแพ้เลิกเชียร์นะครับ เพราะข้อมูลไม่ได้อยู่เพียงแค่นี้ ข้อดี และเหตุผลที่ดีในการจัดหาเรือดำน้ำเข้าประจำการยังมีอีกมาก ของอย่างนี้มีทั้งผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ในส่วนตัวผมมองว่าข้อดีและความคุ้มค่านั้นมีมากกว่าข้อเสียหรือข้อด้อยครับ เพราะเรือดำน้ำเป็นอาวุธในเชิงจิตวิทยา เหมือนคุณมีข่าวว่าข้างบ้านซื้อปืนมา มือสอง ใช้ได้ใช้เป็นหรือเปล่าไม่รู้ แต่คุณคงไม่กล้าไปมีปัญหากับเขาใช่ไหม และถ้าคุณเป็นทหารเรือ คุณออกปฏิบัติภารกิจ และได้ข่าวว่าฝ่ายตรงข้ามมีเรือดำน้ำ แต่ไม่รู้ว่าจะเอามาใช้กับคุณหรือเปล่า หรือว่าไม่รู้ว่าเรือเขาพร้อมรบหรือเปล่า คุณก็ยังหวั่นใจใช่ไหม

ลุ้นกันต่อครับ อย่างน้อยวันนี้ก็ลุ้นอีกวัน ไม่มีอะไรเสียหาย ถ้ามันเงียบก็ไปลุ้นบอลไทยกันเย็นนี้ต่อ 55555

โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 10/10/2011 22:33:03


ความคิดเห็นที่ 30


การหาข้อมูลอย่างละเอียด  การใช้เหตุผลที่สอดคล้อง  จะนำไปสู่การตัดสินใจที่ถูกต้องทั้งทางทหารและทางธุรกิจครับ
ตอบคุณ boatNC108--------ผมก็อยากให้ทร.มีเรือดำน้ำครับ(อยากมาก)----แต่ไม่ใช่ขณะนี้
น้ำมัน,อะไหล่,ลูกปืน,ลูกจรวด,ของใช้หมดเปลืองฯลฯ, สะสมไว้ฝึกยิง  ไว้ซ่อม  ไว้เดินเครื่อง  เพียงพอหรือยัง ถ้าไม่พอก็ซื้อไว้ซะก่อน(ก่อนเรือดำน้ำ)

โดยคุณ boonrat เมื่อวันที่ 10/10/2011 22:36:25


ความคิดเห็นที่ 31


กระบวนการขัดขวาง มันมีมาตลอดแหล่ะครับ...ในเรื่องความจำเป็น มันมีพอ ๆ กับเรื่องอื่น ๆ ที่ ทร. กำลังจัดหา...ที่มันล่าช้า และงบประมาณกระจุกตัว ต้องมาจัดหาอาวุธพร้อม ๆ กัน หลาย ๆ รายการ ก็เพราะเรื่องที่ไม่ใช่หน้าที่ของทหาร แล้วไปยุ่งให้มันวุ่นวาย...ถ้าปี 2549 ยังเป็นปกติ...แผนพัฒนากองทัพในปีนี้ มันก็จะเข้าสู่ปีที่ 5...การจัดหาอาวุธ หรือ งบประมาณเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ มันก็จะทะยอยเฉลี่ยกันมา...ไม่มา กระจุกตัว แย่งงบประมาณกันอยู่ในตอนนี้...

กระทู้เดือน สิงหาคม กับ กันยายน ในเว๊ปนี้ ก็ถูกลบจนสิ้น...


โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 10/10/2011 22:57:20


ความคิดเห็นที่ 32


ตอบคุณ juldas------เห็นภาพของคุณ juldas แล้วน่าชื่่นชมเพราะอย่างน้อยก็มีคนรู้ว่าอ่าวไทยจะถูกปิด  ณ ตรงไหน
แล้วคุณ juldas คิดว่าข้าศึกจะปิดอ่าวไทยตรงนั้นด้วยอาวุธอะไร
ขอคำตอบเรียงตามลำดับอาวุธที่ข้าศึกจะใช้ ก็จะดีครับ
มีข้อมูลมีเหตุมีผล ก็คุยกันสนุกครับ

โดยคุณ boonrat เมื่อวันที่ 10/10/2011 23:08:50


ความคิดเห็นที่ 33


ถ้าไม่ใช่ตอนนี้แล้วเมื่อไหร่ละครับ เรือพร้อมรบจริงๆของ. ทร มีอยู่กี่ลำๆ มันไม่เคยมีเต็ม100% อยู่แล้วครับ แต่ถ้าทำให้เกิดความสมดุลทางทหารและงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัดของ ทร. และมันมีโอกาสที่จะได้มาก็สมควรที่จะมีนะครับผมว่า คุณครูของผม ท่านสอนผมและพูดถึงเรื่องเรือดำน้ำให้ฟัง ท่านเองก็เสียดายเพราะ เยอรมันเคิาจะสร้างให้เราหลายอย่าง หลังคาที่เอาไว้กันเรือดำน้ำไม่ให้ดาวเทียมจับได้ว่าจอดอยู่รึป่าว อะไหล่ให้มาเป็นคลัง ตอร์ปิโดอีก การฝึกกำลังพล มันเป็นอะไรที่คุ้มค่ากับงบประมาณ แต่ถ้าจะให้เอาเรือผิวน้ำไปควานหาเรือดำน้ำก็คงยากที่จะเจอ อาวุธ ปราบ ด. ของชุดเรือจีน มันไม่ได้เรื่องจะให้เอาไปยิงใครเค้าได้ ***ผมก็เคยแค่ฝึกเรือ 2 ชุด แต่ในความเห็นของคนที่เคยสัมผัส และอยากให้ ทร ที่ผมรักมีอะไรดีๆกับเค้าบ้าง ไม่ใช่ให้เหลือเพียงประวัติศาสตร์ว่าเราเคยมีเรือดำน้ำ
โดยคุณ boatNC108 เมื่อวันที่ 10/10/2011 23:18:22


ความคิดเห็นที่ 34


งงครับว่าคุณ boonrat อยากให้กลาโหมหรือกองทัพเรือทำอะไรครับตอนนี้ อยากให้ซื้อเรือดำน้ำหรือไม่อยาก เพราะเห็นตอนแรกสาธยายถึงอุปสรรค์ในการปฏิบัติการในอ่าวไทย และข้อด้อยของ u206 

แต่ตอนหลังบอกว่าอยากให้ไทยมีเรือดำน้ำแต่ก็เป็นกังวลเรื่องงปฯ ที่อาจมีไม่พอและจะไปกระทบความพร้อมรบในด้านอื่นๆ

ผมเข้าใจถูกหรือเปล่าเนี่ย?

เรื่องปิดอ่าว ถ้าข้าศึกเอาเรือดำน้ำมาปิดปากอ่าวแล้วเราจะทำยังไงครับ เอาว่าเรือดำน้ำรุ่นเกาหลีเหนือเนี่ยแหละ? ผมว่าเราคงหากันเหนื่อย ซึ่งถ้าหากเรามืเรือดำน้ำผมว่าคงเหนื่อยน้อยลงเยอะ

โดยคุณ tongwarit เมื่อวันที่ 10/10/2011 23:57:25


ความคิดเห็นที่ 35


สะกดผิด แก้ อุปสรรค์เป็นอุปสรรค

โดยคุณ tongwarit เมื่อวันที่ 10/10/2011 23:58:18


ความคิดเห็นที่ 36


เอ๊ะ หรือว่าคุณ boonrat มาจากกลุ่มขัดขาหรือเปล่า ขำๆ ครับ อย่าถือโทษโกรธเคืองนะครับ :)

โดยคุณ tongwarit เมื่อวันที่ 11/10/2011 00:07:23


ความคิดเห็นที่ 37


ผมก็งงครับตอนแรกเหมือนจะขัดขวางอย่างแรง แต่ไมออกมาแบบนี้ ผลิกโผ
โดยคุณ boatNC108 เมื่อวันที่ 11/10/2011 00:24:15


ความคิดเห็นที่ 38


ตอบคุณ tongwarit  
คุณ tongwarit กล่าวว่า.................เรื่องปิดอ่าว  ถ้าข้าศึกเอาเรือดำน้ำมาปิดปากอ่าวแล้วเราจะทำยังไงครับ
ขอตอบดังนี้............กรุณาไปศึกษาว่าการปิดอ่าวนั้นเขาใช้อาวุธอะไร  มีหลายอย่างต้องเรียงตามลำดับ
ในสงครามโลกที่อังกฤษปิดปากอ่าวทะเลเหนือแล้วเยอรมันแก้ปัญหาอย่างไร
คิดจะซื้อเรือเยอรมันก็ควรศึกษายุทธวิธีของเขาด้วย 
ผมไม่เฉลยตอนนี้นะครับเพราะอยากให้ศึกษากันอย่างละเอียด  ไม่ใช่นึกๆเอาเอง
ขอให้โพสต์อย่างมีข้อมูลเชิงลึกและมีเหตุผล
ผมเชื่อว่าหน่วยเหนือเขามีเหตุผลจึงชลอเรื่องครับ  ผมจะค่อยๆชี้ให้เห็น

โดยคุณ boonrat เมื่อวันที่ 11/10/2011 01:05:47


ความคิดเห็นที่ 39


ตอบคุณ tongwarit
คุณ tongwarit  กล่าวว่า........เอ๊ะหรือว่าคุณ boonrat มาจากกลุ่มขัดขาหรือเปล่า......ฯลฯ
ขอตอบดังนี้.....ข้อมูลTechnic+เหตุผลของผมผิดตรงไหน
ผมไม่กล่าวประชด
สิ่งที่ผมกล่าวคุณเคยรู้จากที่ไหนบ้าง
 ใครปกปิดข้อมูล
 ใครใช้อารมณ์เวลาพูดเรื่องเรือดำน้ำ  ยิ่งใช้อารมณ์เหตุผลก็ยิ่งอ่อน
  ศึกษาให้ลึกซื้งแล้วจะเข้าใจกันว่าความพอดีของเรือดำน้ำอยู่แค่ไหนเมื่อไหร่ 

โดยคุณ boonrat เมื่อวันที่ 11/10/2011 01:24:27


ความคิดเห็นที่ 40


ตามความเห็นผม...ซึ่ง ลักษณะดังกล่าว จะไม่ได้มีแค่ อ่าวไทย มันจะรวมถึงการมีภัยคุกคามทาง ทะเลอันดามัน ด้วยครับ...

 

 


โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 11/10/2011 01:24:51


ความคิดเห็นที่ 41


ตามภาพที่แสดงคือ การค้นหาเป้าหมาย คือ เรือรบผิวน้ำนั้น...ถ้าไม่สามารถปฏิบัติการด้วย อากาศยาน ได้...เรือดำน้ำ ก็คือ ระบบหนึ่งที่จะค้นหา

และถามว่า เรือรบไทย จะวิ่งไปที่ไหนได้บ้าง...ก็ถ้ามีความต้องการปิดอ่าว...มันก็คือ การปิดเส้นทางเดินเรือ นั่นเอง...หรือ เรือรบไทย ต้องคุ้มกัน เรือพาณิชย์ นั่นเอง...

เรือพาณิชย์ มาจากทะเลจีนใต้ หรือ แปซิก หรือ ช่องแคบมะระกา...ลำไหน เข้าอ่าวไทย...ก็คงไม่ยากว่า เรือรบไทย จะมาทางไหน ครับ เพื่อคุ้มครองเส้นทางเดินเรือ....

ดักตามเรือพาณิชย์ ก็น่าจะมาเจอ เรือรบผิวไทย สัญชาติไทย แล้วครับ...โดยระยะเดินทางก็คงไม่ไกลจากกันเท่าไหร่ครับ....

 

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 11/10/2011 01:30:00


ความคิดเห็นที่ 42


ซึ่งการ ค้นหา เรือรบผิวน้ำ สัญชาติไทย เพื่อทำลาย ตามแผ่นภาพข้างต้น...

ถ้าการถูกค้นหามาทางอากาศยาน ก็ยังมี กองทัพอากาศ ที่มีศักยภาพป้องปรามภาระกิจได้...

ถ้าการถูกค้นมาทางผิวน้ำ ก็เป็นภาระกิจปกติของ กองทัพเรือ ที่มีศัภยภาพป้องปรามภาระกิจได้...

แต่ถ้าการถูกค้นหาจากทางใต้น้ำ ปัจจุบัน ยังไม่มีหน่วยงานใดจะป้องปรามการค้นหาได้...

ปัจจุบัน กองท้พเรือ ต้องทราบเป้าหมายก่อน ถึงจะไปค้นหาได้...แต่ไม่สามารถป้องปราม การถูกค้นหาจากใต้น้ำได้....

ซึ่งประเทศรอบบ้าน เข้ามีความสามารถ ค้นหาเรือรบผิวน้ำ จากใต้น้ำ ได้เกือบจะหมดแล้ว...ม้นจึงมีความจำเป็นต้องมีแล้ว...

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 11/10/2011 01:42:55


ความคิดเห็นที่ 43


ซื้อข้าวกล่อง น้ำขวด หอบเสื่อหมอน มารอแล้วครับ
ปล อ่านแล้วสนุกดีครับ 

โดยคุณ InFerNo เมื่อวันที่ 11/10/2011 01:55:15


ความคิดเห็นที่ 44


กร๊อบ แกร๊บ ๆ ! (นั่งเคี้ยวมันฝรั่งทอดปูเสื่อนั่งชม) หนังใหญ่ระดับคุณภาพสองท่านกำลังประชัน ผมถือหาง ป๋าจู นะครับ แต่ยินดีรับฟัง ท่านboonrat

โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 11/10/2011 02:41:45


ความคิดเห็นที่ 45


ความเห็นของคุณ judas เยี่ยมครับ การที่จะควานหาเรือดำน้ำลำนึงเป็นเรื่องที่ยากมาก ถึงจะมีเครื่องsimในการฝึกปราบ ด. มันก็ไม่ช่วยอะไรมาก ตราบใดที่ยังไม่มีของจริงไว้ฝึก ไว้ใช้ เพื่อทำให้กำลังทางเรือสมดุลในภูมิภาค
โดยคุณ boatNC108 เมื่อวันที่ 11/10/2011 03:43:21


ความคิดเห็นที่ 46


เส้นทางที่จะปิดมีความยาวเท่าไหร่ครับ...?

ต้องใช้เรือดำน้ำกี่ลำถึงจะปิดเส้นทางดังกล่าวใด้จริงๆ...?

เส้นทางดังกล่าว เชื่อมต่อกับหลายประเทศและมีเรือพานิชย์หลายประเทศแล่นผ่านประเทศเหล่านั้นจะยืนดูเฉยๆหรืออย่างไร...?

และ...ที่ยกเรื่องการปิดอ่าวขึ้นมา มีความเป็นไปใด้มากเพียงใด...?

มาถึงตรงนี้เปรียบมวยกัน scorpene x2 (next gen)...VS...u-206a x4 (cold war upgrade>>1999) ...?

ถือหางท่าน boonrat มีเหตุผลและข้อมูลที่ดี ขอมานั่งเก็บเกี่ยวความรู้ด้วยอีกคนครับ

ท่านข้างบน ซื้อข้าวกล่องมาแล้ว ผมขอกาแฟ *--*


โดยคุณ fantom เมื่อวันที่ 11/10/2011 03:47:08


ความคิดเห็นที่ 47


   ขอบคุณสำหรับคำถามครับ คุณ boonrat   ผมว่าเป็นคำถามที่ดี ทีเปิดโอกาสให้ผมได้ชี้แจงให้ทราบว่า เรามีความสามารถ ระดับไหนครับ
1 ความรู้ระดับ นักดำน้ำแบบอากาศอัด

     ความรู้เรื่อง การดำน้ำแบบ Compress air  ถือเป็นความรู้พื้นฐาน ที่แพทย์และพยาบาลเวชศาสตร์ใต้น้ำ ต้องมีต้องทราบอยู่แล้วครับ เรื่องพื้นฐานเช่น สรีรวิทยาใต้น้ำ ,ทฤษฏีการลดความกดบรรยากาศ, พยาธิวิทยาการเกิดโรคจากการดำน้ำ , การดูแลรักษาโรคจากการดำน้ำ ฯ  เป็นเรื่องที่บรรจุอยู่ในหลักสูตรแพทย์และพยาบาลเวชศาสตร์ใต้น้ำ และ แพทย์และพยาบาลส่วนใหญ่ของกองเวชศาสตร์ใต้น้ำ ก็จบหลักสูตร SCUBA diving ครับ   ประสบการณ์การตรวจสุขภาพนักดำน้ำทั้งทางทหารและพลเรือน ตลอดจนการให้การรักษาโรคจากการดำน้ำ เราเป็นแหล่งที่มีความพร้อมมากที่สุดในประเทศไทย และยังเป็นแหล่งฝึกอบรมให้แพทย์พยาบาลจากทุกหน่วยงานในประเทศ ( และต่างประเทศในบางครั้ง) ดังนั้นประเด็นนี้ มั่นใจได้ในด้านความรู้และความสามารถครับ


2 ความรู้ระดับ นักดำน้ำ mix  gas

     เรื่อง Mix Gas ปัจจุบัน ทางสพ. ทร ใช้อุปกรณ์ ที่มีความสามารถใช้ อากกาศผสมได้สองรุ่นครับ คือ Inspiration ซึ่งเป็น rebreather แบบ close circuit   กับ  RDN2000 ที่เป็น Semi close circuit ครับ    แต่ ทาง สพ. มักใช้ Nitrox เป็นอากาศผสมในการดำเป็นหลักครับ  อากาศผสมแบบ Tri mix ยังไม่มีการใช้  จะมีทางโบราณคดีใต้น้ำ ศิลปากร ที่ใช้ Trimix ครับ ซึ่งเรามีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ บรรยายและฝึกร่วมกันอยู่เสมอครับ   ตัวผมเองเป็นแพทย์ที่ไปเรียนเรื่องการใช้งานและระบบการทำงานของ RDN2000 พร้อมกับ EOD ที่ไปรับเรือหลวง ทาดินแดงที่อิตาลีครับ   ดังนั้นประเด็นนี้ น่าจะวางใจได้เรื่อง องค์ความรู้นะครับ

      
3 ความรู้ระดับประดาน้ำ  หนัก(สวมหัวโลหะ)

         ในเรื่องการดำแบบ Surface supply ปัจจุบัน สพ.ทร. ใช้อุปกรณ์ดำน้ำ แบบ Superlight 17b MK21 ในการดำแบบ นี้อยู่ครับ  มีกรฝึก อบรมและบรรยายเรื่อง สรีรวิทยาใต้น้ำ การป่วยเจ็บที่อาจจะเกิดได้จากการดำน้ำประเภทนี้อยู่อย่างสม่ำเสมอ   รวมถึง การฝึกการใช้ Hyperbaric chamber แบบ mobile ทำการลดความกดแบบ Surface decompression กันอยู่บ่อยครั้ง  ... มีทีมแพทย์พยาบาลไปร่วมฝึกและ Stand by  ตลอด ... ประเด็นนี้ ก็มีความพร้อมสูงครับ


4 ความรู้ระดับเรือดำน้ำ

    ความรู้เรื่องเวชศาสตร์เรือดำน้ำนั้น ผมเองเคยฝึกอบรมเบื้องต้นจากออสเตรเลียครับ และมีบางท่านไปรับการศึกษามาจากอเมริกา แต่ องค์ความรู้นี้ หลายส่วนเป็นความลับ ที่ประเทศนั้นๆ จะถ่ายทอดให้บางส่วน เว้นแต่จะมีการจัดซื้อเรือจากเค้า เค้าถึงจะอบรมให้เพิ่มเติมครับ   ในส่วนนี้ จึงอาจจะยังไม่เต็มร้อย แต่เมื่อมีการจัดซื้อ คงได้ไปอบรมเพิ่มเติมแน่นอนครับ

 

ในเรื่อง ความสามารถของ Chamber  ความลึกสูงสุดในการรักษา อยู่ที่ 165 ฟุต หรือประมาณ 6 ATA ครับ  ตารางการรักษา US NAVY TABLE 6A ที่เป็นตารางที่ใช้ความลึกมากที่สุด กำหนดไว้ที่ความลึกนี้ ซึ่งเราก็ใช้รักษาอยู่บ่อยครั้ง ไม่มีปัญหาใดๆครับ     ในอนาคตอีกสามปี ทางกรมแพทย์จัดซื้อ Chamber ตัวใหม่ขนาด 3 compartment ที่มีความสามารถในการรักษาและวิจัย และจะเป็นตัวที่ใหญ่ที่สุดในอาเซี่ยน ........ ประสบการณ์การดูแลรักษาและใช้งาน Chamber เราเป็นแหล่งศึกษาอบรม  ที่พร้อมมากที่สุดในประเทศไทย   ดังนั้นก็ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ความพร้อมเรามีสูงครับ



 

โดยคุณ maverick เมื่อวันที่ 11/10/2011 04:33:07


ความคิดเห็นที่ 48


หากมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับ เวชศาสตร์ใต้น้ำ ผมยินดีให้ข้อมูลเพิ่มเติมครับ   ขอบคุณสำหรับคำถามครับผม

โดยคุณ maverick เมื่อวันที่ 11/10/2011 04:34:22


ความคิดเห็นที่ 49


ข้อมูลแน่นเหมือนเดิมครับสำหรับคุณ juldas ติดตามการตอบและการนำเสนอข้อมูลคุณ judas

มาตลอด เรียกได้ว่าคุณภาพคับแก้ว ส่วนตัวแล้วพึ่งเริ่มศึกาเรื่องเรือดำน้ำได้ไม่นานครับ ส่วนท่าน

อื่นก็นำเสนอข้อโต้แย้งต่างๆได้แบบมีเหตุผล นิละครับคือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่แท้จริง ถกด้วยเหตุผล

 

โดยคุณ ALPHA001 เมื่อวันที่ 11/10/2011 04:55:43


ความคิดเห็นที่ 50


อันดับขอขอบคุณ maverick ครับ  ที่ให้ข้อมูลเวชศาสตร์ใต้น้ำ
เพราะเรือ u206 ทำงานถึงความลึกปนะมาณ 200 เมตร
ผมก็เลยห่วงว่าการ rescue ที่ความลึกมากๆเกินกว่าที่เราเคยชืน คือ scuba(ทั่วไป) หรือ mix gas ของเรือล่าทำลายทุ่นระเบิด ลาดหญ้า--ท่าดินแดง
ไม่ได้หมายความว่าลึก200เมตรนะครับ  แต่เอาแค่ 70-80 เมตรแต่เนื่องจากไทยไม่มียานใต้น้ำ rescue กว่าคนจะขึ้นถึงผิวน้ำจนปลอดภัยคงใช้เวลาปรับความกดเป็นชั่วโมงกับขวดอากาศอีกนับไม่ถ้วน  เรือผิวน้ำ rescue ก็คงไม่พ้นเรือล่าทำลายทุ่นระเบิดหรือเรือ ถลาง
ก็ขอให้เตรียมความพร้อมไว้ครับ

โดยคุณ boonrat เมื่อวันที่ 11/10/2011 05:43:02


ความคิดเห็นที่ 51


ต้องขออภัยหลาย ๆ ท่านครับ ว่าผมไม่ได้มีข้อมูลแน่นหนาอะไรครับ...ผมก็ใช้ข้อมูลใน อินเตอร์เนต นำมาประมวลผล หาเหตุและผล ทำให้เห็นว่ามันมีความคุ้มค่า และเพียงพอ สำหรับ Type 260A  วงเงิน 7700 ล้านบาท จึงนำมาเป็นข้อโต้แย้ง...

ซึ่งทหารอาชีพแบบ กองทัพเรือ คงมีความรู้ ความชำนาญ  มากมายและเพียงพอ ในการตัดสินใจจัดหาระบบอาวุธ เช่นเดียวกับ การที่ กลาโหม อนุมัติ จัดซื้อ รถถัง Oplot วงเงิน 7700 ล้านบาท โดยใช้ข้อมูลในกระดาษในการพิจารณา ซึ่งทั้งโลกนี้ มีประเทศผู้ผลิต ประจำการอยู่เพียง 10 คันเท่านั้น เพราะเชื่อมั่นใน กองทัพบก....ดังนั้น ความเชื่อมั่นต่อ กองทัพเรือ มันควรจะไม่แตกต่างกัน...

ขอตอบคำถามครับ

เส้นทางที่จะปิดมีความยาวเท่าไหร่ครับ...?

ยาวเท่าเรือลำหนึ่งจะเดินเรือเข้าอ่าวไทยน่ะครับ (ตามรูปประกอบ)

ต้องใช้เรือดำน้ำกี่ลำถึงจะปิดเส้นทางดังกล่าวใด้จริงๆ...?

ขั้นต่ำสัก 1 ลำ ทำลายเรือพาณิชย์สักลำ ก็คงไม่มีอยากจะเดินเรือเข้ามาเท่าไหร่ครับ เพราะอาณาเขตทำลายมันอยู่แค่ปากอ่าวไทย

เส้นทางดังกล่าว เชื่อมต่อกับหลายประเทศและมีเรือพานิชย์หลายประเทศแล่นผ่านประเทศเหล่านั้นจะยืนดูเฉยๆหรืออย่างไร...?

ไม่อยู่เฉยหรอกครับ...แต่ เราจะ ยืมจมูก คนอื่นหายใจเพื่อมีชีวิตอยู่หรือครับ ?

และ...ที่ยกเรื่องการปิดอ่าวขึ้นมา มีความเป็นไปใด้มากเพียงใด...?

ขอถามกลับบ้างว่า แล้วมีความเป็นไปได้มากเพียงใด ที่จะมีเกิดเหตุการณ์ปิดอ่าวไทย ไม่ว่าด้วยสาเหตุใด ๆ ก็ตาม....มีใครกล้ารับรองไหมครับ

เหตุการณ์ 9 กันยายน ระเบิดใจกลางเมืองสำคัญของ สหรัฐอเมริกา น่าจะพิสูจน์ทฤษฎี ความเป็นมนุษย์ในโลกนี้ได้เพียงพอครับ....


โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 11/10/2011 06:10:52


ความคิดเห็นที่ 52


ขอแก้ไขข้อความคำตอบ ไม่ครบครับ

และ...ที่ยกเรื่องการปิดอ่าวขึ้นมา มีความเป็นไปใด้มากเพียงใด...?

ขอถามกลับบ้างว่า แล้วมีความเป็นไปได้มากเพียงใด ที่จะ ไม่มี เหตุการณ์ปิดอ่าวไทย ไม่ว่าด้วยสาเหตุใด ๆ ก็ตาม....มีใครกล้ารับรองไหมครับ

เหตุการณ์ 9 กันยายน ระเบิดใจกลางเมืองสำคัญของ สหรัฐอเมริกา น่าจะพิสูจน์ทฤษฎี ความเป็นมนุษย์ในโลกนี้ได้เพียงพอครับ....

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 11/10/2011 06:13:37


ความคิดเห็นที่ 53


ความเห็นของคุณjudas ถูกต้องครับ แม้หวังตั้งสงบ. จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ
โดยคุณ boatNC108 เมื่อวันที่ 11/10/2011 06:54:22


ความคิดเห็นที่ 54



จริง จริงผมก็ไม่ได้อยากได้ u 206 หรอก แต่ด้วย ราคาละแค่ พันล้านบาท เรือใหม่ หมื่นล้าน แพงกว่า 10 เท่า และ u 206
ก็สเปคค่อนข้างดี ด้วยขนาด กลางกลาง และเทคโนโลยีที่ ได้รับการปรับปรุงใหม่้

จึงเป็นตัว เลือกที่น่าสนมาก ( u206 a 1) จริงจริงแล้ว เยอรมันเราคือลูกค้าอาวุธขาประจำของเค้า เครื่องยนต์ อุปกรณ์ฝึก
เป้าล่อ เครื่องดำน้ำชนิดพิเศษ และอื่นอื่นอีกเยอะ เค้าบอกว่านี้ใช้ได้นะ เค้าอยากขายให้เราโดยเฉพาะ คนรอคิวอยู่ก็มี เงินแค่ 7700
ล้านบาท สำหรับประเทศไทยนั่น ไม่ใช่เงินก้อนใหญ่อะไรมากมาย แถมได้ตั้ง 6 ใช้ 4 อ่าวไทย 3 อันดามัน 1 อย่าลืมสงครามอินโดจีน
เราแล่นเรือดำน้ำไปท่าเรือเรียม กัมพูชา พอฝรั่งเศลรู้ยกกองเรือกลับ แค่เรือดำน้ำลำเดียว และหลายหลายสงคราม submarine
ก็ได้เป็นที่รู้กันดีว่าเรือพิฆาตก็พิฆาตเถอะจมมาเยอะแล้ว แล้วเรามีดีสุดแค่ ฟิเกต ถึงแม้จะมีจรวด asroc
( anti submarine rocket ) แต่กว่าจะจับเรือดำน้ำได้คงแบ่งตัวเป็น 2 ท่อนแล้ว มันของตายอยู่แล้ว  
ถ้าไปพูดกับอังกฤษเรื่องฝูงหมาป่า ถึงกับสดุ้งเรืออังกฤษโดนจมหลายร้อยลำด้วยเีืรืออู ( u- boot )เดือดร้อนเมกาต้องเข้าช่วย
จึงดีขึ้น แต่ผมเหมือนมีเซ้นว่า 6 ลำนี้ได้แน่แค่นั่งรอเฉยเฉย เอามาดูสเปคกันจะได้ไม่ได้ยินคำพวกนี้อีก ( ซื้อมาทำไมเรือดำน้ำยุค 80 )

 

ผู้สร้าง
Howaldtswerke-Deutsche Werft (HDW) ประเทศเยอรมันี (U15 และ U17)
Nordseewerke (NSWE) ประเทศเยอรมันี (U16, U18, U23 และ U24)

คุณลักษณะ
ระวางขับน้ำบนผิวน้ำ 450 ตัน ขณะดำ 520 ตัน
ความยาว 48.6 ม. ความกว้าง 4.7 ม. กินน้ำลึกขณะวิ่งบนผิวน้ำ 4.3 ม.
ความเร็วสูงสุดที่ผิวน้ำ 10 น็อต ขณะดำ 17 น็อต ขณะโผล่ท่อหายใจ (snorkel) ขึ้นเหนือผิวน้ำ 5 น็อต
รัศมีทำการที่ความเร็วขณะดำ (5 น็อต) 200 ไมล์ ที่ความเร็วขณะโผล่ท่อหายใจขึ้นเหนือผิวน้ำ 4,500 ไมล์
ความลึกสูงสุดขณะดำ 250 ม. ความลึกปฏิบัติการ 150 ม.
ตัวเรือรับแรงกดสร้างจากเหล็กกล้าทนแรงดึงสูงและมีคุณสมบัติไม่เป็นแม่เหล็ก (austenitic)
กำลังพลประจำเรือ 22 นาย

เครื่องจักร
เครื่องจักรใหญ่ดีเซล MTU 12V493 AZ80 GA กำลัง 441 กิโลวัตต์ 2 เครื่อง
เครื่องกำเนิดไฟฟ้า ASEA-Brown-Boveri (ABB) กำลังไฟฟ้า 405 กิโลวัตต์ 2 เครื่อง
มอเตอร์ไฟฟ้าขับเพลาใบจักร Siemens-Schuckert-Werke กำลัง 1,100 กิโลวัตต์
เพลาใบจักร 1 เพลา ใบจักร 7 กลีบ
ความจุถังเชื้อเพลิง 23.5 ตัน
แบตเตอรี่ Hawker Batteri 3 ลูก ลูกละ 92 เซลล์ น้ำหนักรวม 98 ตัน

อาวุธ
ท่อยิงตอร์ปิโด ขนาด 533 มม. 8 ท่อ ที่หัวเรือ สำหรับตอร์ปิโด Atlas DM-2A3 Seehecht ได้ 8 ลูก หรือทุ่นระเบิด Atlas DM-41 16 ลูก
กล่องบรรจุทุ่นระเบิดมัดกับลำตัวเรือภายนอก (mine belt) สำหรับทุ่นระเบิด Atlas DM-41 24 ลูก

อิเล็กทรอนิกส์
เรดาร์ตรวจการณ์พื้นน้ำ/เดินเรือ Thales Calypso II
กล้องเพอริสโคป Carl Zeiss Optronics SERO 12 ประกอบด้วย
- กล้องเพอริสโคปตรวจการณ์ Carl Zeiss Optronics NavS
- กล้องเพอริสโคปควบคุมการยิง Carl Zeiss Optronics ASC 17
โซนาร์หัวเรือและข้างลำตัวเรือ Atlas DBQS-21D (CSU 83)
โซนาร์ตรวจการณ์ทุ่นระเบิด ITT Electronics System EDO-900
มีระบบรองรับการติดตั้งโซนาร์ลากท้าย
ระบบวัดระยะจากสัญญาณโซนาร์ Thales DUUX-2
ระบบระบุทิศทางสัญญาณโซนาร์ Thales Safare DUUG-1 (Velox)
ระบบ ESM Thales DR-2000U
ระบบอำนวยการรบ Atlas ISUS-83 (Integrated Sensor Underwater System) ประกอบด้วย
- ระบบควบคุมการยิง Atlas LEWA
- คอนโซล Atlas BM802 5 ชุด แต่ละชุดมีจอภาพสีขนาด 15 นิ้ว 2 จอ
ระบบวิเคราะห์สัญญาณเรดาร์ Thorn-EMI SARIE-2 (ติดตั้งคู่กับระบบ ESM DR-2000U)
ระบบสื่อสารผ่านดาวเทียม Rockwell AN/WRN-6(V)
ระบบแสดงตำแหน่งเรืออัตโนมัติ Raythoen Anschutz Nautoplot
ระบบวัดความเร็วเรือด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า Aeronautical & General Instruments AGILOG


โดยคุณ general เมื่อวันที่ 11/10/2011 07:03:28


ความคิดเห็นที่ 55


อามูร์ 1650 คือตัวที่ผมอยากได้ เพราะระวางขับน้ำ 1650 ตัน ทำให้สามารถลาดตะเวนถึงสิงคโปร์ได้เลยทีเดียว ไม่ก็ kilo แต่ 10 ปี นี้ขอให้ได้ u206 ใช้ก่อน นานมาแล้วมีเครื่ีองบินลำหนึ่งถูกขนามนามว่าเป็นเครื่องบินที่ดีที่สุด เร็ว เทคโนโลยีขั้นสูง เบาคล่องตัว ครองน่านฟ้าได้ดี ยิงเครื่องบินเกาหลีเหนือตกเป็นว่าเล่นมัน เราได้แค่มองตาปริบปริบ ปัจจุบันเรามีมันเกือบร้อยลำ f -16 ปัจจุบันก็เหมือนกันเราก็มอง f-22 ตาปริบปริบอนาคตอาจเป็นเหมือน f-16 ก็ได้ แค่ อามูร์ 1650 เด็กเด็กแต่ตอนนี้ขอ u-206 ก่อน ครับ


โดยคุณ general เมื่อวันที่ 11/10/2011 07:24:13


ความคิดเห็นที่ 56


ขอบคุณทุกท่านที่นำเสนอข้อมูล โดยเฉพราะ ท่านjuldas

อย่างไรซะต่างฝ่ายก็ย่อมมีเหตุผล รวมทั้งคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรอง

ครั้งนี้ถ้า U-206a ไม่ใด้รับการคัดเลือกเข้า ครม เพื่อพิจารณา(ถาวร) ก็คงต้องรอกันต่อไป

...ช้าๆ  อาจใด้พร้า 2เล่มงามๆ

โดยคุณ fantom เมื่อวันที่ 11/10/2011 08:20:39


ความคิดเห็นที่ 57


ทร.อินโดนีเซีย เตรียมเซ็นสัญญาสั่งต่อเรือดำน้ำรุ่น U209-1400mod 3 ลำ จากเกาหลีใต้(ภายใต้ลิขสิทธิ์ งานนี้เยอรมันกินฟรี 1 % แต่ตัวนี้สเปคฟัดกันสนุกกับเรือดำน้ำชั้น kilo ของเวียดนาม 6 ลำ ที่จะประจำการปี 2015 จากกรณีหมู่เกาะสแปตลี่)

ขณะเดียวกัน ทร.ไทย ยื่นเยอรมันเลื่อนการพิจารณาจัดหา U-206A 4+2 ลำ ของเยอรมัน เป็นวันที่ 15 พ.ย. 54 เนื่องจากอุทกภัยใหญ่

 

http://www.navyrecognition.com/index.php?option=com_content&task=view&id=130

โดยคุณ adf7 เมื่อวันที่ 11/10/2011 09:15:42


ความคิดเห็นที่ 58


ภัยเรือดำน้ำต่อ ราชอาณาจักรไทย ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

จากข้อมูลของ กองทัพเรือ และภายหลังเสร็จสิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2  สหรัฐอเมริกา ได้มอบเรือกวาดทุ่นระเบิดจำนวนหลายลำ ให้กับ ไทย เพื่อนำมากู้ทุ่นระเบิดที่สหรัฐนำมาวางไว้ ทั้งจากทาง อากาศยาน และ เรือดำน้่ำ

 

 


โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 11/10/2011 10:24:23


ความคิดเห็นที่ 59


ตามข้อมูลจะเห็นว่า มีเรือดำน้ำ สหรัฐ มาวางทุ่นระเบิดบริเวณ เกาะริ้น หรือ น่าจะเดาเป้าหมายว่า กะดักเรือรบไทย จากฐานทัพเรือ สัตหีบ....

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 11/10/2011 10:29:45


ความคิดเห็นที่ 60


ขอบคุณคุณ boonrat ครับ ตอบเคลียร์คร้บ

เรื่องปิดอ่าวผมหมายถึงอย่างที่คุณ juldas ว่าครับ ว่าถ้าเกิดใครส่งเรือดำน้ำมาจมเรือสินค้าหรือเรือโดยสารก็แย่แล้ว ไม่ได้หมายความว่าเรือรบโดนกั้นจนออกอ่าวไม่ได้

ที่ว่ามาจากกลุ่มขัดขาก็แหม... ล้อเล่นอ่ะนะ  

ผมไม่ได้ว่าข้อมูล Technic+เหตุผลผิดของคุณ ผมไม่ได้ว่าคุณกล่าวประชด ปกปิดข้อมูล ใช้อารมณ์เวลาพูดเรื่องเรือดำน้ำ หรืออะไรทั้งนั้น

โดยคุณ tongwarit เมื่อวันที่ 11/10/2011 15:15:38


ความคิดเห็นที่ 61


กำลังสนุกเลยมีต่อมั๊ยครับเนี่ยกะจะอ่านอย่างเดียวแต่เห็นค้างๆคาๆอยู่หมดสนุกเลยช่วยต่อทีครับ

โดยคุณ hinnoi เมื่อวันที่ 11/10/2011 18:49:59


ความคิดเห็นที่ 62


พิมพ์ไว้ตั้งเยอะ  พอกดส่ง ปรากฎว่า ID invalid-----ข้อความหายเกลี้ยง
เมื่อบ่ายวานและคืนวานก็คุยกับพรรคพวกเรื่องเรือดำน้ำ 
กลับมา tfc อีกที กระทู้ยาวขึ้นมาก 

โดยคุณ boonrat เมื่อวันที่ 11/10/2011 21:57:02


ความคิดเห็นที่ 63


เงี้ยแหละครับ ต้องคอยก๊อปไว้เป็นระยะๆ โดยเฉพาะก่อนกดส่ง

โดยคุณ tongwarit เมื่อวันที่ 11/10/2011 23:00:01


ความคิดเห็นที่ 64


จริงจริงผมว่าประเด็นสำคัญมันอยู่ตรงนี้ ถ้าเราได้มาเราจะมีเรือดำน้ำ 4 ลำ ขณะที่เพื่อนบ้านมีหมด เราจะมีสมดุลทางการทหารในภูมิภาคนี้ ซึ่งเป็นผลดีต่อการต่อรอง เจรจา และเป็นหลักประกันความมั่นคงของประเทศ  แต่ถ้าเราไม่มีเราก็เหมือนไม่มีปากมีเสียง เค้าจะทำอะไรก็ได้ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ สำหรับประเทศที่เคยเป็นใหญ่มาก่อน แล้วต้องกลายเป็นเด็กน้อยตัวหนึ่ง

โดยคุณ general เมื่อวันที่ 12/10/2011 00:09:39


ความคิดเห็นที่ 65


ผมเห็นตารางในโพสต์ของคุณ juldas  2011-10-11  01:24:51  ที่มีตารางแสดงpatrol aircraft/aew/ssk/ddg
ผมคิดว่าเรากำลังคิดข้ามขั้นเอาการปิดอ่าวมาคิดร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านหรือมิตรประเทศ
เหมือนชี้นำว่าเพื่อนบ้านหรือมิตรประเทศจะเป็นผู้มาปิดอ่าว ซึ่งประเทศอื่นเขาจะตำหนิเราได้
นอกจากนี้แนวคิดของคุณ general  ที่ว่า-------สมดุลทางทหารในภูมิภาคนี้---ฯลฯ ในโพสต์ 2011-10-12  00:09:39

เราคงต้องประเมินยุทธศาสตร์แบบย่อๆแบบบ้านๆกันนิดนึงว่า-----ใครคือศัตรูทางทะเล--------และเราควรมีอาวุธอะไร -----เพื่อมาทำอะไร
แล้วจะสร้างความเข้าใจในภาพกว้างดีขึ้น
เดี๋ยวมาต่อ  กลัวเว็บบ์มีปัญหา 

โดยคุณ boonrat เมื่อวันที่ 12/10/2011 01:01:54


ความคิดเห็นที่ 66


จุดแข็งของเรือดำน้ำ U206a ..หนังสือพิมพ์ สามารถเขียนให้เป็นจุดอ่อนได้.....สุดยอดหนังสือพิมพ์เดลินิวส์....สุดยอดวิชามารเลย  ครับ

Non Magnetic กลายเป็น Non Maintenance Persons ไปได้

ผมแนะนำว่า  ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง..ครับ  สำหรับเยาวชนไทย  เงินลูกเดี่ยวทำได้หมด

ผมว่าช่างพวกนี้ถ้าเกศียรคงมาเช่าบ้านอยู่แถวพัทยานี่แหละครับ...แถวบ้านผมบางเสร่ เยอรมันเยอะแยะเลยครับ... 

สิ่งที่หนังสือพิมพ์ตั้งคำถามมาผมว่า  ไม่ต้องเสียเวลาตอบเลยครับ น่อมแน่มมากๆ

กองทัพเรือตอบได้หมดครับ  เพราะเรามีนักเรียนนายเรือที่จบจากนายเรือเยอรมันทุกปี ปีละ 1 ท่านครับ ติดต่อกันมา 40 ปีแล้วครับ 

โดยคุณ airy เมื่อวันที่ 12/10/2011 03:33:19


ความคิดเห็นที่ 67


แล้วใครพอจะมีข้อมูลเรือดำน้ำเกาหลีเหนือที่จมเรือคอร์เวตเกาหลีใต้บ้างครับ เทียบสเปกกับ 206a แล้วดีกว่าหรือเปล่าครับ

โดยคุณ Pom เมื่อวันที่ 12/10/2011 04:00:23


ความคิดเห็นที่ 68


สำหรับเรื่องปิดอ่าวนี่คงจะคิดแค่เพื่อนบ้านไม่หรอกครับอาจจะมีพวกบ้านไกลแต่มือยาวมาก็ได้เรื่องผลประโยชน์มันไม่เข้าใครออกใครซะด้วย อีกอย่างผมถือคติว่ามีเอาไว้แล้วไม่ได้ใช้ ดีกว่าถึงเวลาจะใช้แล้วไม่มี เหมือนช่วงสงครามโลกที่เราสั่งเรือ เครื่องบินเอาไว้แต่พอเกิดสงครามเลยถูกระงับซะงั้น

เพราะฉะนั้นการเตรียมพร้อมอยู่เสมอน่าจะดีที่สุด ใจผมเองก็ไม่ใช่ว่าจะเอาแต่U206เพราะเป็นแค่หนึ่งในตัวเลือก หากได้ของใหม่ก็ดี แต่ที่มองถึงตอนนี้มันเป็นอะไรที่คุ้มค่าที่สุดเท่าที่เราพอจะหาได้

โดยคุณ hinnoi เมื่อวันที่ 12/10/2011 04:41:38


ความคิดเห็นที่ 69


ก่อนจะวิ่งเราต้องหัดเดินให้ได้ก่อนครับแต่ตอนนี้เรายังกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่เลยคงต้องมองตามก้นคนอื่นเค้าอีกนานหละฮ่าๆ

โดยคุณ hinnoi เมื่อวันที่ 12/10/2011 04:44:42


ความคิดเห็นที่ 70


การไม่มีเรือดำน้ำตอนนี้ ไทยจะพูดอะไรเสียงไม่ดัง อ้อมแอ้ม

แล้วถ้าไม่มีใครขับดำน้ำเป็นเลย ถ้ามีเงินเยอะๆแล้วมาหัดดำตอนมีสงคราม ถือว่าโคตรเสี่ยว(ภาษาอีสาน เข้าตำนานปืนแก๊ปยิงเขาก่อนก็ตายคือกัน )

มีคนพูดในเวปส์นี้ก่อนหน้าว่า จริงแล้วเราสามารถซื้อ amur1650 ได้สบายๆ 2หรือ4ยังได้ เพราะเงินสำรองในคลังมีเยอะมาก

จริงๆแล้วมันเป็นเรื่อง ของการที่กองทัพเรือ ซื้อมาฝึกดำด้วยซ้ำแล้วยังมีประโยชน์อีกตั้ง 10ปี ...ทำไมหลายท่าน งัดTECHNICออกมา ตัดไมข่มนามกันดื้อๆเลย....

ใครไม่เคยขับเฟอรารี่ ก็คงไม่กล้าเหยียบขันเร่งหรอก...มันเอาไม่อยู่...มือสมัครเล่นอย่าริขับเป็นอันขาด..หัดขับโกลคาร์ท แล้วเร่งเครื่องทางโค้งที่ 150 กิโลเมตร ก็หัวใจวายตายแล้ว..

เอามาฝึกฝนพนักงานดำน้ำครับพี่...ทำไมคิดมากกันจัง 6900ล้านบาท เศษเงินไทยแลนด์....ถ้าเป็นกองทัพอื่น..มันผ่านไปนานแล้ว...

โดยคุณ tks เมื่อวันที่ 12/10/2011 04:50:55


ความคิดเห็นที่ 71


เรื่องเงินตอนนี้มองข้ามไปได้เลยครับ กองทัพเรือมีเงินพร้อมอยู่แล้ว

สิ่งที่ทำให้เราจะได้หรือไม่ได้อยู่ที่ผู้มีอำนาจ ส่วนหนังสือพิมพ์หรือสื่อ

มวลชนเขาก็จะมองไปอีกแบบหนึ่ง ส่วนมากจะเป็นมุมมองการขายข่าว

มากกว่าการนำเสนอข้อเท็จจริงที่เป็นของจริง หรือว่าเขาไม่มีข้อมูลที่

เพียงพอแล้วนั่งเทียนเขียนก้เป็นได้ เป้นข้อสังเกตของผมจากการอ่าน

หนังสือพิมพ์ครับ อย่างที่ ท่าน หินน้อย ว่าไว้นะถูกต้องครับ บ้านเรามีรั้ว

มีไฟติดหน้าบ้าน มีกล้องวงจรติดไว้หน้าบ้านถ้าเราจะเพิ่มปืนมือสอง

สักกระบอกจะเป็นไรไป อย่างน้อยก็เอามาฝึกให้คุ้นมือเมื่อมีเหตุจำเป็น

ต้องใช้จะได้ไม่ติดขัด ส่วนตัวผมไม่มีความรู้เรื่องเรือดำน้ำเลยก็ว่าได้

อะไรที่มองว่ามันคุ้มค่าและดีต่อตัวเราที่พอจะมีทางหามาได้ก้รีบทำ

อย่างื้อง่าราคาแพง เหมือนนักบอลมีโอกาศยิงประตูแต่ไม่ยิงสุดท้าย

เสมอ 0-0 5555

โดยคุณ ALPHA001 เมื่อวันที่ 12/10/2011 05:26:38


ความคิดเห็นที่ 72


หรือจะคิดย้อนกลับ=หาข้าศึกให้ตรงกับอาวุธของเรา
๑ เรือบรรทุกเครื่องบิน มีไว้เพื่อสู้ข้าศึกแบบไหนหรือแก้ปัญหาทางทะเลแบบไหน-----ประเทศไทยเผชิญข้าศึกนั้นอยู่รึเปล่า(ทั้งปัจจุบัน+อนาคต) 
๒เรือลำเลียง มีไว้สู้กับใคร/แก้ปัญหาใด----------ไทยเราเผชิญปัญหานั้นรึเปล่า(ปัจจุบัน+อนาคต)

๓เรือตรวจการ------------

๔เครื่องบิน----------------

๕นาวิกโยธิน  สอ/รฝ----------------

๖เรือดำน้ำ------------------
ฯลฯ
------การใช้อาวุธต้องประหยัดคุ้มค่าด้วย
เว็บบ์เริ่มแปลกๆ  เดี๋ยวมา
 


โดยคุณ boonrat เมื่อวันที่ 12/10/2011 08:58:23


ความคิดเห็นที่ 73


รู้สึกว่าข้อมูลเยอะไปละเครียดครับ เอาไปครับคลายเครียดครับ

มอบให้ทุกคนครับ โดยเฉพาะท่าน เด็กทะเล -_-




โดยคุณ ALPHA001 เมื่อวันที่ 12/10/2011 06:47:04


ความคิดเห็นที่ 74


เออ..... ขอให้โพสท์ได้ทีเถอะ

K.Boonrat ครับ ที่ผมว่าไร้สาระน่ะ เพราะเม้นท์แรกมันพื้นจริงๆ  อ่านไปอ่านมาก็เลยเริ่มเข้าใจท่าน ต้องขอโทษด้วยครับ เพราะต่างคนต่างความคิด ผมเชียร์ดีลนี้สุดใจ และเชื่อว่ามากกว่า70เปอร์เซ็นต์ ของเพื่อนๆในบอร์ดนี้ก็เช่นกัน....  ขอบคุณหลายๆท่านและขอบคุณมากมายสำหรับ ท่านjuldas

ที่K.Boonrat อยากให้ผมถามเป็นข้อๆนั้น ผมขอถามข้อเดียวแล้วกับครับ

K.Boonrat(คห.ส่วนตัว) อยากให้กองทัพเรือมีเรือดำน้ำรุ่นใดประจำการ และ เมื่อไหร่? 

ขอบคุณครับ................

โดยคุณ nui-714 เมื่อวันที่ 12/10/2011 07:02:23


ความคิดเห็นที่ 75


เข้าเป้าตรงประเด็น ยอดมากครับคุณ nui-741 ผมขอถามเพิ่มนิดนะครับ

ถ้าหากความหมายข้องคำว่าพร้อมที่จะมี จะต้องพร้อมขนาดไหน/หน่วยไหน/ใครบ้าง

 ส่วนอันนี้ เรื่องราวส่วนตัวในอดีตนะครับ เมื่อนานมาแล้ว ผมอยากถ่ายรูปเป้นถ่ายสวย ผมก็เลยซื้อหนังสือเกี่ยวกับการถ่ายภพมาอ่าน  แล้วหลังจากนั้นไม่นาน ผมก็ ซื้อกล้อง ปัจจุบันนี้ ฝีมือการถ่ายภาพของผมก็เป็นที่น่าพอใจมากๆนะครับถึงจะไม่เข้าขั้นมืออาชีพ  มีเพื่อนผมอีกคน ก็ศึกษามาพร้อมๆกัน เดี๋ยวนี้มันอ่านหนังสือกล้อง มากกว่าผม อีก แต่เมื่อโยนกล้องให้มันใช้มันถ่ายภาพ มันยังไม่เป็นเลยครับ แต่ ความรู้ในตำราไม่มีใครเกิน เพื่อนๆในกลุ่ม เดี๋ยวนี้ถ่ายรูปเก่งกว่ามัน ทุกคนหมดแล้วครับ

ปล. กว่าเพื่อนผมมันจะบอกว่าตัวเองพร้อมที่จะมีกล้อง(ทั้งที่มันก็พอมีเงินซื้อ จะมือสอง 500ดี หรือ 550 ดี ก็ตามที) จนป่านนั้น เพื่อน คนมาเลย์ เพื่อน สิงค์โปร คงใช้เก่งขึ้นไปอีกกว่าเดิมจนเท่ากับมือโปรแล้วแหละครับ ถึงตอนนั้นเพื่อนๆ มันคง จะพากันซื้อ EOS 1 D แล้วมั้งครับ อิอิพอดี ผม เล่น สาย แคนนอน ไม่ได้ เล่น นิคอน 555+

โดยคุณ SeriesVll เมื่อวันที่ 12/10/2011 07:47:57


ความคิดเห็นที่ 76


ตอบคุณ  nui-714   2011-10-12  07:02:23
ถาม k.boonrat (ค.ห.ส่วนตัว) อยากให้กองทัพเรือมีเรือดำน้ำรุ่นใดประจำการและเมือ่ไหร่?
ขอตอบดังนี้ครับ
๑   การจะมีอาวุธ(ของกองทัพเรือ)ใดๆมันขึ้นกับภัยคุกตาม--อาจเป็นข้าศึก--อาจเป็นปัญหาในทะเล--อาจเป็นงานทางทะเล
เช่น  มีการขนยาเสพติด,ค้าของเถื่อน,ประมงผิดกฎหมายฯลฯ------------ก็ใช้เรือตรวจการขนาดต่างๆ,อากาศยานฯลฯ
มีภัยพิบัติ---------------ก็ใช้เรือลำเลียง,ใช้นาวิกโยธิน,สอ/รฝ.ฯลฯ

บุกจากทะเลขึ้นบก-------ก็ใช้เรือลำเลียง,นาวิกโยธิน,สอ/รฝ,กองเรือโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบก ฯลฯ
มีเรือดำน้ำจะมายิงเรือสินค้าไทย-------ก็ใช้ เรือ ปราบเรือดำน้ำ,เฮลิคอปเตอร์,ทุ่นระเบิด ฯลฯ

มีเรือผิวน้ำข้าศึกเข้ามา(ใกล้ประเทศไทย)---------ก็ใช้เรือผิวน้ำ,เรือดำน้ำ,อากาศยาน,ทุ่นระเบิด ฯลฯ
เมื่อต้องทำลายเรือลำเลียงข้าศึกในทะเลลึก(ห่างไกล)--------ก็ใช้เรือดำน้ำ(ทำแบบเดียวกับเยอรมันใน World war IIในatlantic) 
ต้องการทำลายเรือข้าศึกในทะเลลึกห่างไกล,คุ้มกันเรือพานิชย์ในที่ไกลๆ-----ก็ควรใช้กองเรือบรรทุกเครื่องบิน(ญี่ปุ่นใช้เรือดำน้ำด้วยในpacific)

มีปัญหาอะไรในทะเล------ก็จัดหาอาวุธที่สอดคล้องกันมาสู้/มาจัดการแก้ปัญหา 

ฯลฯ


๒  มีงบประมาณซื้อรึเปล่า   = สภาพเศรฐกิจ------------แล้วจัดลำดับ

ว่างๆมาต่อ  กลัวเว็บบ์มีปัญหาแล้วลบเกลี้ยง

โดยคุณ boonrat เมื่อวันที่ 12/10/2011 08:30:11


ความคิดเห็นที่ 77


ต่อจากนี้ก็ขอเชิญคุณ nui0714 ช่วยหางานให้เรือดำน้ำทำ แถมหางานให้เรือบรรทุกเครื่องบินทำด้วยครับ(ปัจจุบันถึงอนาคตซัก ๑๐ ปี)
ถ้าจะใช้ฝึกก็คงต้องซื้อมาฝึกอีกเยอะ  จะฝึก บ.โจมตีแบบa7 อีกรึเปล่าหรือจะฝึก บ. harrier อีกที เพราะองค์ความรู้เริ่มขาดตอนจะฝึกยาน wig ด้วยมั้ย ฯลฯ
พอหางานให้เรือดำน้ำแถมหางานให้เรือบรรทุกเครื่องบินทำได้แล้วจะได้คิดกันว่าเรือรุ่นอะไร  ซื้อปีไหน
 

โดยคุณ boonrat เมื่อวันที่ 12/10/2011 09:14:11


ความคิดเห็นที่ 78


K.Boonrat ครับ  จริงๆผมเป็นคนพูด(พิมพ์)น้อยนะ ต้องบอกก่อนว่า ไม่ได้เข้ามาเถียงอะไรนะครับ เพราะกำลังสนุกกับความรู้ที่เก็บเกี่ยวได้จากเพื่อนๆ  แต่ผมยังไม่ได้คำตอบ (ที่เป้นคห.ส่วนตัว)จากท่านเลย........  ส่วนเรื่องหางานให้เรือ ส นั้น ผมไม่บังอาจหรอกครับ.. ทัพเรือต้องมีแผนงานแน่นอน 

ผมเองเชื่อในทฤษฎีป้องปราม ครับ....

โดยคุณ nui-714 เมื่อวันที่ 12/10/2011 09:53:46


ความคิดเห็นที่ 79


สมรรถนะของเรือดำน้ำครับ.....  เมื่อประกอบเข้ากับ  จรวดนำวิถีเอนกประสงค์ระยะสั้น IDAS ของ Diehl ครับ

ถ้าคนอื่นเค้ามี  เราตายลูกเดียวครับ  เป็นภาพ Imege by Diehl

 

 


โดยคุณ airy เมื่อวันที่ 12/10/2011 10:08:21


ความคิดเห็นที่ 80


เรือดำน้ำยุกต์ใหม่..  จะไม่เสียเวลาไปตามหาเรือข้าศึกศัตรู  ในท้องทะเลหลวงอันกว้างใหญ่อีกแล้วครับ (เสียเวลาเปล่าๆ)

ยุทธวิธีปัจจุบันคือ.. จะเข้าโจมตีฐานทัพต่างๆ ทั้งฐานทัพบก  ฐานทัพเรือ  ฐานทัพอากาศ  ที่อยู่ริมฝั่งทะเล

หรือลึกเข้าไปจากชายฝั่งทะเลได้เป็น 100 กิโลเมตร ด้วยจรวด Cruie Missile ที่มีระยะยิงได้ไกลถึง 290 กิโลเมตร

โดยจุดที่ยิงอยู่ห่างจากชายฝั่งทะเลถึง 100 กิโลเมตร  และเรือที่ยิงสามารถกลับบ้านได้สบายๆ หลังจากเสร็จภาระกิจแล้ว

จะยิงถึงบ้านผู้นำประเทศ  หรือพระราชวังผู้เป็นประมุขของประเทศก็ได้ครับ  ค่าความคาดเคลื่อนไม่มากนัก (ไม่กี่เมตร)

ยิงถล่มหลายลูกก็ถูกเองล่ะครับ...พลาดยาก  แม้แต่เครื่อง Gripen และอีรีอาย ก็ไม่ทันได้ขึ้นบินแน่นอนครับ อาจถูกเรือดำน้ำ

จากฝั่งอันดามันโจมตีได้ง่ายๆ ครับ โดยเราอาจคิดเข้าใจผิดว่าถูกโจมตีจากฝั่งอ่าวไทยก็ได้ครับ ถ้าเราไม่มองเห็นวิถีของจรวด

การโจมตีจะโจมตีในเวลากลางคืน และจะโดนโจมตีก่อนไม่ให้รู้ตัว เสมอครับ   จรวดชนิดนี้เวียตนามจะเป็นชาติแรกในอาเซียนที่มีในอนาคตอันใกล้นี้

โดยคุณ airy เมื่อวันที่ 12/10/2011 10:37:12


ความคิดเห็นที่ 81


จริงจริงผมนับถือท่านจูมาก ข้อมูลท่านเรียกว่า เปี้ยะ เปี้ยะ แน่น แต่ในเรื่องนี้ผมเห็นต่างจากท่าน

 นิดเดียว ผมว่าโอกาสที่อ่าวไทยจะถูกปิดเป็นไปได้น้อยในยุคที่ทุกอย่างมันพันกันหมด ถ้ามีคนมาเหยีบเท้าเรา แต่มันเหมือนเหยีบคอ เหยีบหน้า คนอื่นเหมือนกัน ต้องรอสงครามโลกครั้งที่ 3 โน่นแหละถึงจะถูกปิด แต่สิ่งที่ทำให้เราต้องมีเรือดำน้ำคือ มันจำเป็นต้องมีไม่ต้องถามว่าเพราะไร เพราะจำเป็นด้วยประการทั้งปวง

สิ่งที่เราควรถกเถียงกันคือ เมื่อไหร่ รุ่นอะไร ดียังไง มากกว่า ตอนนี้สิ่งที่ชัดคือ ตอนนี้ รุ่น u-206 เพราะ

ดีอย่างนี้   

      1 ) เงินแค่ 7700 ล้านใช้เงินของกองทัพเรือได้เลยไม่ต้องขอเพิ่ม

       2 ) เราไม่ได้เรือดำน้ำ เราได้กองเรือดำน้ำ ประกอบด้วย เราได้เรือดำน้ำ 6 ลำ ใช้จริง 4

  ชุดลูกเรือเค้ายังให้ อบรมหลักสูตรเรือดำให้ เราสามารถเปิด หลักสูตร เรือดำน้ำได้เลย จะเทรนให้กับ

มือ   เทคติก เทคนิค ต่างต่าง ที่เค้าสั่งสมมา จะสอนให้หมดและอีกมากมาย

       3 ) ตัวเรือเป็นแบบ Non Magnetic ไม่เป็นแม่เหล็ก สร้างเพื่อป้องกันทุนระเบิด และวัสดุ Non Magnetic คือ ไม่เป็นสนิม อยู่ได้ตลอด สกอเปียนของเมเลย์ ทำจากเหล็ก อายุแค่ 30-35 คือนิมกินแล้ว 10 ข้างถ้าเราไม่มีเงินอีก ก็ยกเคื่องก็ได้ เพราะโครงเป็นอมตะ ครับ

        4 ) เรือได้รับการปรับปรุงใหม่ มีระบบสื่อสารที่ทันสมัย มาตรฐานนาโต้

        5 ) ดีจนพี่ ชิลี รออยู่แค่เยอรมันอยากขายให้เรา เลยยืดเวลาให้ ครับ

และด้วยข้อเสียต่อไปนี้จึงมีเสียงคัดค้านอยู่ บาง

        1 ) เรือจอดมานานแล้ว เค้าโล๊ะทิ้งจะซื้อทำไม จอดนานก็จึงแต่ดูแลตลอด และโล๊ะก่อนกำหนด

        2 ) Non Magnetic นี้เยอรมันรู้คนเดียวพังมาจะไง ก็อย่าทำให้พัง อย่าเจาะ เคาะ เงาะมัน ถ้าพัง ก็ให้เยอรมันซ่อมให้

        3 ) เรือมีขนาดเล็ก เวลาเปิดโซนา เรือค่อนข้างสั่น ทำให้หาเป้าหมายอยาก

 

        4) ทุ่นระเบิด อัจริยะ เยอรมันไม่แถมให้

        5 )ในเรือแคบกว่าเรือขนาดใหญ่ ค่อนค้างคับแคบ

จริงจริง ผมเหมือนได้ยินว่ามีพลายกระซิบว่าได้แน่ แค่รอก่อน เอาศักดิ์ศรีผมทั้งชาตินี้และชาติหน้าเป็นเดิมผัน ถ้าไม่มีกาชักดาบ ซึ่งไม่มีใครทำ เชื่อผม 100 เปอร์ได้อยู่แล้ว


โดยคุณ general เมื่อวันที่ 12/10/2011 10:39:54


ความคิดเห็นที่ 82


ลืมขอเสียอีกข้อครับ เรือมีระบบสื่อสารที่ทันสมัย อยู่ไต้น้ำก็สื่อสารได้แต่ กองทัพเรือไม่มีอุปกรณ์สื่อสาร แต่เรือมี ดังนั้นลงน้ำแล้วติดต่อไม่ได้ ต้องเสนอหน้าขึ้นมาเหนือน้ำอย่างเดียว แต่กองทัพเรือบอกว่า จะกำหนดแผนไว้ก่อน และเตรียมกันไว้ ว่าถึงเวลาติดต่อกันแล้วจะขึ้นเหนือน้ำ

ทั้งหมดนี้ยืนยันโดย พลเรือตรีสุริยะ แสงสุริยะ ผู้บัญชาการกองเรือดำน้ำ (ผบ.กดน.)

 นอนยันโดยผม ขอตลกหน่อยเห็นท่าน alpha001 เคลียด ครับ




โดยคุณ general เมื่อวันที่ 12/10/2011 10:53:29


ความคิดเห็นที่ 83


ผมลืมข้อดีอีกข้อ อย่าว่ากันนะครับ ใครก็ได้เอาไหวพริบมาใส่สมองผมหน่อย มันขาดไปเยอะเลย เดี๋ยวผมแบ่งให้เดลินิวด้วย

ข้อดีอีกข้อคือ ลำละแค่ พันล้าน อาวุธครบ ทั้ง ตอปิโด 533 และทุ่นระเบิด ต่างจากเรือเกาหลีลำใหม่ หมื่นล้าน อาวุธซื้อเพิ่ม จบจริงจริงแล้วครับ



โดยคุณ general เมื่อวันที่ 12/10/2011 11:00:13


ความคิดเห็นที่ 84


ตามความเห็นท่าน boonrat

เรื่อง...เรากำลังคิดข้ามขั้นเอาการปิดอ่าวมาคิดร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านหรือมิตรประเทศ
เหมือนชี้นำว่าเพื่อนบ้านหรือมิตรประเทศจะเป็นผู้มาปิดอ่าว ซึ่งประเทศอื่นเขาจะตำหนิเราได้...

ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็คงต้องตำหนิว่า แล้ว กองทัพเรือ จัดหา ฮาร์พูน หรือ C-802A และ ASROC มายิงกับใคร ในอ่าวไทย ?

มองใครเป็นศัตรู ?

ประเทศเพื่อนบ้าน มาเลเซีย ประกอบไปด้วย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ที่มีผลประโยชน์ร่วม ช่องแคบมะระกา กับไทย เรื่องแหล่งพลังงาน กับ บรูไน ที่แยกตัวออกมา และฟิลิปปินส์ ที่ไม่มีพิษสงอะไร...

มาเลเซีย มองใครเป็นศัตรู ถึงต้องจัดหา เรือรบสมรรถนะสูง และ เรือดำน้ำ ทั้งในปัจจุบัน และอนาคต...

ซึ่งก็คงต้องหมายความถึง สิงคโปร์ ด้วยเช่นกัน ที่มีน่านน้ำเพียงเล็กน้อยเท่านั้น...

เรื่องความสมดุลของประเทศเพื่อนบ้านนั้น...คงจะให้ความหมายที่ว่า...ใน อนาคต...ไม่มีใคร คาดเดา ได้ว่า...ผู้บริหารประเทศ หรือ ผู้ปกครอง ประเทศเพื่อนบ้านแต่ละประเทศนั้น...จะมีผู้นำ ที่เป็นลักษณะเผด็จการ หรือ บ้าสงคราม หรือไม่ ? แต่ละประเทศ จึงต้องสร้างสมดุลย์ ระหว่างกัน แม้ในปัจจุบันจะมีสภาพความเป็นมิตรที่ดีต่อกันก็ตาม... 

 

 

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 12/10/2011 11:22:45


ความคิดเห็นที่ 85


ซึ่งมันมีประวัติศาสตร์ มาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้้งที่ 2 และ สมัยอิรัก บุก คูเวต รวมถึง อาร์เจนติน่า ยึดเกาะฟอร์คแลนด์...หรือแม้แต่ อินเดีย กับ ปากีสถาน ที่มีสงครามกัน...

ผมคิดว่า สิ่งนี้ น่าจะเป็นสิ่งที่สร้างสมดุลย์ ในการที่แต่ละประเทศต่างจัดหาอาวุธในศักยภาพที่ใกล้เคียงกัน...ซึ่งการเกิดสงครามตามที่อ้างข้างต้นนั้น...ไม่ได้มีจุดกำเนิดของสงครามมาจากประชาชน หรือ เกิดจากกองทัพ...แต่จะเกิดจาก ผู้นำ ที่มีนโยบายในการบริหารประเทศ เป็นผู้จุดให้เกิดทั้งนั้น...

จึงเป็นความเห็นที่ว่า...ในอนาคต ทุกประเทศใน อาเซียน ไม่มีใครรู้ว่า จะมีผู้นำที่มีนโยบายเกี่ยวกับเรื่องภัยคุกคามนี้อย่างไร...แต่ละประเทศ จึงต้องสร้างสมดุลย์ทางการทหาร ให้เป็นไปในลักษณะ คาน ซึ่งกันและกัน...ที่เป็นข้อกังวลในเรื่องการสะสมอาวุธ....

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 12/10/2011 11:30:34


ความคิดเห็นที่ 86


โดยตามแผ่นภาพนั้น...ผมได้ให้ความหมายในลักษณะกว้าง ๆ ไว้ที่ DDG/FFG/DD/FF คือในความหมายที่ว่า อาจจะมีเรือลักษณะไหนก็ได้ ของประเทศไหน ก็ได้ครับ...ที่จะมาปิดอ่าว...ซึ่งการปิดอ่าวนั้น...อาจจะไม่ได้หมายความถึง ไทย กับ กลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน เท่านั้น...แต่จะหมายถึง กลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน มีความขัดแย้งกับประเทศอื่น และส่งผลกระทบมาถึง อ่าวไทย ที่อาจจะมีการปิดอ่าวเกิดขึ้นได้เช่นกัน...เช่น ระหว่าง จีน กับ เวียดนาม หรือ ระหว่าง จีน กับ มาเลเซีย หรือ ระหว่าง จีน กับ ไทย ก็เป็นไปได้เช่นกันครับ...

เพราะ จีน มีเป้าหมายสร้างเรือบรรทุกเครื่องบิน ถึง 2 ลำ...ปัจจุบัน กำลังจะเสร็จพร้อมประจำการ จำนวน 1 ลำ...ผมมองเป้าหมายที่ว่า ถ้า จีน ป้องกันภัยคุกคามจาก สหรัฐ อย่างเดียวนั้น คงต้องมองปัญหาที่ว่า สหรัฐ มีผลประโยชน์อะไรที่มากมาย ขนาดต้องมา บุก จีน ? แต่มองเป้าหมายที่ว่า จีน มองในอนาคตไว้ว่า ความขัดแย้งระหว่าง จีน กับ กลุ่มประเทศในเอเซีย จะมีโอกาสเกิดขึ้น ซึ่งถ้ามีเกิดขึ้น ก็จะมี สหรัฐ เข้ามาแทรกแซง...

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 12/10/2011 11:39:17


ความคิดเห็นที่ 87


ตอบท่าน general สำหรับความเห็นของผมเรื่องการปิดอ่าวตามกระทู้ข้างบนน่ะครับ...

ส่วนเรื่อง A-7 หรือ Harrier นั้น...ปัญหาคือ เรื่อง เงิน ล้วน ๆ ครับ...ไม่ใช่เรื่องการซ่อมบำรุงของ ทร. หรือ นักบิน บินไม่ได้แต่อย่างใดครับ...

A-7 มาพร้อม ๆ กับ เรือชั้นพุทธฯ ซึ่งประเทศไทยในขณะนั้น เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ...จน ทร. เอง ก็มีปัญญาจ่ายเงินซื้อเรือชั้นพุทธฯ ได้เพียง 1 ลำ เท่าน้้น..จน สหรัฐ ต้องหาทางช่วยเหลือ ในเรื่องการให้เรือทดแทนเรือชั้น ไซโคลน ที่ สหรัฐ นำไปให้ ฟิลิปปินส์ แทน...ทร. จึงได้ ร.ล.พุทธเลิศหล้า มาอีก 1 ลำ...

แม้แต่ ทอ. ก็เกือบจะถูกริบเงินค่ามัดจำ F/A-18 จนได้ F-16 ADF มาทดแทน...และ ทบ. เอง ก็ต้องยกเลิกการจัดหา เรือเกราะล้อยาง ออกไปเช่นกัน...

ซึ่ง กรณี A-7 นั้น...ทร.จะต้องมีงบประมาณทำการซ่อมทำปรับปรุงใหม่จากสหรัฐ ตามที่ทำสัญญาซื้อกับเขาไว้...แต่ในขณะนั้นไม่มีเงิน...จึงต้องรับมอบเครื่องตามสภาพที่ิบินได้เท่านั้น...ต่อมา พอเศรษฐกิจเริ่มกระเตื้องขึ้น...มูลค่าการซ่อมทำก็มีจำนวนสูงมากเกินไปเสียแล้ว...

ส่วน Harrier ถ้าผมจำไม่ผิด ได้มีการของบประมาณซื้ออะไหล่ และปรับปรุงไว้ รวมถึงรอการรับมอบอะไหล่จากสหรัฐ...แต่ก็โดนปัญหาปี 2549 ทำให้ต้องระงับไป....ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับ ความสามารถการซ่อมบำรุงของ ทร. หรือ นักบิน บินไม่ได้แต่อย่างใดครับ ในทั้ง 2 กรณี...

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 12/10/2011 12:07:37


ความคิดเห็นที่ 88


แต่สำหรับ Type 206A มุลค่าโครงการ 7700 ล้านบาทนั้น...

ถ้าเราชำระเงินครบถ้วน...เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับ A-7 หรือ Harrier ก็คือ

1. ได้รับการปรับปรุงใหม่ และเปลี่ยนอะไหล่ ทำให้มีความสามารถพร้อมรบ...เช่นเดียวกับ A-7 ที่มีความต้องการแบบเดียวกัน แต่กรณี A-7 คือ ไม่มีเงินจ่ายให้เขาเท่านั้น เขาเลยยังไม่ปรับปรุงโครงสร้างและเครื่องยนต์ใหม่ให้...

2. ในเรื่องอะไหล่...ได้อะไหล่มาครบถ้วนสำหรับ Type 206A...ซึ่งแตกต่างจาก Harrier ตรงที่ ไม่ได้จัดอะไหล่มาสำรองได้มากพอ แต่เมื่อพอจะจัดหาอะไหล่ได้จากสหรัฐ ก็โดนปัญหาทางการเมืองปี 2549...

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 12/10/2011 12:18:04


ความคิดเห็นที่ 89


รอฟังคำตอบเช่นเดียวกับคุณ nui-714 ครับ

เข้า ใจว่าปัจจัยมันเยอะอย่างที่คุณ boonrat ว่า  แต่ผมว่าทร.เขาก็คงรู้เหมือนกัน แล้วก็ควรจะรู้ดีกว่าคุณ boonrat ด้วยซ้ำ (นอกเสียจากว่าคุณ boonrat เป็นผู้เชี่ยวชาญมาจาก ทร.?) แล้วผมก็ว่าทร.เขาค่อนข้างโปร่งใสนะ

โดยคุณ tongwarit เมื่อวันที่ 12/10/2011 13:51:52


ความคิดเห็นที่ 90


ตอบคุณ  nui-714  2011-10-12   09:53:46
คุณ nui-714 ก็แสดงคำตอบแล้วนะครับ
เริ่มรู้สึกรึยังว่าเราหางาน(ภารกิจ) ให้เรือดำน้ำทำนั้น  มันหายากถ้าคิดจะใช้เรือดำน้ำเพื่อป้องปราม-------ผมว่าคิดถูกครับ
แต่ถ้าคิด(ย้อนกลับ)จะป้องปรามนั้นต้องใช้อาวุธใด------- คำตอบอาจไม่ลงมาที่เรือดำน้ำ--อาจกลายเป็นอาวุธอื่น
ผมใส่เรือบรรทุกเครื่องบินมาด้วยเพราะมันก็เป็นอาวุธที่หางานทำยากพอๆกับเรือดำน้ำ (อุปมาอุปมัยอาวุธที่หาภารกิจยาก)
ตอบแบบกว้างให้นะครับ----------ถ้ายังไม่มีภารกิจ(ทั้งปัจจุบัน+อนาคต)สำหรับอาวุธชนิดหนึ่ง----ก็อย่าไปซื้อมาเลย 
อย่าซื้อแค่เพราะชอบ---เพราะเงินที่ใช้มันเป็นของ ประชาชน----เหตุผลต้องชัดเจน

โดยคุณ boonrat เมื่อวันที่ 12/10/2011 21:41:57


ความคิดเห็นที่ 91


ตอบคุณ airy 2011-10-12  10:08:21
ยิงอาวุธปล่อยไม่ได้ง่ายเหมือนในภาพโฆษณาครับ  ในทะเลโล่งๆ    เรือเป้า 1 ลำ   โดนยิงแน่นอน  แม่นด้วย
แต่ถ้าเป้าเยอะะรวมกันอยู่radar ที่หัวอาวุธปล่อยมันไม่ฉลาดนักหร็อก  มันแยกเป้าได้  เลือกเป้าซ้ายก่อนหรือขวาก่อนได้ฯลฯ 
แต่ถ้าเราวางตำแหน่งเรือประมง/เรือคุณค่าน้อย  ให้สัมพันธ์เหมาะสมกับเรือสำคัญ   ยิงเป้าลวง จะลวงradar อาวุธปล่อย---แถมลวงเสียงใต้น้ำ   จนเรือดำน้ำงง
ในทะเล traffic มาก   ยิงอาวุธยาก    เราประกาศจะยิงเรือทุกลำใน war zone    แต่ถ้าเรือสินค้าชาติเป็นกลาง/ชาติมหาอำนาจผ่านมา   เราจะกล้ายิงเรื่อยเปื่อยหรือ
ต้องตรวจสอบเป้าให้ดีไม่งั้นจะกลายเป็นประกาศสงครามเพิ่ม
ยิงอาวุธจริงไม่ง่ายเหมือนเล่น game 

โดยคุณ boonrat เมื่อวันที่ 12/10/2011 22:05:03


ความคิดเห็นที่ 92


เรือดำน้ำในใจผมนะ
จะมีเมื่อไหร่ ไม่รู้
เรือดำน้ำ โตหน่อยเดินทางได้ไกล--ไม่ต้อง hitech มากนัก(เช่น  ไม่ต้อง AIP)--อยู่อันดามัน  --ใช้ตัดเส้นทางลำเลียงข้าศึก(ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร)  ในมหาสมุทรอินเดีย 
ในอ่าวไทย ปล่อยให้เรือรบผิวน้ำ,เครื่องบิน,ทุ่นระเบิด,เรือประมงติดอาวุธฯลฯเค้าทำงานเถอะ แค่นี้เสียงใต้น้ำก็ดังสนั่นมั่วจนเรือดำน้ำแยกเป้าไม่ได้แล้ว

โดยคุณ boonrat เมื่อวันที่ 12/10/2011 22:25:06


ความคิดเห็นที่ 93


ตอบคุณ juldas  ในโพสต์   2011-10-12  11:30:34
เห็นคุณ juldas กล่าวถึงประวัติศาสตร์   นี่เป็นสิ่งที่ถูกต้อง  รักจะรู้เรื่องทหารต้องศึกษาประวัติศาสตร์---เค้าเรียกว่า  ประวัติการยุทธ   ซึ่งจะช่วยบอกแนวโน้วการรบ/อาวุธ/บทเรียนฯลฯ

เพียงแต่อย่าไปยกตัวอย่างประวัติการยุทธ  ที่ไกลตัวไกลประเทศ(ปัจจัยสิ่งแวดล้อมต่างกัน)  เอาของไทยก่อนดีกว่า-------------------------ผมจะเล่าให้ฟัง--------------เดี๋ยวมา
 

โดยคุณ boonrat เมื่อวันที่ 12/10/2011 22:44:48


ความคิดเห็นที่ 94


ผมไม่ใช่ทหาร (จริงๆเรื่องแบบนี้ อาจจะต้องทหารเฉพาะทางด้วย ถ้าไม่ตรงสายตรงเหล่า อาจจะนึกภาพไม่ออกได้เหมือนกัน เหมือนถามหมอฟัน เรื่องการผ่าสมอง หมอเหมือนกัน แต่คนละสาย) ก็เลยได้แต่รับฟังเป็นข้อมูลไป

แต่กระทู้นี้ ก็มีเรื่องน่าคิด เพราะหลักการใหญ่ในการอนุมัติงบประมาณ ที่ไหนๆก็เหมือนกัน คือดูจาก 2 หลัก คือ "ความสามารถในการจ่าย" และ "เหตุผลในการจ่าย" พุดง่ายๆก็ มีตังซื้อมั๊ย และ ซื้อมาแล้วคุ้มหรือไม่  

เรื่องนี้ ฟังๆแล้ว เหมือนได้ความว่า คุณ boonrat  เองท่านก็ไม่ได้ค้านการมีเรือด. เพียงแต่นำเสนอข้อมูลอีกด้านว่า ถ้าจะมีก็ควรศึกษาในประเด็นต่างๆให้รอบคอบ ในบางประเด็น ผมต้องยอมรับว่า ไม่เคยมีใครเอ่ยถึงมาก่อน เรื่องเหล่านี้ หากทาง ทร. ได้มีการศึกษาไว้แล้ว ก็แสดงว่าข้อกังวลหมดไป แต่การคุยกันตรงนี้ มันก็แหม่ เป็นการคุยกันแบบไม่เป็นทางการอะไร ถ้าเป็นการซักถามกันในคณะกรรมาธิการ ก็คงมีมรรคผลมากกว่านี้

นี่ก็คือ "เหตุผลในการจ่าย" นั่นแหละ

ส่วน "ความสามารถในการจ่าย" ได้ความว่า ทร. มีงบประมาณอยู่แล้ว (จริงๆผมก็ยังงงๆว่า มีงบอยู่แล้ว หมายความว่าอะไร แต่ไม่เป็นไร ท่านว่ามี ผมก็ว่ามี) ประเด็นนี้ก็เป็นอันผ่านไป     

โดยคุณ Naris เมื่อวันที่ 12/10/2011 23:06:45


ความคิดเห็นที่ 95


ตอบท่าน boonrat นะครับ ดีแล้วครับที่มีคนเห็นต่าง เพราะประเทศเราเป็นประชาธิปไตร คือเหมือนท่าน boonrat พูดว่า ถ้ามันไม่จำเป็นไม่มีภัยคุกคาม ก็ไม่ต้องซื้อ อย่าซื้อเพราะความชอบ

อาวุธในกองทัพเราก็ซื้อเพราะความมั่นคงของประเทศนะครับไม่ใช่เพราะความชอบแต่อย่างใด กริฟเพ่น รถเกาะ เฮลิคอปเตอร์ทั้ง black hawk และโจมตี ก็ซื้อเพราะความมั่นคงของประเทศ เงินที่ใช้ในการซื้ออาวุธทั้ง 3 เหล่าทัพรวมกันแค่ร้อยละ 2-3 ของgdp แค่ 3 เปอร์เซ็นจากรายได้มวลรวมของประเทศ ที่จัดมาให้ซื้ออาวุธ บางประเทศที่เป็นคอมมิวนิส ใช้เกือบร้อยละ 50 เช่นใครคงไม่ต้องบอก อเมริกาเกือบร้อยละ 20 ไม่รู้เพิ่มหรือลดยัง ประเทศเราถือว่าน้อยแล้ว ไม่ได้เป็นการ เสียเงินประชาชนเปล่า เปล่าแต่อย่างใด ครับ ไม่ได้กระทบกระเทือนเราอย่างแน่นอน ประเทศเราแน้นด้านความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นหลัก แต่ที่เห็นซื้อเยอะยัง ซื้อบ่อย ซื้อแต่ นาโต้ ก็เพราะประเทศเราหาเงินเข้าประเทศได้มาก 3 เปอร์เซ็นของเรา อาจเป็น 40 เปอร์ของใครบางคนก็ได้ครับ และถ้าเราได้มาจะเป็นประโยชน์ต่อความมั่นคง เศรฐกิจดีขึ้น เพราะนักลงทุนมั่นใจ เหมือนท่านลงทุนในอเมริกา ก็ไม่ต้องกลัวอเมริกาจะถูกประเทศไหนโจมตี และที่ซื้อเพราะเรือดำน้ำชุดนี้จะใช้การฝึก เรือชุดนี้จะเน้นการฝึก แต่การรุกก็ทำได้ และจะเป็นผลดีต่อ การทูตทหาร และมีปากเสียงในเวทีโลก ไม่ใช่พูดอะไรก็ไม่มีใครฟัง ต้องเดินหนีเอามันเสียหน้าครับ และเป็นการกระชับความสัมพันธุ์กับประเทศผู้ซื้อด้วย สังเกตได้จากที่ผ่านมาอาวุธบางอย่างเราก็ไม่ได้อยากได้ แบบนั้นหรอก แต่ซื้อเพื่อกระชับความสัมพันธฺุ็์ ครับ

ผมไม่อยากพูดอะไรมากกว่านี้ แต่บอกได้ว่าได้แน่เรือชุดนี้ได้แน่ ไม่อยากพูดมากกว่านี้ใครจะเชื่อก็เชื่อนะครับ เอาศักดิ์ศรีผกผันถึงชาติหน้า เป็นเดิมผันครับ (ศักดิ์ศรีมีน้อย ต้องใช้แบบผกผันข้ามชาติเลยครับ)





โดยคุณ general เมื่อวันที่ 12/10/2011 23:54:20


ความคิดเห็นที่ 96


asroc (anti submarine rocket ) ของเราระยะยิง 22 km ระเบิดน้ำลึก อันนี้ ไม่เกิน 20 m

ตอปิโดของสกอเปี้ยน 50 km

เรื่องโซนา เรือดำน้ำจับได้ไกลกว่าเรือผิวน้ำ 3 เท่า

             เรือดำน้ำจับเป้าได้ไกลกว่าเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำ 2 เท่า

        เรียกว่าตายแบบไม่ได้ตั้งตัว แถวบ้านเรียกล้มทั้งยืน




โดยคุณ general เมื่อวันที่ 13/10/2011 00:11:07


ความคิดเห็นที่ 97


ข้างบนเรืออังกฤษที่รับประทานเอ็กโซเซ็ตในสงครามแย่งเกาะอก ล้อเล่น เกาะโฟคแลน

เห็นท่านจูพูดถึงเลยเอามาให้ดู

ข้างเรือที่รัปประทาน ตอปิโด แซ่บทั้งสอง





โดยคุณ general เมื่อวันที่ 13/10/2011 00:25:22


ความคิดเห็นที่ 98


แถมตอปิโดอีก ภาพ กับ sub ที่ eat asroc



โดยคุณ general เมื่อวันที่ 13/10/2011 00:36:09


ความคิดเห็นที่ 99


ลองภาพ ตอปิโดใหม่มันไม่ขึ้น

โดยคุณ general เมื่อวันที่ 13/10/2011 00:40:36


ความคิดเห็นที่ 100


เสนอให้ปักหมุดครับ 

โดยคุณ Eak เมื่อวันที่ 13/10/2011 03:12:03


ความคิดเห็นที่ 101


จริงจริงผมว่าเราไม่ต้องพูดแบบนี้แล้วแหละว่า เอา หรือ ไม่เอา เพราะเบื้องบน เค้าเอาไปแล้ว แล้วบอกได้แค่นี้

ผมลืมข้อดีอีกข้อ แต่ท่านจูตอบให้แล้ว คือไม่ต้องห่วงว่าจะซ้ำรอย แฮริเออร์ เพราะ เยอรมันเค้ายกอุปกรณ์ต่างต่างให้หมด อะไหล่เพียบ ยังกะเราผลิตเอง เพราะเรือชุดนี้ไม่อยู่แล้ว จึงไม่มีประโยนชที่จะเก็บไว้ ไม่ต้องห่วงเรืออะไหล่

ผู้บัญชาการกองเรือดำน้ำพูดว่า เรือจะออกลาดตะเวนและทำภาระกิจโดย พลัดกัน 3 ลำ 1ลำ stand by รอ พูดอย่างนี้แสดงว่า จะเอาไว้อ่าวไทยฝั่งเดียวหรือเปล่า แล้วท่านก็พูดว่า ท่าเรือดำน้ำ ไม่มีหลังคา จะโชว์เลย ว่าเรือเราออก หรือเข้า ใช้จิตวิทยา ให้ข้าศึกระแวงเมื่อเราออกเรือ ( จริงจริงผมว่าเพราะตัดงบออกส่วนหนึ่ง จาก 7700 พันล้าน เหลือ 6900 พันล้าน แล้วงบส่วนที่ตัดออกไปเป็นส่วนของโรงเก็บ )

จากข้อดี และข้อมูลที่ผมให้ไปทั้งหมด มันก็สมเหตุสมผลที่จะทำให้เราภูมิใจกับ u-206 แล้วนะ

และ ตอบท่าน boonrat เรื่องเรือประมงเต็มไปหมด ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ผมก็ไม่เห็นเรือประมงอยู่ในยุทธศาสตร์ที่สำคัญเลย มีเรื่องจริง อ่าวไทยคงเป็น war zone แล้วแหละ ไม่มีใครมาจับปลาหรอก ครับ

แถมภาพเครื่องยต์เรือ opv  ลำใหม่ซึ่ง เครื่องยนต์ในเรือดำน้ำ เป็นแบบ เดียวกัน ไม่ต้องห่วงเรื่องซ่อมเครื่องยนต์

เครดิตภาพ จำไม่ได้แล้ว ใครถ่ายขอเสียงหน่อย ครับ




โดยคุณ general เมื่อวันที่ 13/10/2011 05:48:35


ความคิดเห็นที่ 102


แล้วที่ท่าน boonrat บอกว่าอยากได้เรือดำน้ำที่ลาดตะเวนได้ไกลไกล ก็ลำนี้ละครับ เพราะเราใช้วิธีเดียวกับเยอรมันนี คือพอไปไกลถึงจุดหนึ่ง ก็จะมีเรือดำน้ำอีกลำแบบแล่นมาเติมของให้ส่วนใช้เรือดำน้ำเหมือนกันมาเติมให้ เยอรมันเค้าใช้เครื่องอีดิกม่า แต่เราใช้วิธีนัดกันไว้ก่อน ซึ่งวิธีนี้เยอรมันใช้บ่อยมากในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

โดยคุณ general เมื่อวันที่ 13/10/2011 05:55:24


ความคิดเห็นที่ 103


พิมพ์เยอะแล้วกดส่ง----------ข้อความหายเกลี้ยง
สรุปสั้นๆดีกว่า

ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1, ครั้งที่ 2,สงครามเกาหลี,สงครามเวียตนาม,ติมอร์,โจรโซมาเลีย,จนถึงดาร์ฟู
การใช้กำลังรบขนาดใหญ่ของไทยจะมีมหาอำนาจชี้นำอยู่เบื้องหลัง

สงครามในอนาคตไทย( 5ปี-10ปี)จะต้องซื้ออาวุธอะไรคงต้องประเมินจากท่าทีของมหาอำนาจว่าจะชี้นำให้ไทยรบกับใครหรือปฏิบัติการอะไร

ต้องใช้เรือบรรทุกเครื่องบินหรือเรือดำน้ำหรืออาวุธอะไร
ส่วนที่ยิงกับเพื่อนบ้านเปาะๆแปะๆ เดี๋ยวเดียวก็เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้าหรือเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามฟุตบอลล์ ผมถือว่าเป็นScope เล็กๆ

โดยคุณ boonrat เมื่อวันที่ 13/10/2011 06:02:56


ความคิดเห็นที่ 104


ผมลองใช้เวทีนี้ทดลองชี้แจง  คิดว่าพอจะมีคนทั่วไปเข้าใจ   เพื่อลดความเข้าใจผิดของสาธารณะชน
เพิ่มให้คุณ general 2011-10-13  05:48:35  อีกนิดนึง-----ที่ว่า----ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ผมก็ไม่เห็นเรือประมงอยู่ในยุทธศาสตร์ที่สำคัญเลย-----------------

คุณ general เอ่ยมาก็ดีแล้วครับ-------สมัยนั้นถือว่าไม่มีระบบกำลังพลสำรอง--สมัยนี้เรือประมงอาจถูกเกณฑ์มาเป็น เรือตรวจการ/เรือกวาดทุ่นระเบิด/เริอลำเลียงฯลฯผมเชื่อว่าถ้ามีสงครามใหญ่(ถ้ามีนะ)เรือประมงคงแล่นเยอะ

โดยคุณ boonrat เมื่อวันที่ 13/10/2011 06:18:29


ความคิดเห็นที่ 105


หรือไม่ก็ใช้รถกะบะtoyotaติดปืนเอาเหมือนทางแอฟริกาใช่มั๊ยครับ กรณีรูปแบบการทำสงครามเราคงจะคิดล่วงหน้าไม่ได้หรอกครับว่ามันจะเป็นในแนวทางใหนบนบก ใน น้ำ หรือในอวกาศ(พิมพ์ถูกครับ)ซึ่งหน้าหรือกองโจร การเตรียมพร้อมไว้ก่อนจะดีกว่ามั๊ยแล้วไม่เห็นพูดถึง อินโดจีน ช่องบก ร่มเกล้าละครับว่าเรารบทำไม ใครชี้นำเราแล้วที่ว่ายิงกันเปาะแปะที่ชายแดนนี่ไปเห็นเองในพื้นที่หรือแค่ดูผ่านจอครับ ตรงนี้ผมขอแรงหน่อยนะครับเพราะฟังดูเหมือนไม่ให้เกียรติทหารที่เค้าเสียสละเท่าไหร่ แต่กรณีนี้ก็เป็นตัวอย่างให้เห็นแล้วครับว่าความพร้อมของ ยุทโธปกรณ์มีความสำคัญอย่างไรไม่งั้นคงไม่จบเร็วอย่างที่เห็นลองถ้าเราไม่มีปืนใหญ่เครื่องบินดูสิเค้าคงไม่เลือกรบกันแค่นี้นี่เพราะเราพร้อมมากกว่าการรบจึงไม่ขยายไปมากกว่านี้ ในเมื่อเราไม่คิดจะเป็นฝ่ายรุกเราก็ต้องทำรั้วเราให้แน่นไว้ก่อนละครับ

ความจริงเอาแค่เรื่องเรือดำน้ำดีกว่าครับผมกำลังอ่านเพลินๆอย่าเพิ่งนอกเรื่องเลย(ถ้าแรงไปขออภับด้วยครับ)อ้อแถมนิดเรื่องเรือประมงตอนสงครามโลกครั้งที่สอง ความจริงก็มีการใช้ในการหาข่าวลาดตะเวณตามชายฝั่งอยู่บ้างแต่สมัยนั้นไม่มีเรือประมงที่ใหญ่พอจะออกทะเลในระยะไกลได้หรอกครับมีแค่ประมงชายฝั่งแล้วส่วนใหญ่ก็ใช้แรงคนแรงลมจะเอาไปช่วยรบยังไงผมยังสงสัยอยู่

โดยคุณ hinnoi เมื่อวันที่ 13/10/2011 07:37:07


ความคิดเห็นที่ 106


เครื่องยนต์ OPVและเครื่องยนต์เรือดำน้ำ เป็นแบบเดียวกันใด้อย่างไร? ขนาดและรูปแบบการใช้งานก็ต่างกัน

เครื่องยนต์ OPV ใช้ขับเคลื่อนใบจักร แต่เเครื่องยนต์เรือดำน้ำใช้สำหรับชาร์ตไฟฟ้าลงสู่แบตเตอรรี่ไม่ใช่เหรอครับ

ทำไมถึงใช้มอเตอร์ในการขับเคลื่อนใบจักรเรือดำน้ำก็คงทราบกันดีอยู่นะครับ

ส่วน u206a เป็นเรือดำน้ำขนาดเล็ก 500ตัน มีข้อจำกัดในเรื่อง เสบียงและเชื้อเพลิง ระยะเวลาปฏิบัติการ พื้นที่ปฏิบัติการภายในเรือของกำลังพลก็จำกัด

รุ่นนี้สร้างมาเพื่อลาดตะเวณแถบชายฝั่ง ไม่เหมาะที่จะปฏิบัติการไกลๆัดั่งเช่น ขนาด 1000ตันขึ้นไป

โดยคุณ fantom เมื่อวันที่ 13/10/2011 07:38:18


ความคิดเห็นที่ 107


อ้อผมเองก็ชอบการให้ข้อมูลหลากมุมของคุณ boonrat นะครับเลยไม่อยากให้ไปทางอื่นเพราะมีหลายเรื่องที่ผมไม่เคยนึกเคยรู้ส่วนเรื่องอื่นๆที่ผมบ่นไว้เห็นเถียงกันไปหลายเว๊บแล้วไม่จบซักที

โดยคุณ hinnoi เมื่อวันที่ 13/10/2011 07:47:33


ความคิดเห็นที่ 108


ขออภัยที่เขียนไม่เคลียร์ ท่าน fatom (opv  ลำใหม่ซึ่ง เครื่องยนต์ในเรือดำน้ำ เป็นแบบ เดียวกัน ไม่ต้องห่วงเรื่องซ่อมเครื่องยนต์) เครื่องยนต์ดีเซลของ u 206 a คล้ายเครื่องยนต์ดีเซลของ opv ลำใหม่ มาจากเยอรมันเหมือนกันข้างในเกือบเหมือนกันเลยต่างแค่ขนาด และเรื่องอื่นอีกเล็กน้อย

ยืนยัน 100 เปอร์เซ็น

เครื่องจักรใหญ่ดีเซล MTU 12V493 AZ80 GA กำลัง 441 กิโลวัตต์ 2 เครื่อง


โดยคุณ general เมื่อวันที่ 13/10/2011 08:18:41


ความคิดเห็นที่ 109


สงครามถ้ามันจะเกิดมันจะมีเค้าลางอยู่สงครามโลกครั้งที่ 2 อเมริกา ได้เค้าตั้งนานแล้ว จนเกือบลอบสังหารหิตเลอร์ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 หิตเลอร์ก่อสงครามเพราะเชื่อว่าอาวุธชนิดใหม่ที่วิจัยอยู่จะนำชัยมาให้เขาได้ อาวุธนิวเคลียร์ แต่ทำไม่สำเร็จ  โอกาสที่อ่าวไทยจะถูกปิดใน 50 ปีนี้ผมว่าเป็น 0 แต่ผมก็ยืนยันไม่ได้ แต่ที่ซื้อมาซื้อมาฝึกและเก็บเกี่ยวองค์ความรู้เป็นหลักเพื่อสร้างเรือดำน้ำขนาดเล็กให้สำเร็จตามแผน และใช้รักษากฏหมาย พวกค้ายา แรงงานผิดกฏหมาย ลักลอบขายน้ำมัน โผล่ไปจับมันเลย และอาวุธนี้เราซื้ออยู่แล้ว และสร้างความสุมดุลทางทหารในภูมิภาค ไม่ได้แปลกอะไร ไม่ได้จะเอาไปรบกับใคร แค่เป็นหลักประกันความมั่นคงของประเทศ เท่านั้น มันเป็นเงินที่เค้าจัดมาให้ซื้ออาวุธ จะเอาไปสร้างถนน หรือ ทั่วโลกเค้าก็ซื้อหมด สกอเปี้ยน กิโล มันก็เพื่อนเล่น u-206 a เรานี้แหละ แค่เอาไว้ค้านกัน ครับ


โดยคุณ general เมื่อวันที่ 13/10/2011 08:37:26


ความคิดเห็นที่ 110


ยืมภาพ mini submarine rtf


โดยคุณ general เมื่อวันที่ 13/10/2011 08:49:31


ความคิดเห็นที่ 111


สนับสนุนเรื่อง คจญ.คับ เรือเราใน ทร ส่วนใหญ่จะใช้ของบริษัท MTU เครื่องขับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าก็ MTU อย่างชุดเจ้าพระยาก็ MTU 20V 1163 TB83 การซ่อมทำคงไม่มีปัญหาอะไร เครื่องยนต์มันก็จะมีระบบกลไกการทำงานคล้ายๆกันครับ อย่างตำราของ กฝร ก็จะเป้นของเครื่อง MTU เลย รู้ทุกซอกทุกมุม สำหรับโครงการนี้ผมก็อยากให้ผ่านสักที ทร.ขออะไรกว่าจะได้ทีก็ยากอยู่แล้ว มันน่าน้อยใจนัก

โดยคุณ boatNC108 เมื่อวันที่ 13/10/2011 10:26:11


ความคิดเห็นที่ 112


MTU 20V 1163 TB83

โดยคุณ boatNC108 เมื่อวันที่ 13/10/2011 10:32:04


ความคิดเห็นที่ 113


ท่าน boatnc108 ไม่ต้องน้อยใจหรอกครับ เชื่่อผมว่าเรือชุดนี้ได้แน่นอน ถ้าไม่เป็นจริงตามที่ผมพูดผมวานท่าน boatnc108 เอาเครื่องยนต์ mtu มากระแทกหน้าผมเลยครับ






โดยคุณ general เมื่อวันที่ 13/10/2011 11:02:13


ความคิดเห็นที่ 114


คงยกไม่ไหวครับ ใหญ่เกิน ร้อนด้วย เกลียดเลยละห้องเครื่องเนี่ย แต่ผมคิดว่าที่ยังไม่อนุมัติอาจเป็นเพราะ เรื่องน้ำท่วมก็ได้ครับ คุณครูท่านนึงที่เค้าสอนผมเค้าก็บอกว่าได้คับ ขออนุญาตไม่เอ่ยแล้วกัน

 

โดยคุณ boatNC108 เมื่อวันที่ 13/10/2011 11:08:25


ความคิดเห็นที่ 115


ไปขุดหา เหตุ มาครับ  5 5 5 5 5 5 ..... ความเสี่ยงการปิดอ่าว....แค่ความเห็นน่ะครับ...ไม่ใข่ข้อมูลที่จะไปอ้างอิงใด ๆ นะครับ....

 

 


โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 13/10/2011 11:38:16


ความคิดเห็นที่ 116


และขอโฆษณา นิยาย ที่ผมแต่งแต่ไม่เสร็จ...เนื่องจาก ดันไปอ้างอิงกับ ชื่อ ร.ล.จริง ๆ...ซึ่งในนิยายที่จะต่อจากนั้น จะต้องมีการสูญเสีย...ซึ่งดูจะไม่เหมาะสมเกินไป...นิยายผมเลย ไม่มีวันจบน่ะครับ...5 5 5 5 5 5

http://www.thaifighterclub.org/webboard.php?action=detailQuestion&questionid=6477&topic=%B9%D4%C2%D2%C2%20%C0%D2%A4%B5%E8%CD%E0%B9%D7%E8%CD%A7%20%B9%D4%EA%B4%B4%B4%B4...%B9%D6%A7...%A4%C5%CD%A7%E4%B7%C2%20%C0%D2%A4%201.1&PHPSESSID=ae6615072

ลองอ่านในลิงค์น่ะครับ เป็น ภาค 1.1 ....และในลิงค์ข้างต้น ก็จะมี ลิงค์ ทีผมเขียนไว้เป็นภาคแรก ถ้าบางหน้าได้หายไป...ก็ลองไปหาอ่านต่อจากภาค 1 รึกันน่ะครับ...5 5 5 5

 

 

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 13/10/2011 11:44:32


ความคิดเห็นที่ 117


งปฯ ทางทหาร สหรัฐเมื่อปี 2010 เท่ากับร้อยละ 4.7

http://en.wikipedia.org/wiki/Military_budget_of_the_United_States#cite_note-FY2010Budget-28

ช่วงที่งปฯสูงถึง 20 เปอร์เซ็นต์นั่นคือตอนเศรษฐกิจล่ม ช่วงปี 80 

โดยคุณ tongwarit เมื่อวันที่ 13/10/2011 14:46:56


ความคิดเห็นที่ 118


คุณ general ว่าเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าเราจะได้เรือดำน้ำผมก็ดีใจึครับ  ดีีใจครับ 

โดยคุณ tongwarit เมื่อวันที่ 13/10/2011 14:48:17


ความคิดเห็นที่ 119


ผมได้แนวคิดมากมายจากกระทู้นี้
ความจริงมีประเด็นที่อยากทดลองหยั่งความเห็นเรื่องเรือดำน้ำเพิ่มอีก  แต่คงอีกซักระยะจะมาขุดกระทู้
ขอบคุณ 

โดยคุณ boonrat เมื่อวันที่ 14/10/2011 00:41:42


ความคิดเห็นที่ 120


แอดมินช่วยปักหมุดกระทู้นี้หน่อย ผมละชอบอย่างแรง ปกติเป็นคนไม่ค่อยชอบอ่าน ส่วนมากจะดูภาพเสียมากกว่า แต่กระทู้นี้ผมอ่านเพลินเลย อ่านแล้วอ่านอีก 

ปล.ถึงท่าน General ตามที่ท่านบอกว่าได้แน่ๆ อันนี้มีความน่าเชื่อถือมากแค่ไหนครับ ผมละไม่กล้าหวังไว้เยอะเหมือนคราวที่แล้ว เจอนายกฯสับขาหลอก เล่นเอาน้ำตาครอเบ้ากันเลยทีเดียว 

โดยคุณ funmode77 เมื่อวันที่ 14/10/2011 06:08:27


ความคิดเห็นที่ 121


เน็ตมีปัญหาเข้าไม่ได้มาสองวัน เพิ่งจะได้ตอนนี้ ขอบคุณท่านboonrat ที่มาแชร์ความเห็นครับ แต่ส่วนตัวยังเชื่อว่า U-206A นั้นเหมาะสมและคุ้มค่ามากที่สุดในตอนนี้ ถึงแม้ว่าจุดด้อยจะมีซึ่งมันมีทุกแบบไม่ว่าจะเป็นเรือชนิดใด แต่ว่ามองในด้านต่างๆทุกแง่ทุกมุมแล้วคุ้มมากกว่าข้อเสียครับ และการจัดหาในช่วงนี้ผมว่าไม่ผิดอะไรที่กองทัพเรือจะจัดหา ทั้งท่านนายพล(general) และ ป๋าจู ก็ชีแจงอย่างมีหลัการและเหตุผล ทำให้รู้อะไรได้อีกในหลายๆอย่างที่ไม่เคยรู้มาก่อนครับ และขอยืนยันการสนับสนุนการจัดหาเรือดำน้ำชุดนี้ของกองทัพเรือครับ ผมมีเหตุผลที่สนับสนุนไม่ใช่แค่อยากได้

ส่วนท่าน ALPHA001ครับ แบบว่ารูปมันเล็กไปครับ

โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 14/10/2011 06:40:20


ความคิดเห็นที่ 122


มีอะไรดีๆก็แบ่งปันกันเรื่อยๆนะครับอ่านเพลินเหมือนกันได้ทั้งสองมุมทั้งเห็นด้วยกับไม่เห็นด้วย(แบบมีเหตุผล)

โดยคุณ hinnoi เมื่อวันที่ 14/10/2011 09:31:56


ความคิดเห็นที่ 123


  ผมชอบเรือนี้คลาสสิคจริง ตรงโหนกนี่แหล่ะ ไม่เหมือนใคร

หลงไหลมาก ใครน๊ะเลือกมาให้เลือก ยิ่งดูนานชอบมาก ถูกก็

ถู ก&nb sp; เหตุผลที่จะซื้อก็เต็ม  ไม่เอาก็...



โดยคุณ kabinblade เมื่อวันที่ 14/10/2011 10:11:34


ความคิดเห็นที่ 124


ท่าน boornat มาแต่ละทีทำเอาผมเหนื่อยเลย ข้อมูลนะมีอยู่แล้ว แต่ท่าน boorant นี้ซอกแซกมาก คราวหน้าถ้าจะมาอีก ก็บอกล่วงหน้านะครับ เดี๋ยวจนมุม




โดยคุณ general เมื่อวันที่ 14/10/2011 10:38:19


ความคิดเห็นที่ 125


ท่าน boornat มาทีเอาซะผมเหนื่ยซอกแซกจิงจิง  ถ้าคราวหน้าจะมาอีก บอกก่อนล่วงหน้าก็ดีนะครับ เดี๋ยวจนมุม

โดยคุณ general เมื่อวันที่ 14/10/2011 11:21:38


ความคิดเห็นที่ 126


ว่างๆมาอีกครับ

คราวหน้าคงจะเป็นเรื่องเรือดำน้ำ usa และ อังกฤษ ที่เข้ามาในอ่าวไทย (เกาะริ้น)ปี 2485 จำนวน 2 ลำ  ปี 2488 เข้ามาหลายลำแถมยิง ร.ล. สมุย จม( 17 มีนาคม 2488 เวลา 02:45  น.)

ทะเลอันดามันก็มีเข้ามาหลายลำ  มันยังไงกันแน่

โดยคุณ boonrat เมื่อวันที่ 14/10/2011 12:47:59


ความคิดเห็นที่ 127


ช่วงนี้บัตรสนเทห์กำลังฮิต ติดตามกันไปก่อน
ฉบับเต็มก็มีข้อมูลมากพอดู  แต่คงเอามาลงทั้งฉบับไม่ได้เพราะจะถูกฟ้อง

ในนั้นเอ่ยถึงชื่อ broker ที่เก่งกาจในวงการด้วย

โดยคุณ boonrat เมื่อวันที่ 17/10/2011 07:32:26